รองนายกเล็กปาดังหนีสื่อ ย่องมอบตัวปัดเอี่ยวโรฮิงญา

เมื่อวันที่ 7 พ.ค. นายประสิทธิ์ เหล็มเหล๊ะ รองนายกเทศมนตรีเมืองปาดังเบซาร์ หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ ได้เข้ามอบตัวกับ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร ที่ ศปก.ภ.9 ส่วนหน้าแล้ว โดยแอบกองทัพสื่อมวลชนเข้ามามอบตัวแบบเงียบๆ เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง และร่วมกันเรียกค่าไถ่ แต่ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงควบคุมตัวไว้สอบสวน ส่วนที่ สภ.ปาดังเบซาร์ พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัว นายยาหลี เขร็ม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.ปาดังเบซาร์ ไปฝากขังผัดแรก ที่ศาลจังหวัดนาทวีหลังจากเข้ามอบตัวก่อนหน้านี้

ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.เอก ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ศาลจังหวัดนาทวีออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีค้ามนุษย์เพิ่มเติมอีก 10 ราย จากเดิม 8 ราย รวมเป็น 18 รายแล้ว แยกเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ 7 ราย พลเรือน 11 คน จับกุมได้แล้ว 4 ราย มอบตัว 1 คน รวมเป็น 5 ราย ที่เหลืออยู่ระหว่างหลบหนี โดยพลเรือนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มการ์ดทำหน้าที่ดูแลแคมป์พักของชาวโรฮิงญา ทั้งนี้ ตำรวจ บช.ภ.9 ได้เปิดยุทธการ "ปิดปลายทาง" โดยมีกำลังจากตชด.และทหารเข้ามาสนับสนุน ร่วมกันตรวจสอบพื้นที่ห่างไกลและจุดต้องสงสัยต่างๆ โดยตั้งเป้าว่าจะขจัดการลักลอบขนชาวโรฮิงญาในพื้นที่ให้สิ้นซาก

สำหรับผู้ต้องหา 10 ราย ที่ออกหมายจับเพิ่มเติมได้แก่ 1.นายศักดา ทองแดง อายุ 20 ปี 2.นายสะอารี เขร็ม อายุ 47 ปี 3.นายเจ๊ะมุสา สีสัย อายุ 39 ปี 4.นายฝารีต๊ะ ทองแดง อายุ 46 ปี 5.นายสมยศ อังโชติพันธุ์ อายุ 45 ปี 6.สุไหลหมาน หมัดอาค้ำ อายุ 59 ปี 7.นายพิชัย คงเอียง อายุ 45 ปี 8.นายชลชาสน์ ไชยมณี อายุ 45 ปี ในข้อหาสมคบและร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปกระทำการอันเป็นการค้ามนุษย์, ร่วมกันช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว กักขัง ผู้อื่นโดยทำให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และร่วมกันเรียกค่าไถ่"

9. ร.ต.ท.มงคล สุโร อายุ 58 ปี รอง สวป.ตชด.43 และ10.ด.ต.อัศณีย์รัญ นวลรอด อายุ 56 ปี ผบ.หมู่(ป.) สภ.ปาดังเบซาร์ ในข้อหาสนับสนุนการกระทำความผิดการค้ามนุษย์ และเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด จากผู้กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์เพื่อมิให้ผู้กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ถูกลงโทษ โดยก่อนหน้านี้ ร.ต.ท.มงคล และ ด.ต.อัศณีย์รัญ ได้ถูกสั่งย้ายออกนอกพื้นที่ กระทั่งถูกศาลอนุมัติออกหมายจับ เนื่องจากแนวทางการสืบสวนทราบว่าทั้งสองคนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าโรฮิงญา ตั้งแต่ขั้นตอนการนำพากลุ่มชาวโรฮิงญาเข้ามาในพื้นที่ จ.สงขลา และรู้เห็นการนำพาไปไว้บนเทือกเขาแก้วเพื่อรอส่งต่อไปประเทศที่สาม.