บุกรวบอดีตนักกีฬาเอ็กซ์ตรีมตกอับ ก่อเหตุฉกจักรยานเสือภูเขาไปเร่ขาย

บุกรวบอดีตนักกีฬาเอ็กซ์ตรีมตกอับ ก่อเหตุฉกจักรยานเสือภูเขาไปเร่ขาย

สารภาพสิ้นมาจากครอบครัวมีฐานะ แถมเป็นนักเรียนทุนเอเอฟเอส ไปเรียนต่อที่อเมริกา แต่เรียนไม่จบกลับมาเมืองไทยช่วยงานที่บ้าน พร้อมฝึกกีฬาเอ็กซ์ตรีม จนได้เป็นทีมแข่งมอเตอร์ไซค์วิบาก และลงแข่งขันจักรยานระดับชาติมาแล้ว แต่ก่อเหตุขโมยของจนติดคุกปีครึ่ง พ้นโทษออกมาก็ก่อเหตุซ้ำอีก 2 หน ถูกออกหมายจับจนไม่กล้ากลับบ้าน ใช้ชีวิตเร่รอนไปทั่วกรุง ก่อนมาถูกจับในคดีล่าสุด

เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พล.ต.ต.ฤชากร จรเจวุฒิ ผบก.น.8

พร้อมด้วยพ.ต.อ.ณัฏฐ์พัชร์ ผดุงจันทน์ ผกก.สน.บุปผาราม พ.ต.ท.ดร.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว สว.สส.สน.บุปผาราม ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายพิเชษฐ์ หรือแบงก์ ไสยสุข อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56/1 หมู่2 ต.สำโรงใต้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาลักทรัพย์ในเคหสถานพร้อมของกลางรถจักรยานเสือภูเขายี่ห้อ WCI รุ่น RD-1 จำนวน 1 คัน มูลค่าประมาณ 10,000 บาท โดยจับกุมตัวได้ที่ป้ายรถประจำทางตรงข้ามโรงเรียนศึกษานารี แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กทม.

สืบเนื่องจากนายสมปอง จิระประวัติตระกูล อายุ 68 ปี ขายกรอบรูปอยู่ย่านสี่แยกบ้านแขกและเป็น กต.ตร.สน.บุปผาราม

 เข้าแจ้งความกับตำรวจสน.บุปผารามว่ามีคนร้ายปีนเข้าบ้านพัก ซอยอิสรภาพ 5 แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน ขโมยรถจักรยานเสือภูเขา ราคาประมาณ 10,000 บาท เมื่อเวลา 13.40 น. วันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยกล้องวงจรปิดในบ้านจับภาพใบหน้าคนร้ายได้ชัดเจน เมื่อเช็กประวัติพบว่าคือนายพิเชษฐ์ที่เคยถูกจับข้อหาลักทรัพย์มาหลายครั้ง

ตำรวจจึงตามแกะรอยกระทั่งทราบเบาะแสว่านายพิเชษฐ์นำรถไปเร่ขายในพื้นที่ จึงวางกำลังดักซุ่มกระทั่งพบรถจักรยานเสือภูเขาไปจอดรอขายให้ลูกค้าที่ป้ายรถประจำทางตรงข้ามโรงเรียนศึกษานารี จึงนำกำลังไปจับกุม

นายพิเชษฐ์สารภาพว่าก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานของผู้เสียหายจริง เพราะต้องการหาเงินลงทุนเปิดร้านรับซื้อของเก่าย่านคลองหลอด

 โดยประวัติพบว่าหลังเรีรยนจบม.3 สอบได้ทุนเอเอฟเอส ไปเรียนต่อระดับมัธยมที่สหรัฐอเมริกา แต่เรียนไม่จบจึงเดินทางกลับมาช่วยงานโรงกลึงและผลิตอะไหล่ชิ้นส่วนรถยนต์ที่บ้าน และยังฝึกฝนกีฬาเอ็กซ์ตรีม จนเป็นนักขี่รถมอเตอร์ไซค์วิบากโมโตครอสทีมเพชรบูรณ์เอ็นดูโร่ และนักปั่นจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ผาดโผน เคยเข้าร่วมขับโชว์และร่วมแข่งขันงานระดับชาติได้รางวัลมาหลายสนาม ผลงานที่สร้างชื่อคือแชมป์จักรยานผาดโผนงานเอเชี่ยนเอ็กซ์ทัวร์ จ.ภูเก็ต เมื่อหลายปีที่ผ่านมา

นายพิเชษฐ์กล่าวอีกว่า แต่ชีวิตมาพลิกผันเพราะถูกจับข้อหาลักทรัพย์หมวกนิรภัย ที่จ.เพชรบูรณ์ ติดคุก 1 ปี 6 เดือน

 พอพ้นโทษมาก็ไปหาสมัครทำงานเป็นคนขับรถ และก่อเหตุลักทรัพย์นายจ้างจนถูกออกหมายจับ และถูกออกหมายจับคดีลักทรัพย์ในเคหสถานอีก จึงไม่กล้ากลับบ้าน ใช้ชีวิตเร่ร่อนไปเรื่อยๆ อาศัยนอนตามป้ายรถประจำทางและเก็บของเก่าขาย จนรู้จักเพื่อนชักชวนให้มาลงทุนเปิดร้านขายของเก่าที่ย่านคลองหลอด จึงตัดสินใจขโมยจักรยานเพื่อหาเงินไปลงทุนกระทั่งถูกจับกุมดังกล่าว

 ตำรวจสน.บุปผารามแจ้งข้อหาลักทรัพย์และประสานกับตำรวจสน.สมเด็จเจ้าพระยา และสภ.บางปู จ.สมุทรปราการ ที่ผู้ต้องหาเคยก่อเหตุเพื่อมาอายัดตัวดำเนินคดีต่อไป