ระทึก-หนุ่มปืนเดือด บุกยิงเสี่ยดับคาบริษัท

ตร.รวบทันควัน หนุ่มคลั่งกราดยิงบริษัท ขายอุปกรณ์การแพทย์ ย่านบางแค ก่อนบุกยิงเจ้าของดับคาที่ เมีย-พนักงานโดนลูกหลงเจ็บอีก 2 น้องสาวคนตายเผยนาทีระทึก มือปืนเคยเป็นลูกค้า วันนี้เอาเครื่องช่วยหายใจที่ซื้อไปมาคืน อ้างไม่ได้คุณภาพ ตนเลยบอกไปว่าต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมก่อน ทำให้ไม่พอใจเดินออกไปถอยรถเก๋งชนท้ายรถเบนซ์ ก่อนคว้าปืนเข้ามาสาดห่ากระสุนไปทั่ว ขณะที่เจ้าตัวรับเป็นพนักงานขายประกัน ตั้งใจมาเคลียร์ให้จบจะได้ไม่ต้องเครียดอีกต่อไป ตร.สอบญาติพบมีอาการทางประสาท-แล้วยังชอบซ้อมยิงปืน

 

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 25 พ.ค. ด.ต.สมชาย ด้วงมูล และส.ต.ต.คุณากร ปาอิน ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สน.หลักสอง ปฏิบัติหน้าที่สายตรวจรถจักรยานยนต์ รับแจ้งจากศูนย์วิทยุกรุงธน ว่าเกิดเหตุชายคลุ้มคลั่งใช้อาวุธปืนบุกเข้ายิงภายในบริษัท เซอร์ไคล์ฟ จำกัด เลขที่ 125/8 โครงการตรีจุฑา 1 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม. มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย จึงประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชฯ ร.พ.ศิริราช รุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ชัชวาลย์ วชิรปราณีกูล ผบก.น.9 พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ พงศ์ธนารักษ์ ผกก.สน.หลักสอง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.หลักสอง ชุดสืบสวน กก.สส.บก.น.9 และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

 

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น เปิดขายส่งสินค้าทางเภสัชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ เมื่อไปถึงพบคนร้ายกำลังจะขึ้นรถยนต์เก๋งฟอร์ด รุ่นเทียร่า สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน สณ 5437 กทม. เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมตัวไว้ได้พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม.ที่ใส่ไว้ในกระเป๋าสะพายสีดำ จากการตรวจค้นรถยนต์ยังพบแม็กกาซีนบรรจุกระสุนเต็มแม็ก แม็กกาซีนเปล่าอีก 1 อัน กระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. จำนวน 2 กล่อง และกล่องกระสุนเปล่าอีก 1 กล่อง ทราบชื่อคือนายประสิทธิ์ ต่อมณี อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 252-254 ถนนจักรวรรดิ์ แขวงจักรวรรดิ์ เขตสัมพันธวงศ์ กทม.

 

จากนั้นเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบบริเวณชั้นล่างของบริษัทพบผู้บาดเจ็บ 2 รายคือนางทิตยา โอภาสเจริญกิจ อายุ 53 ปีภรรยาเจ้าของบริษัท ถูกยิงเข้าที่ขาขวา 1 นัด และนายนคร เครือสุนทรวานิช อายุ 33 ปีพนักงาน ถูกยิงเข้าลำตัว 3 นัดอาการสาหัส เจ้าหน้าที่จึงนำตัวนางทิตยาส่งร.พ.ธนบุรี 2 ส่วนนายนครนำตัวส่งร.พ.เกษมราษฎร์บางแค ส่วนภายในห้องทำงานชั้น 2 พบศพนายวรพงศ์ โอภาสเจริญกิจ อายุ 51 ปีเจ้าของบริษัท สภาพสวมเสื้อยืดคอปกแขนสั้นสีขาว สวมกางเกงขายาวสีดำ นอนหงายอยู่บนพื้น มีบาดแผลถูกยิงเข้าขมับซ้าย 1 นัด

 

นอกจากนั้นคนร้ายยังใช้อาวุธปืนยิงใส่กระจกประตูด้านหน้าจนแตกเป็นรู 2 แห่ง บริเวณผนังตั้งแต่ชั้น 1 ถึงทางขึ้นชั้น 2 มีรอยกระสุนยิงใส่อกหลายนัด บนพื้นที่มีปลอกกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม.ตกอยู่ 21 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

 

