แฉปมฆ่าสลด4ศพ ใกล้โดนยึดบ้าน หนุ่มไร้ทางออก ญาติยันไม่ติดใจ

จากคดีสลดนายบุญฤทธิ์ ทิวงศ์วรกุล พ่อค้าหนุ่มคว้าปืนยิงภรรยา พร้อมลูกชายวัย 13 ปี และลูกสาว 9 ขวบ ก่อนระเบิดขมับฆ่าตัวตายตาม สยอง 4 ศพ

คาห้องนอนในบ้านทาวน์เฮาส์ ย่านบางกอกน้อย โดยฝ่ายสามีเคยขายเครื่องมือช่างอยู่ย่านคลองถม แต่พักหลังตกงาน ตร.คาดสาเหตุเครียดปัญหาเศรษฐกิจรุมเร้าเงินทองไม่พอใช้จ่ายภายในบ้านเลยคิดสั้นฆ่ายกครัวตามข่าวที่เสนอไปแล้ว


ความคืบหน้าคดีสลดพ่อยิงดับยกครัว เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. พ.ต.อ.สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล ผกก.สน.บางขุนนนท์ เผยว่า

 ภายหลังรับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าประตูบ้านปิดล็อกจากด้านใน ไฟในบ้านปิดหมด แต่เครื่องปรับอากาศเปิดทิ้งไว้ เจ้าหน้าที่จึงนำบันไดปีนดูที่ระเบียงชั้น 2 พบ ผู้เสียชีวิตนอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องนอน ตรวจสอบไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือรื้อค้นทรัพย์สิน แพทย์นิติเวช ร.พ.ศิริราช และเจ้าหน้าที่พฐ. เข้าเก็บร่องรอยหลักฐานในที่เกิดเหตุพร้อมตรวจคราบเขม่าดินปืนที่มือนายบุญฤทธิ์ เพื่อรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน


สอบพยานซึ่งเป็นเพื่อนบ้านพบว่าผู้ตายมานั่งกินเบียร์เมื่อช่วงเย็นวันอาทิตย์ก่อนเดินกลับเข้าบ้านไปประมาณห้าทุ่ม ตรวจสอบกล้องทีวีวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงก็ไม่พบสิ่งผิดปกติที่บ้านของผู้ตาย เชื่อว่าน่าจะเป็นการฆ่าตัวตายเอง โดยนายบุญฤทธิ์ลงมือยิงคนในครอบครัวเสียชีวิตก่อน จากนั้นจึงยิงตัวเองตายตาม เนื่องจากบาดแผลที่พบแม่และลูกถูกยิงบริเวณศีรษะ


ส่วนนายบุญฤทธิ์มีบาดแผลถูกกระสุนปืนเข้าที่บริเวณปาก ซึ่งคงต้องรอผลตรวจอย่างเป็นทางการจากแพทย์นิติเวชอีกครั้ง ว่ามีสารพิษตกค้างในร่างกายหรือไม่ ซึ่งจะได้สรุปในสำนวนการสอบสวน สำหรับอาวุธปืนเบื้องต้นพบเป็นอาวุธปืนมีทะเบียนผู้ครอบครอง ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบเจ้าของเพื่อเรียกตัวมาสอบปากคำ


พ.ต.อ.สุกิจกล่าวอีกว่า สำหรับสาเหตุ สอบสวนญาติและเพื่อนบ้านใกล้เคียง พบว่านายบุญฤทธิ์ตกงานไม่ได้ทำงานมานานกว่า 3 ปีแล้ว

 นอกจากนี้ยังหยิบยืมเงินจากญาติพี่น้องและเพื่อนสนิทไปพอสมควร และบ้านที่เกิดเหตุยังติดจำนองด้วย ส่วนภรรยาไม่ได้ทำงานอะไร เป็นแม่บ้านอย่างเดียว เชื่อว่าสาเหตุน่าจะมาจากความเครียดเรื่องเศรษฐกิจ ที่ไม่สามารถหารายได้มาจุนเจือครอบครัว ประกอบกับบ้านกำลังจะถูกยึดทำให้ผู้ตายเกิดความเครียดจึงคิดสั้นดังกล่าว


ส่วนที่ร.พ.ศิริราช นายพงษ์ศักดิ์ ทิวงศ์ วรกุล อาของนายบุญฤทธิ์ พร้อมกับญาติไปติดต่อรับศพผู้เสียชีวิตทั้งหมดไปประกอบพิธีทางศาสนา ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้า โดยญาติไม่มีใครติดใจในเรื่องคดี เพราะเชื่อว่าสาเหตุมาจากความเครียดเรื่องเงินค่าใช้จ่ายของครอบครัวนายบุญฤทธิ์


นายพงษ์ศักดิ์กล่าวว่า นายบุญฤทธิ์เคยทำงานเป็นหัวหน้าแผนกขายอะไหล่มอเตอร์เครื่องสูบน้ำ ที่ย่านเวิ้งนครเขษม คลองถม

 ก่อนจะถูกพิษเศรษฐกิจเล่นงาน ประกอบกับเกิดน้ำท่วมใหญ่ในกรุงเทพฯ จึงออกมาเป็นตัวแทนขายสินค้าเอง แต่ธุรกิจไม่ประสบความสำเร็จ จนสุดท้ายทราบว่าไม่ได้ทำงานอะไร และเพิ่งทราบว่านำบ้านไปจำนองไว้แล้วไม่มีเงินส่งจนเจ้าของเงินจะมายึดบ้าน ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจด้วยอารมณ์ชั่ววูบ


"เท่าที่พูดคุยสอบถามเพื่อนสนิทที่เคยทำงานร่วมกับหลานชาย ทราบว่าก่อนที่จะเกิดเหตุ 2 วัน หลานได้ไปยืมเงินจำนวน 2,000 บาท บอกว่าจะเอาเงินไปพาลูกเมียไปหาของดีๆ กิน อาจเป็นมื้อสุดท้าย ซึ่งเพื่อนก็รู้สึกเอะใจอยู่ แต่ไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุ ซึ่ง สงสารเด็กๆ ที่ต้องมาเสียชีวิตไปด้วย สำหรับศพทางญาติจะนำไปตั้งสวดบำเพ็ญกุศลที่วัดแก้ว ซ.จรัญสนิทวงค์ 35 เป็นเวลา 3 วัน จากนั้นก็จะทำพิธีฌาปนกิจ" นายพงษ์ศักดิ์กล่าว


ด้านศ.นพ.วิสูตร ฟองศิริไพบูลย์ แพทย์ประจำภาควิชานิติเวชศาสตร์ ร.พ.ศิริราช เปิดเผยผลชันสูตรศพผู้เสียชีวิตทั้ง 4 รายว่า เสียชีวิตจากอาการสมองฉีกขาดทะลุ และบวมจากกระสุนปืนทะลุผ่านเนื้อสมอง ซึ่งไม่พบสารพิษในร่างกายแต่อย่างใด