โร่ร้องตำรวจกองปราบ ถูกหลอกเก็บองุ่น แดนจิงโจ้“

ผู้เสียหาย 25 ราย โร่เข้าแจ้งความพนักงานสอบสวนกองปราบปราม จับนายหน้าแสบ หลังถูกหลอกเอาเงินแสน จ้างให้ไปทำงานเก็บองุ่นที่ประเทศออสเตรเลีย แต่ภายหลังมีการบ่ายเบี่ยง กระทั่งนัดให้มาขึ้นเครื่อง แต่ปิดมือถือเผ่นหนี

เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก ร.ต.อ.อธิษฐ์ พิสิษฐ์กูล พงส.กก.3บก.ป. ว่าช่วงคืนที่ผ่านมา ได้มีผู้เสียหาย 25 คน

เดินทางเข้าร้องทุกข์ว่าถูก นายเอ (นามสมมุติ) ลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย หลอกลวงอ้างว่า สามารถพาไปทำงานที่ไร่องุ่นในประเทศออกเตรเลีย ได้ค่าจ้างวันละ 5,000 บาท และถ้าหากทำงานในวันจันทร์จะได้เพิ่มถึง 10,000 บาท แต่ต้องเสียค่าดำเนินการคนละ 100,000 บาทก่อน โดยผู้ที่ไปด้วยมีอยู่ไม่กี่คน หากไม่ได้ไปก็พร้อมจะคืนเงินให้ ภายหลังผู้เสียหายทั้งหมดหลงเชื่อ จ่ายเงินให้ไปตามที่ตกลงกันไว้ กระทั่งมีการนัดหมายในเดือนมีนาคมให้ไปทำงาน แต่ภายหลังกลับปรากฏว่า เอกสารไม่พร้อม ทั้งหมดจึงยังไม่สามารถเดินทางไปได้ พร้อมกับเลื่อนกำหนดการเดินทางมาในเมษายน แต่ก็ไปไม่ได้อีก

 โดยทางนายเอ ระบุว่า จำนวนคนน้อยเกินไป จนมาถึงวันที่ 11 พ.ค. เวลา19.00 น. นายเอ ได้นัดหมายให้ ทุกคนมาขึ้นเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ

 ซึ่งเมื่อทุกคนมาถึงก็ได้พยายามติดต่อ นายเอ ที่อ้างว่ากำลังเดินทางมาถึง จนกระทั่งเวลาผ่านไปจนถึง 21.00 น. ของวันที่ 11 พ.ค. กลับติดต่อไม่ได้ จึงรู้ว่าถูกหลอก ก่อนจะพากันมาที่กองปราบปรามเพื่อแจ้งความจับกุมนายเอ ดังกล่าว เบื้องต้นทางตำรวจรับเรื่องไว้ ก่อนจะนำเรียนผู้บังคับบัญชาทราบ อย่างไรก็ตามทางตำรวจต้องทำการสอบสวนผู้เสียหายทุกรายอย่างละเอียดอีกครั้ง หากมีพยานหลักฐานพบว่า มีการกระทำความผิดจริงจะทำการแจ้งข้อหา"ฉ้อโกงประชาชน" ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สำหรับผู้เสียหายที่เดินทางมาระยะทางไกลแล้วไม่สามารถเดินทางกลับได้ทางตำรวจได้เปิดอาคารสโมสรกองปราบปราม ให้ผู้เสียหายได้นอนพักและจะทำการสอบปากคำในตอนเช้าอีกครั้ง

รายงานข่าวแจ้งว่า ทั้งนี้ผู้เสียหายบางคน ก่อนเดินทางมีการกู้หนี้ยืมสิน โดยการนำโฉนดที่ดินไร่นา ไปจำนอง รายละเป็นแสน

 อีกทั้งต้องเสียดอกเบี้ยเป็นจำนวนมาก จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้เดินทาง จึงมีความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก และต้องการที่จะดำเนินคดีเพื่อเรียกเงินที่เสียไปคืน ด้าน นายวิรัตน์ ศรีสัมพันธ์ จนท.กองตรวจและคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ได้เดินทางมายังกองปราบปราม เพื่อรับเรื่องร้องทุกข์ด้วย ภายหลังเผยว่า การจับกุมนายหน้าที่หลอกลวงแรงงาน ไปทำงานยังประเทศออสเตรเลีย นั้น กรมการจัดหางาน เคยจับกุมมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ จากการเปรียบเทียบ กับกลุ่มนายหน้า ที่หลอกลวง ผู้เสียหายในครั้งนี้ ยังไม่มีความเชื่อมโยงกัน ซึ่งจะได้เร่งติดตามตัว มาดำเนินคดี ต่อไป.“