สั่งกักเด็กแว้นปรับทัศนะ จ่อเอาผิดพ่อ-แม่ไม่ดูแล

จากกรณีที่กำลังตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัย กว่า 150 นาย

สนธิกำลังกันปิดล้อมจับกุมเด็กแว้นซิ่งจักรยานยนต์บนถนนราชพฤกษ์ ช่วงสะพานข้ามแยกรัชดาภิเษก-ท่าพระ ฝั่งมุ่งหน้ากำนันแม้น แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กทม.ตามแผนปฏิบัติการ “ราชพฤกษ์โมเดล กวาดล้างเด็กแว้นและสาวสก๊อยป่วนเมือง” โดยจับกุมเด็กแว้นและสาวสก๊อย ไว้ได้ถึง 437 ราย แบ่งเป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี 237 ราย พร้อมของกลางจักรยานยนต์ 272 คัน ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว นั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 1 มิถุนายน พ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผกก.สน.ตลาดพลู

 เปิดเผยว่า ในวันเดียวกันนี้ ทางพนักงานสอบสวนจะคุมตัวผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งกระทำความผิด 125 คน จากจำนวน 251 คน ไปส่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง โดยแจ้งข้อหาขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและความเดือดร้อนของผู้อื่น ส่วนผู้ต้องหาที่อายุเกินกว่า 18 ปี อีก 126 คน พนักงานสอบสวนจะคุมตัวไปส่งฟ้องศาลแขวงธนบุรี ในข้อหาขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและความเดือดร้อนของผู้อื่น ในช่วงเช้าวันที่ 2 มิถุนายนนี้ เนื่องจากอยู่ระหว่างขั้นตอนการเตรียมเอกสารต่างๆ

พ.ต.อ.มานพ เปิดเผยด้วยว่า นอกจากนี้จะเชิญผู้ปกครองของเยาวชน 125 คน เพื่อมาสอบปากคำและอบรมตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 เพื่อหามาตราการเอาผิดต่อผู้ปกครองว่าใส่ใจดูแลบุตรหลานหรือไม่ และมีความผิดปล่อยปละละเลยบุตรหลานหรือไม่

วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี รวม 125 คน ที่ถูกจับกุมส่งให้ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง

 โดย นายสุภัทร อยู่ถนอม อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เปิดเผยว่า ศาลได้ตรวจสอบการจับกุมว่าตำรวจกระทำถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ จากนั้นจะส่งตัวเยาวชนทั้ง 125 คน ไปควบคุมที่สถานพินิจเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ โดยยังไม่มีการปล่อยตัวกลับบ้าน เนื่องจากต้องการให้สถานพินิจได้อบรมและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเยาวชนทั้งหมดก่อน เพราะคดีนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่สร้างความเดือดร้อนให้กับสังคมส่วนใหญ่

นายสุภัทร เปิดเผยอีกว่า สำหรับขั้นตอนภายหลังควบคุมตัว ศาลจะพิจารณาจากรายงานพฤติกรรมของสถานพินิจ

เพื่อพิจารณาอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว โดยขั้นตอนการพิจารณาคดีพนักงานสอบสวนจะต้องสรุปสำนวนส่งฟ้องต่ออัยการภายใน 30 วัน จากนั้นจึงเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลต่อไป อย่างไรก็ดี ยืนยันว่าศาลมีมาตรการในการดำเนินการกับผู้ปกครอง หากมีการปล่อยปละละเลยให้บุตรหลานกระทำผิดซ้ำอีก