จากกรณีเกิดเหตุสะเทือนขวัญเมื่อ นายบุญฤทธิ์ ทิวงศ์วรกุล อายุ 46 ปี หนุ่มขายเครื่องมือก่อสร้าง ซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัว ก่อเหตุใช้ปืนลูกกรด ขนาด .22 จ่อยิงศีรษะ นางสุวรรณา วรรณวัชรกุล อายุ 36 ปี ด.ช.กวินภพ หรือน้องกาย ทิวงศ์วรกุล อายุ 13 ปี และด.ญ.เอมิกา หรือหมวย ทิวงศ์วรกุล อายุ 9 ปี ภรรยาและลูกจนเสียชีวิตในบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น เลขที่ 437/361 หมู่บ้านแก้ววิลล่า ซอยจรัญสนิทวงศ์ 35 แยก 16 ก่อนลั่นไกยิงตัวเองตายตาม โดยตำรวจสันนิษฐานว่า สาเหตุจากพิษเศรษฐกิจที่หัวหน้าครอบครัวตกงาน และแบกปัญหาหนี้สินไม่ไหว จึงสังหารคนทั้งบ้าน
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ที่ รพ.ศิริราช นายแสงตะวัน ทิวงศ์วรกุล อายุ 50 ปี ญาติผู้เสียชีวิตได้นำรถตู้เดินทางมารับศพทั้ง 4 ราย ไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนา ท่ามกลางบรรยากาศอันโศกเศร้าเสียใจ ก่อนเปิดเผยว่า ตนเป็นอาของ นายบุญฤทธิ์ หลังจากพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ก็ไม่ติดใจสาเหตุการตาย เพราะไม่มีร่องรอยการต่อสู้หรือรื้อค้น ประตูบ้านก็ล็อกจากด้านใน ซึ่งนายบุญฤทธิ์ เคยเป็นหัวหน้าฝ่ายขายปั๊มน้ำและเครื่องมือช่างย่านคลองถมมาก่อน เป็นที่รู้จักของพ่อค้าย่านนั้นเป็นอย่างดี กระทั่งเมื่อปี 2553 เกิดน้ำท่วมใหญ่ หลานชายจึงลาออกมาทำธุรกิจขายปัมน้ำเอง ไม่ได้ตกงานตามที่เป็นข่าว แต่แค่ว่าไม่มีหน้าร้านเท่านั้น "การทำธุรกิจครั้งนี้ไม่ประสบความสำเร็จ บวกกับปัญหาปากท้อง เขาเลยจำเป็นต้องหยิบยืมเงินผมและญาติรวมกว่า 1 แสนบาท แต่ตอนหลังก็ยกหนี้ให้เพราะเห็นว่าเดือดร้อนจริงๆ ล่าสุดเมื่อปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา จู่ๆเขาก็โทรฯมาบอกว่า จะพยายามหาเงินมาคืนให้ก่อน 7 หมื่นบาท เนื่องจากเกรงใจ จากนั้นก็เงียบหายไปและมาก่อเหตุสลดขึ้น
อีกเรื่องคือเขาจำนองบ้านไว้กับคนรู้จักด้วย แต่เพราะขาดส่งทำให้ใกล้จะโดนยึด เชื่อว่านี่น่าจะเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาตัดสินใจแบบนี้ หลังจากนี้จะตั้งสวดอภิธรรมศพทั้ง 4 ที่วัดแก้ว ซอยจรัญสนิทวงศ์ 35 เป็นเวลา 3 คืน และจะฌาปนกิจในวันที่ 13 มิ.ย." นายแสงตะวัน เผยด้วยความเศร้าโศก ด้าน รศ.นพ.วิสูตร ฟองศิริไพบูลย์ แพทย์ประจำภาควิชานิติเวชศาสตร์ รพ.ศิริราช ระบุถึงผลการผ่าชันสูตรศพทั้ง 4 รายว่า มีอาการสมองฉีกขาดและบวม จากคมกระสุนปืนที่ทะลุผ่านเนื้อสมอง และไม่พบสารพิษใดๆ