เมียเปิดใจ หลังผัวฆ่าลูก-ตัว 4 ศพ ยันไม่ได้หนีไปไหน แต่ออกจากบ้านไปหางานทำ หวังหาเงินใช้หนี้ 2 แสน ยอมรับผิดไม่รับโทรศัพท์ แต่ก็ติดตามเฟซบุ๊กสามีตลอด สุดช็อกตอนเห็นโพสต์ภาพลูกเรียงราย รีบติดต่อกลับแต่ไม่ทันการณ์แล้ว ด้านแม่ผัวครวญถ้าลูกสะใภ้รับโทรศัพท์ คงไม่เกิดเรื่องเศร้าอย่างนี้
จากกรณีนายไพศาล ยศขุน อายุ 40 ปี รัดคอลูก 3 คนคือ ด.ญ.ศศิธร ยศขุน 14 ปี ด.ช.ศราวุธ ยศขุน 8 ขวบ และ ด.ญ.ธนภรณ์ ยศขุน 4 ขวบ จนเสียชีวิต แล้วแขวนคอตาย
ในบ้านที่อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช โดยสาเหตุสันนิษฐานว่าเครียดจากนางจุฑาทิพย์ สงสุข อายุ 38 ปี ภรรยาหนีออกจากบ้าน และปัญหาหนี้สินรุมเร้า เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ที่วัดสระแก้ว ม.1 ต.ปากพนังฝั่งตะวันตก อ.ปากพนัง จ.นคร ศรีธรรมราช สถานที่บำเพ็ญกุศลศพของ นายไพศาลและลูกทั้ง 3 คน ซึ่งนางประเสริฐ ยศขุน อายุ 64 ปี แม่นายไพศาล และ ญาติพี่น้องนำมาประกอบพิธีทางศาสนา ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า และจะทำพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 20 มิ.ย.
นางประเสริฐกล่าวว่า มีลูกทั้งหมด 7 คน นายไพศาลเป็นลูกคนที่ 2 ก่อนจะก่อเหตุ ได้โทรศัพท์มาหาตนตอนค่ำและพูดหลายอย่าง
โดยบอกว่าหลังกลับจากเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ ธานี ภรรยาหนีออกจากบ้านไปแล้ว และจะนำลูกทั้ง 3 คนให้มาอยู่กับตน จึงขอคุยกับหลาน และถามด.ญ.ศศิธรว่าอยากอยู่กับย่าไหม แต่หลานบอกว่ายังไม่มาเพราะจะเรียน ม.3 อีก 1 ปี จะดูแลน้องเองไม่ต้องห่วง และยังถามหลานทั้ง 3 ว่ารักพ่อไหม หลานทุกคนบอกว่ารัก
"จากนั้นได้พูดโทรศัพท์กับลูกชายต่อ โดยเขาบอกว่าเลี้ยงลูกเองได้ แม่แก่แล้วไม่อยากให้ลำบากเลี้ยงหลานอีก และยังพูดอีกว่า ถ้าผมตายขอให้รับกลับบ้านด้วย ซึ่งไม่คิดว่าลูกจะทำอย่างนี้" นางประเสริฐกล่าวทั้งน้ำตา
นางประเสริฐกล่าวต่อว่า มาทราบภายหลังว่าก่อนตายนายไพศาลพยายามโทรศัพท์ตามหานางจุฑาทิพย์ลูกสะใภ้ แต่ไม่รับสาย
คิดว่า ถ้านางจุฑาทิพย์รับโทรศัพท์คงจะไม่เกิดเรื่องเช่นนี้ เพราะอาจแก้ปัญหาได้ ซึ่งหลังเกิดเหตุลูกของตนอีกคนโทร.มาบอกว่าทั้งนายไพศาลและหลานๆ เสียชีวิตแล้วทั้ง 4 ศพ ทำให้ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก หลังจากนั้นก็ไปรับศพมาบำเพ็ญกุศพ
ด้านนางจุฑาทิพย์ ภรรยาของนายไพศาลและแม่ของเด็ก กล่าวว่า ตนยอมรับผิดที่ ไม่ยอมรับโทรศัพท์นายไพศาล
เพราะหลังออกจากบ้านก็ปิดโทรศัพท์มือถือไว้ แต่ก็ได้ติดตามสามีและลูกทางเฟซบุ๊ก ซึ่งสามีโพสต์ภาพ ลงในเฟซบุ๊กตลอด ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุจนถึง วันสุดท้าย โดยนำภาพลูกๆ มาลงแล้วเขียนข้อความว่า "บอกแม่ด้วย สบายแล้ว ไม่ต้องห่วง" ในช่วงเวลาประมาณ 4 ทุ่มของคืน เกิดเหตุ และได้โพสต์เป็นครั้งสุดท้ายช่วงเวลาประมาณ 02.04 น. เป็นภาพลูกนอนเรียงอยู่ ในบ้าน เขียนข้อความว่า "4 ศพพอไหมสำหรับหนี้สิน" หลังได้เห็นภาพจึงพยายามติดต่อเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ๆ แต่ติดต่อไม่ได้ กระทั่งมาทราบอีกทีในช่วงเช้าอีกวันว่านายไพศาลและลูกเสียชีวิตหมดแล้ว
นางจุฑาทิพย์กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นก็ได้เดินทางมาร่วมงานศพ ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้น ต่างก็รู้กันว่ามาจากเรื่องหนี้สิน
ทำให้ตนกับสามีทะเลาะกัน ก่อนจะออกจากบ้านไปจนเกิดเหตุการณ์ขึ้นในที่สุด และฝ่ายสามีก็ได้โทษว่าตนเป็นต้นเหตุในเรื่องนี้ ส่วนที่ต้องออกจากบ้านเพราะต้องการไปหางานทำ เพื่อหาเงิน ให้ลูกและเอามาใช้หนี้ที่ค้างเจ้าหนี้อยู่ประมาณถึง 2 แสนบาท หากรออย่างนี้ไม่รู้ว่าจะหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้ได้
โดยวันนี้นายพิทักษ์ บริพิศ นายอำเภอสิชล จ.นครศรีธรรมราช กล่าวหลังเดินทางมาคารวะศพผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ศพ ว่า บ้านเดิมของ นายไพศาลนั้นอยู่ อ.ปากพนัง
ทางแม่จึงนำศพมาบำเพ็ญกุศลศพที่นี่ เนื่องจากมีญาติพี่น้องอยู่ที่นี่กันหมด อย่างไรก็ตามทางผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นห่วงในเรื่องนี้เพราะเป็นเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ จึงเดินทางมาดูและเป็นกำลังใจให้กับญาติพี่น้อง ของผู้ตาย ส่วนเรื่องคดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าเป็นคดีที่สิ้นสุดแล้วโดยไม่มีโจทก์จำเลย แต่อย่างใด เนื่องจากเสียชีวิตหมดแล้ว แต่ก็สร้างความสะเทือนใจแก่คนทั่วไป เพราะ เกิดขึ้นในลักษณะนี้อยู่บ่อยครั้ง
เมียโฮเปิดใจ ผัวฆ่าลูก4ศพ แค่ไปทำงาน ไม่ได้ทิ้งบ้าน
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม เมียโฮเปิดใจ ผัวฆ่าลูก4ศพ แค่ไปทำงาน ไม่ได้ทิ้งบ้าน