รวบแก๊งแท็กซี่รุมทำร้ายผู้โดยสารก่อนชิงทรัพย์

ตำรวจคลองหลวง จ.ปทุมธานี จับแก๊งแท็กซี่ใจร้อน หลังก่อเหตุรุมทำร้ายผู้โดยสาร และชิงทรัพย์

(18มิย.) เวลา 11.00 น. พ.ต.ท.เสกสรรค์ บัวเรือง

รอง.สว.สส.สภ.อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้บุกเข้าจับกุมตัวนายนรินทร์ เสวกแก้ว อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 ม.2 ต.ลาดใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม และนายสมเกียรติ หอมหวาน อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51/9 ม.7 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

ซึ่งเป็นผู้ต้องหาร่วมกันทำร้ายร่างกายและปล้นทรัพย์

โดยสามารถจับกุมได้ขณะที่นายนรินทร์ ขับรถยนต์แท็กซี่สีส้ม หมายเลขทะเบียน ทน 3244 กทม.มีนายสมเกียรตินั่งคู่อยู่เบาะหน้า ขับมาจอดทานอาหารที่ร้านอาหารไม่มีชื่อ ริมคลองแอน ม.12 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง ก่อนจะนำตัวมาสอบสวน

สืบเนื่องมาจากเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น.

(วันที่ 17 มิ.ย.) ที่ผ่านมา พ.ต.ท.วิเชียร คงบำเพ็ญ รับแจ้งจากนางวันเพ็ญ คชสารทอง อายุ 35 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 69 ม.6 ต.นาขอม อ.ไพรศาลี จ.นครสวรรค์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่า ตนเองและญาติๆจำนวน 5 คน

ได้ถูกคนขับรถแท็กซี่สีส้ม

หมายเลขทะเบียน ทน 3244 กทม.พร้อมพรรคพวกจำนวน 3 คนรุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ และชิงเอากระเป๋าเสื้อผ้าของนายปรีชา ศรีบรรเทา อายุ 32 ปี ผู้เป็นน้องชายของตนไป โดยภายในมีเงินสดจำนวน 2400 บาท และโทรศัพท์มือถือหลบหนีไป

นางวันเพ็ญ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ

ตนเองพร้อมสามีและญาติๆ ได้เดินทางมาเที่ยวบ้านน้องวาย บ้านอยู่ในซอยทับทิมสี 1 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จนกระทั่งได้เวลากลับบ้าน จึงได้เรียกรถแท็กซี่ที่ผ่านมา เพื่อจะให้ไปส่งที่บ้านพักในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร และหว่างที่ตนเองและญาติๆกำลังนของขึ้นรถอยู่นั้น

ได้มีรถแท็กซี่สีส้ม หมายเลขทะเบียน ทน 3244 กทม.

ขับสวนทางมา แต่ไม่สามารถวิ่งผ่านไปได้ เนื่องจากถนนแคบ ทำใหห้คนขับรถไม่พอใจ บีบแตรไล่หลายครั้ง ตนเองและน้องชายจึงบอกว่า ขอเวลาสักครู่ เพราะคนยังขึ้นรถไม่หมด ทำให้คนขับรถแท็กซี่คันนั้นไม่พอใจ และลงมาจากรถพร้อมกับชายอีก 2 คน จากนั้นก็ตรงเข้ามารุมต่อยน้องชายของตนและสามี ก่อนจะกระชากกระเป๋าเสื้อผ้าของน้องชายแล้ววิ่งขึ้นรถขับหลบหนีไปทันที โดยกลุ่มคนร้ายนั้นมีอาการคล้ายคนมึนเมาด้วย

หลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ออกหาข่าว

จนทราบว่า แก๊งค์แท็กซี่กลุ่มนี้คือนายนรินทร์ เสวกแก้ว เจ้าของรถ นายสมเกียรติ หอมหวาน และนายกุ้ง ไม่ทราบนามสกุล เจ้าหน้าที่จึงขอหมายจับและติดตามตัวจนพบ ขณะที่นายนรินทร์และนายสมเกียรติ กำลังจอดรถกินข้าว สอบสวนทั้งคู่ให้การว่า

เป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายจริง

โดยขณะที่กำลังชุมมุนกันอยู่นั้น กระเป๋าของผู้เสียหายได้ไปตกอยู่บนรถของตนเอง และเมื่อขับรถหลบหนีออกไป จึงได้นำกระเป๋าที่ติดอยู่บริเวณหน้ารถมาตรวจสอบ พบทรัพย์หลายรายการจึงได้นำไปขาย และนำเงินที่ได้ไปซื้อยาบ้าเสพ

ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกัน

ทำร้ายร่างกายผู้อื่น และร่วมกันปล้นทรัพย์ พร้อมทั้งนำตัวส่ง พ.ต.ท.วิเชียร คงบำเพ็ญ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.อ.คลองหลวง เพื่อดำเนินคดีต่อไป ส่วนนายกุ้ง ผู้ต้องหาอีกรายได้หลบหนีไปอยู่ที่บ้านแฟนสาวย่านประตูน้ำพระอินทร์ เจ้าหน้าที่จะได้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก