ตร.จับ สาวอดีตพยาบาล อุ้มศพหนุ่มใหญ่คู่ขาวัย 60 ปีไป เผาสยองกลางป่าหญ้าที่ฉะเชิงเทรา ก่อนฉกเก๋งคัมรี่ไปใช้ สารภาพรู้จักกับคนตายผ่านไลน์นาน 2 เดือน จนมีสัมพันธ์ลึกซึ้ง วันเกิดเหตุขับรถมารับพาไปเปิดโรงแรมร่วมหลับนอน ก่อนกินไวอากร้าเข้าไปแล้วฟุบสิ้นใจคาห้องพัก เลยอุ้มศพใส่รถเอาไปทิ้งแล้วจุดไฟเผา ทำคนเดียวไม่มีใครร่วมด้วย ตร.เร่งตรวจสอบสารพิษจากศพ หากพบถูกวางยาจนตายจะแจ้งข้อหาฆ่าคนตายอีกกระทง
เมื่อ เวลา 06.00 น. วันที่ 2 พ.ค. พ.ต.อ.ภิรมย์ สวนทอง ผกก.สส.บก.น.3 พร้อมด้วย พ.ต.ท.ทวีป โพธิ์แก้ว รอง ผกก. พ.ต.ท.ธารา เครือละม้าย พ.ต.ท.เกรียงศักดิ์ ช่วยวงศ์ พ.ต.ต.นพดล โพธิ์ศรี สว.สส. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเข้าจับกุมตัวน.ส.ศิริกาญจน์ สุวรรณฟู อายุ 28 ปี บ้านอยู่ จ.น่าน อดีตพยาบาลร.พ.แห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว ได้ที่บ้านพักของแฟนหนุ่มใน อ.เมืองอุดรธานี พร้อมของกลางรถโตโยต้า คัมรี่ สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียนป้ายแดงปลอมหมายเลข ร-2468 กทม. ซึ่งเป็นรถยนต์ของนายสมมาศ พงษ์โพคา อายุ 60 ปี ที่หายตัวไปพร้อมรถคัมรี่ ก่อนพบกลายเป็นศพถูกเผาอยู่ในพื้นที่อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวกลับมาสอบสวนที่กก.สส.บก.น.3
โดย เหตุการณ์นี้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 20 เม.ย. นางเอมอร พงษ์โพคา 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71/148 ซอยรามคำแหง 164 แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสน.มีนบุรี ว่านายสมมาศ พงษ์โพคา อายุ 60 ปีสามี ทำงานเป็นที่ปรึกษาอาวุโสด้านกฎหมายบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งย่านรามคำแหง หายตัวไปพร้อมกับรถโตโยต้าคัมรี่ ทะเบียน 2 กร 1696 กทม. ซึ่งเป็นรถของบริษัทที่นำมาให้ใช้
นางเอมอรให้การว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 11 เม.ย. นายสมมาศบอกว่าจะเดินทางไปเที่ยวจ.กาญจนบุรีกับเพื่อนที่ทำงานแล้วก็ขับออก จากบ้านพักไป จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย ตนจึงโทรศัพท์ไปถามเพื่อนสามีจนทราบว่าสามีไม่ได้ไปเที่ยวกาญจนบุรีตามที่ บอกตนไว้ จึงเดินทางมาแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามหาตัว
ต่อ มาเจ้าหน้าที่ได้รับการประสานจากสภ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ว่าพบศพชายอายุประมาณ 60 ปี สภาพศพถูกเผาไหม้เกรียมอยู่ในป่าหญ้าริมทุ่งนา จึงเดินทางไปตรวจสอบและส่งศพชันสูตรที่นิติเวชฯ ร.พ.ตำรวจ โดยให้ลูกของนางเอมอรไปตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับศพที่พบ เมื่อผลตรวจดีเอ็นเอออกมาตรงกัน แสดงว่าผู้ตายคือ นายสมมาศ พงษ์โพคา เจ้าหน้าที่จึงสืบสวนหาเบาะแสและตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆ ที่ศพถูกนำมาเผา จนกระทั้งติดตามจับกุมน.ส.ศิริกาญจน์ได้ที่บ้านของแฟนหนุ่มที่จ.อุดรธานี
จาก การสอบสวนน.ส.ศิริกาญจน์ให้การว่า ก่อนหน้านี้ทำงานเป็นพยาบาล แต่ได้ ลาออกมารับจ้างดูแลผู้ป่วยตามสถานที่ต่างๆ ได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว เมื่อ 2 เดือนก่อนหน้านี้รู้จักกับนายสมมาศผ่านทางไลน์จนมีความสัมพันธ์กันเรื่อยมา จนกระทั่งเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ผู้ตายได้นัดให้ตนออกมาหาที่ห้างสรรพสินค้าย่านรามคำแหง ก่อนจะขับรถมารับพาไปกินข้าว แล้วพาไปเปิดห้องพักที่โรงแรมชื่อสกาย อินน์ ย่านบางนา
น.ส.ศิริกาญจน์ให้การว่า เมื่อไปถึงโรงแรมแล้วผู้ตายได้กินยาไวอากร้าเข้าไปก่อนจะมีเพศสัมพันธ์กัน ซึ่งทุกครั้งที่ร่วมหลับนอนกันผู้ตายก็จะกินยาไวอากร้าเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้หลังกินเข้าไปได้ไม่นาน ผู้ตายก็บอกตนว่าแน่นหน้าอก จากนั้นก็ล้มฟุบนอนแน่นิ่ง ตนจึงจับชีพจรดูแล้วพบว่าเสียชีวิตไปแล้ว จากนั้นได้เรียกพนักงานเข้ามาช่วยอุ้มศพไปนอนอยู่ที่เบาะหลังรถ โดยบอกพนักงานไปว่าผู้ตายเป็นลมจะพาไปส่งโรงพยาบาล
น.ส.ศิริ กาญจน์ให้การอีกว่า เมื่อออกจากโรงแรมแล้วตนก็ขับรถไปเรื่อยๆ จนไปถึงบริเวณป่าหญ้าห่างไกลบ้านคน จึงลากศพ ผู้ตายไปทิ้งไว้ในป่าแล้วนำผ้าห่มกับผ้ายางท้ายรถรวม 3 ผืนปิดทับศพแล้วจุดไฟเผา จากนั้นขับรถกลับห้องพักหาซื้อแผ่นป้ายทะเบียนป้ายแดงทางอินเตอร์เน็ตมาติด รถยนต์ ก่อนจะไปหาแฟนหนุ่มที่บ้านพักย่านบางนา โดยโกหกแฟนว่ารถคันนี้น้าของตนเป็นคนซื้อให้ ต่อมาวันที่ 27 เม.ย.ได้เดินทางไปเที่ยวบ้านแฟนที่จ.อุดรธานี จนกระทั่งถูกตำรวจจับกุมตัวได้
จากนั้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว น.ส.ศิริกาญจน์ไปชี้จุดที่โรงแรมสกาย อินท์ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาหาลักทรัพย์ และอำพรางซ่อนเร้นศพ ก่อนรอผลการตรวจสอบสารพิษในร่างกายศพและสาเหตุการเสียชีวิต หากพบว่านายสมมาศเสียชีวิตจากการถูกวางยาก็จะแจ้งข้อหาฆ่าคนตายต่อไป