กรณี ด.ญ.รำไพ ยาวรัมย์ อายุ 14 ปี
ลูกสาวของนางสุดามาศ ยาวรัมย์ อายุ 38 ปี คนงานขนถ่ายสินค้าบริษัท อินเตอร์สตีวีโค จำกัด หายตัวไปขณะตามแม่ขึ้นไปบนเรือบรรทุกสินค้าชื่อเรือปรินซ์ออฟโตเกียว สัญชาติปานามา ขณะจอดเทียบท่าขนส่งไม้สักไปประเทศญี่ปุ่น ที่ท่าเรือสยามไซโล อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา
เพื่อนคนงานช่วยออกตามหาไม่พบ
จนช่วงบ่ายวันรุ่งขึ้นเรือบรรทุกสินค้าก็ออกเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น กระทั่งต่อมาพบศพ ด.ญ.รำไพ เสียชีวิตอยู่บนเรือลำดังกล่าวเมื่อเดินทางไปถึงประเทศญี่ปุ่น และทางการญี่ปุ่นนำศพแช่แข็งส่งขึ้นเครื่องกลับมาเมืองไทย เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยไม่ได้ชันสูตรศพ ตำรวจจึงนำส่งสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตนั้น
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวานนี้ (21 มิ.ย.)
พล.ต.ท.รณรงค์ ยั่งยืน โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.เอก อังสนานนท์ ผบช.ภ.1 พล.ต.ท.สุพจน์ ณ บางช้าง ผบช.กมส. พล.ต.ต.สุรศักดิ์ จ้อยจำรูญ ผบก.สถาบันนิติเวช และ พ.ต.อ.นพ.ภควัฒน์ ประทีบวิศรุต ประธานคณะกรรมการผ่าศพ ด.ญ.รำไพ ยาวรัมย์
แถลงข่าวผลการผ่าชันสูตรศพ ด.ญ.รำไพ
โดย พ.ต.อ.นพ.ภควัฒน์ กล่าวว่า สาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากการขาดอากาศหายใจจากการถูกของแข็งกดทับ พบร่องรอยถูกทำร้ายที่ปาก จมูก ชายโครง และอวัยวะเพศ พบลิ่มเลือดบริเวณรอบตับ มีการถูกทำร้ายทางเพศชัดเจน เพราะมีแผลฟกช้ำที่อวัยวะเพศ ส่วนอสุจิในช่องคลอดอยู่ระหว่างรอผลตรวจ
ทั้งนี้ จากการผ่าศพตรวจเรื่องระยะเวลาตาย พบอาหารที่ยังไม่ได้ย่อย อาทิ ข้าว เนื้อสัตว์ ในกระเพาะอาหาร แสดงว่าเสียชีวิตหลังรับประทานอาหารไม่นาน น่าเชื่อว่าอาจเสียชีวิตช่วงเวลาเรือออก เพราะดูจากอาหารที่ทานน่าจะเป็นอาหารเช้าก่อนขึ้นเรือ