มรณกรรมพระครูชุมแสง หัวใจวาย หรือถูกวางยา?

มรณกรรมพระครูชุมแสง หัวใจวาย หรือถูกวางยา?



มรณกรรมของเจ้าอาวาสวัดโพธิ์สุทธาวาส เมืองปากน้ำโพ อาจจะไม่มีเงื่อนงำหากว่าเหตุการณ์ต่างๆ

จะดำเนินไปตามขั้นตอน ดังนั้น

วันนี้ชุดสืบสวนจึงต้องหาคำตอบให้ได้ว่า ท่านมรณภาพเอง หรือถูกฆาตกรรมอำพรางกันแน่?

มรณกรรมของ พระครูนิวาสสันติธรรม

อดีตเจ้าคณะตำบลโคกหม้อ และเจ้าอาวาสวัดโพธิ์สุทธาวาส อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ อาจจะไม่ได้รับความสนใจมากไปกว่าภิกษุสงฆ์มรณภาพ หากว่าในวันเวลาเกิดเหตุมีการดำเนินการตามขั้นตอนถูกต้องตามครรลองคลองธรรม แต่เมื่อทุกอย่างล้วนเต็มไปด้วยคำถาม วันนี้ญาติใกล้ชิดจึงออกมาเรียกร้องให้พิสูจน์ข้อเท็จจริงที่อยู่เบื้องหลังความตายนี้ใหม่

18 มิถุนายน ถวิล เทียมผล วัย 54 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ 8 ต.เขาค้อ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ในฐานะพี่สาวของพระครูนิวาสสันติธรรม วัย 46 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ต.พิบูลย์ เวียงจันทร์ พงส.(สบ 2) กลุ่มงานสอบสวน บก.ป. ให้สอบสวนคดีมรณภาพของหลวงน้อง ที่เกิดขึ้นเมื่อ 49 วันก่อน

30 เมษายน มีผู้พบร่างพระครูนิวาสสันติธรรมนอนคว่ำหน้า

แขนทั้งสองข้างไพล่อยู่ด้านหลัง อังสะเปื้อนเลือดถลกถึงลำคอ อยู่ภายในกุฏิเจ้าอาวาสวัดโพธิ์สุทธาวาส จึงรีบนำส่ง รพ.ชุมแสง แต่ช้าไปเสียแล้ว พระครูนิวาสสันติธรรมมรณภาพไปก่อนหน้าแล้ว แพทย์ระบุว่า เกิดจากอาการหัวใจล้มเหลวก่อนถึงโรงพยาบาล 2 ชั่วโมง

หลังจากนั้นก็มีพระภิกษุสงฆ์รูปหนึ่ง

มาติดต่อขอรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศล!

ถวิล บอกว่า ชาวบ้านและลูกศิษย์พระครู

ส่วนหนึ่งพบเห็นความผิดปกติในกุฏิเจ้าอาวาส เหมือนกับมีคนพยายามยามรื้อค้นอะไรสักอย่าง หรือมีการต่อสู้ขัดขืนจนข้าวของกระจัดกระจาย นอกจากนี้ยังพบยาฆ่าแมลง แก้วน้ำที่ผสมยาฆ่าแมลง โดยมีสงฆ์รูปหนึ่งมาบอกให้ชาวบ้านนำสิ่งของในห้องไปทิ้งให้หมด

ทั้งนี้ ถวิล อ้างคำพูดของชาวบ้านที่เล่าสู่เธอฟังว่า

พระสงฆ์รูปเดิมให้เหตุผลที่ต้องทำลายหลักฐาน เพราะพระครูทำประกันชีวิตเอาไว้ และยกสินไหมทดแทนให้วัดเป็นผู้รับผลประโยชน์ หากบริษัทประกันรู้ว่าท่านกินยาฆ่าตัวตายจะไม่ได้รับเงินก้อนนี้

ขณะเดียวกัน เสียงร่ำลือจากชาวบ้านที่ว่า

พบรอยขีดข่วน เขียวช้ำตามร่างกายพระครูนิวาสสันติธรรม ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า มรณกรรมครั้งนี้ไม่น่าจะเกิดจากหัวใจล้มเหลว แต่อาจจะเป็นการฆาตกรรมอำพราง ถวิลและครอบครัวจึงแจ้งตำรวจ สภ.อ.ชุมแสง อายัดศพส่งสถาบันนิติเวชวิทยา ผ่าชันสูตรหาสาเหตุการมรณภาพ



ประเด็นสงสัยนี้ เกิดขึ้นเพราะมีการข้ามขั้นตอนทางกฎหมาย

ทั้งการเก็บรักษาวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ การตรวจที่เกิดเหตุของพนักงานสอบสวน ฯลฯ

ที่สำคัญ คือ กว่าข่าวพระครูนิวาสสันติธรรมมรณภาพ

จะถึงหูผู้บังคับบัญชาระดับสถานี ก็ล่วงเข้าสู่อีกวัน และสาเหตุที่รู้ก็เพราะมีการประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ไปรดน้ำศพนั่นเอง!?!