จากการสอบสวนน.ส.ณัฐสุดา โอภาสเจริญกิจ อายุ 30 ปีน้องสาวผู้ตายให้การว่า ก่อนเกิดเหตุมีพนักงานและผู้บริหารบริษัททำงานอยู่จำนวน 12 คน ต่อมานายประสิทธิ์ซึ่งเป็นลูกค้าของบริษัทที่ซื้ออุปกรณ์การแพทย์ไปหลายรายการ ล่าสุดมาซื้อเครื่องช่วยหายใจไปให้แม่ที่นอนป่วยอยู่ที่บ้านพักย่านจักรวรรดิ์เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา โดยวันนี้นายประสิทธิ์ต้องการนำเครื่องช่วยหายใจมาคืน โดยอ้างว่าเครื่องดังกล่าวไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งทางบริษัทก็บอกกับนายประสิทธิ์ว่าต้องขอนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมเพื่อพิจารณาก่อน

 

"เมื่อนายประสิทธิ์เดินออกจากบริษัทไปแล้วได้ถอยหลังรถยนต์เก๋งมาจอดต่อท้ายรถเบนซ์ รุ่นอี 200 สีดำ ทะเบียน 4 กจ 4688 กทม.ของพี่ชาย แล้วเอาเครื่องช่วยหายใจเข้ามาภายในบริษัทบอกว่าจะขอพบเจ้าของ ตนก็บอกว่าเจ้าของประชุมอยู่ชั้นบน ทำให้นายประสิทธิ์ไม่พอใจเดินออกไปถอยรถชนท้ายรถเบนซ์พี่ชายเสียงดังโครม ก่อนหยิบอาวุธเดินเข้ามาในบริษัท พนักงานเห็นท่าไม่ดีจึงรีบปิดประตูกระจก แต่นายประสิทธิ์ก็ยิงปืนใส่ประตู 2 นัดจนกระจกแตก แล้วเดินเข้ามาใช้อาวุธปืนกราดยิงไปทั่วทำให้พนักงานต้องก้มหมอบหลังเคาน์เตอร์ จากนั้นเดินขึ้นไปยิงพี่ชายเสียชีวิตในห้องทำงานชั้น 2 ก่อนเดินลงมากราดยิงซ้ำที่ชั้นล่างอีกครั้ง กระสุนปืนถูกนางทิตยาและนายนครจนล้มฟุบแล้วเดินออกไปขึ้นรถเพื่อหลบหนี แต่ตำรวจสายตรวจมาจับตัวไว้ได้ก่อน" น.ส.ณัฐสุดาเผยนาทีระทึก

 

ขณะที่นายประสิทธิ์ให้การว่า เป็นพนัก งานขายประกันของบริษัทเอไอเอ และที่บ้านยังเปิดเป็นร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์ ก่อนหน้านี้มาซื้ออุปกรณ์การแพทย์ที่บริษัทนี้หลายครั้งแล้ว เอาไปให้แม่ใช้ บางครั้งก็ซื้อไปบริจาคให้กับโรงพยาบาลในพื้นที่ทุรกันดาร ล่าสุดมาซื้อเครื่องช่วยหายใจไปให้แม่แต่เครื่องไม่มีคุณภาพจึงมาขอเปลี่ยน แต่บริษัทเรื่องมากจึงเกิดหงุดหงิด และเตรียมการมาว่าถ้าวันนี้บริษัทไม่ให้เปลี่ยนก็จะเคลียร์ให้จบจะได้ไม่ต้องเครียดอีกต่อไป

 

ด้านพล.ต.ต.ฉันทวิทย์เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบร่องรอยกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม.หลายนัด ซึ่งเจ้าหน้าที่สายตรวจสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุพร้อมอาวุธปืนได้ขณะกำลังจะหลบหนี เบื้องต้นทราบว่าสาเหตุเกิดจากนายประสิทธิ์ไม่พอใจเรื่องสินค้าทางการแพทย์ที่ตัวเองซื้อไปจึงต้องการนำมาคืน เบื้องต้นแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านและทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนจะส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่านายประสิทธิ์เป็นสมาชิกสนามยิงปืนแห่งหนึ่ง และไปฝึกซ้อมยิงปืนอยู่เป็นประจำ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ยังเข้าไปซ้อมยิงปืนก่อนจะมาก่อเหตุ นอกจากนั้นนายประสิทธิ์ยังมีอาการทางประสาทจนญาตินำตัวส่งรักษาที่ร.พ.หัวเฉียว แต่นายประสิทธิ์ไม่ยอมรักษาตัวแล้วยังหนีกลับบ้านจนมาก่อเหตุขึ้นดังกล่าว


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์