พูดคุยกับชาวบ้านและชุดสืบสวน สภ.อ.ชุมแสง

กระทั่งได้ข้อมูลมาว่า เวลาตี 2 ถึงตี 3 วันที่ 30 เมษายน ซึ่งเป็นห้วงเวลาก่อนเกิดเหตุ พระครูนิวาสสันติธรรมได้โทรศัพท์ไปหาโยมอุปัฏฐากคนหนึ่ง ซึ่งดูแลพระครูมาตั้งแต่เมื่อครั้งบวชเป็นสามเณรที่วัดสุขุมาราม อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร กระทั่งมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโพธิ์สุทธาวาส

ด้วยเป็นยามวิกาลแล้ว

โยมอุปัฏฐากคนนั้นรับโทรศัพท์โดยไม่ได้ดูเบอร์ที่โชว์อยู่หน้าจอว่าเป็นของใคร แต่ไม่มีเสียงพูดคุย นอกจากปรากฏเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด "โอ๊ยๆๆ" อยู่ 3-4 ครั้ง ก่อนสายจะหลุดไป ด้วยความตกใจโยมอุปัฏฐากจึงรีบปิดโทรศัพท์ และเมื่อตั้งสติได้จึงเปิดดูอีกครั้ง ก็พบด้วยความสงสัยว่า เบอร์ที่โทรเข้ามานั้นแท้ที่จริงเป็นของเจ้าอาวาสวัดโพธิ์สุทธาวาสนั่นเอง

โยมอุปัฏฐากคนเดิมจึงรีบโทรกลับไป

แต่ไม่ปรากฏว่ามีคนรับสาย จึงโทรเข้าเครื่องของ ด.ต.ชูชาติ ศรีนวน ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.อ.ชุมแสง ซึ่งประจำอยู่ป้อมตำรวจ ห่างจากวัดไป 150 เมตร

ด.ต.ชูชาติ นอกจากจะทำหน้าที่สายตรวจประจำป้อมตำรวจแล้ว

ยังเป็นลูกศิษย์ที่คอยรับใช้พระครูนิวาสสันติธรรมอยู่เนืองๆ เขาได้รับฟังคำบอกเล่าจากโยมอุปัฏฐากจนหมดสิ้นแล้ว จึงชักชวนอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ที่เข้าเวรด้วย ตรงไปยังกุฏิเจ้าอาวาส ก็พบว่าไม่ได้ล็อกกุญแจ พอเปิดประตูเข้าไปก็พบร่างพระครูนอนคว่ำหน้าไม่ได้สติอยู่บนพื้นห้อง

เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ไม่ได้ดำเนินไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย จึงสร้างความไม่พอใจให้เกิดกับตำรวจระดับสูงในพื้นที่ไม่น้อย ประกอบกับมีกระแสข่าวถึงความไม่ชอบมาพากลออกมาหนาหู พ.ต.อ.สุนทร กมลพันธฤกษ์ ผกก.สภ.อ.ชุมแสง จึงกำชับให้ พ.ต.ต.สมบุญ อิ่มเกิด พงส.(สบ 2) สภ.อ.ชุมแสง ส่งศพพระครูนิวาสสันติธรรมไปตรวจที่สถาบันนิติเวชวิทยา

4 มิถุนายน หรือ 35 หลังมรณกรรม

ผลการตรวจจากสถาบันนิติเวชวิทยาจึงออกมา ระบุว่า สาเหตุเกิดจากระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว ซึ่งชาวบ้านก็ได้รับรู้ผลนี้เช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ชุดสืบสวนได้ตั้งข้อสังเกตเอาไว้หลายประเด็นด้วยกัน

เช่น ในยามวิกาลเช่นนี้เหตุใดกุฏิเจ้าอาวาสจึงไม่ได้ล็อกกลอนประตู หรือจะเปิดรับใครเข้ามาก่อนหรือไม่? แล้วคนคนนั้นได้กลับออกไปก่อนที่จะมีคนไปพบพระครู

หากไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับพระครู แล้วเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร? และเหตุใดท่านถึงสามารถโทรศัพท์ไปหาโยมอุปัฏฐากได้?

คดีนี้ล้วนเต็มไปด้วยคำถามนานาประการ

ที่ต้องได้รับการคลี่คลาย แต่ก็เป็นเรื่องที่ยากไม่ใช่น้อย เมื่อหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุถูกเก็บกวาดทำลายทิ้งไปหมดแล้ว ยากจะตรวจสอบได้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง นับจากนี้ไปจึงเหลือเพียงพยานแวดล้อมต่างๆ ที่ชุดสืบสวนกองปราบปรามจะแสวงหามาพิสูจน์ว่า เป็นการตายตามธรรมชาติ หรือฆาตกรรมอำพราง

ก่อนหน้านี้ 1 วัน เพิ่งนำเสนอรายงานวิเคราะห์แนวโน้มอาชญากรรม

ในอนาคต โดยตำรวจและแพทย์นิติเวช เห็นตรงกันว่า จะมีความสลับซับซ้อน และซ่อนเงื่อนอำพรางมากขึ้นกว่าอดีต ที่สำคัญสิ่งที่น่าหวั่นเกรงที่สุด คือ คดีวางยาพิษ ที่เริ่มมีให้เห็นมากขึ้น

แล้วมรณกรรมของเจ้าอาวาสวัดโพธิ์สุทธาวาส จะเป็นหนึ่งในคดีในอนาคตนี้หรือไม่!?!



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์