แก๊ง จยย. ดวลปืนสนั่นลั่นถนนดับ

แก๊งวัยรุ่นก่อเหตุดวลปืนข้ามฟากถนน ส่องฝ่ายละนัด อีกฝ่ายเจอลูกซองเข้ากลางอก เสียชีวิตคาถนนหนึ่งเจ็บอีกหนึ่ง

เวลา 01.00 น. ร.ต.อ.ปรีชา ช่างเหล็ก ร้อยเวรสภ.อ.เมือง จ.พิษณุโลก

รับแจ้งเหตุวัยรุ่นถูกยิงด้วยอาวุธปืนเสียชีวิตบริเวณริมถนนมิตรภาพ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลพุทธชินราชและเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยข่าวภาพพิษณุโลก พบศพวัยรุ่นนอนเสียชีวิตอยู่ริมถนนมิตรภาพ ฝั่งปั๊มน้ำมันเจ็ท

อยู่ห่างทางเข้าโรงแรมอมรินทร์ลากูนประมาณ 20 เมตร

ทราบผู้เสียชีวิตภายหลังว่า นายจิรเดช จอมประเสริฐ อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/11 ถนนมหาจักรพรรดิ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก สภาพนอนหงายเสียชีวิตอยู่

จากการชันสูตรพบว่า

ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าบริเวณอกด้านขวา ลำคอด้านขวา กระสุนปืนลูกซองกระจายเข้าจุดสำคัญร่วม 10 รู ส่งผลให้เสียชีวิตทันที นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันกับผู้ตาย คือนาย

อรรถพล ตรุดเส็ง อายุ 19 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 33/1 ม.1 ต.ท่าทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ถูกอาวุธปืนลูกซองเช่นเดียวกันเข้าบริเวณไหล่ขวา อกขวา และคอด้านขวา กลุ่มเพื่อนที่มาด้วยกันนำส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลพุทธชินราช อาการพ้นขีดอันตราย

ในที่เกิดเหตุ พบบิดาของผู้เสียชีวิต คือ

นายพิษณุ จอมประเสริฐ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/11 ถนนมหาจักรพรรดิ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ที่มีอาการเศร้าสลด เปิดเผยว่า นายจิรเดชมักจะออกไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนทุกคืน เป็นเพื่อนแถวบ้านที่ตนก็ไม่ทราบว่าชื่ออะไรกันบ้างและไม่ทราบว่ามีเรื่องทะเลาะอะไรกันรุนแรงถึงขั้นยิงกันเสียชีวิต

ร.ต.อ.ปรีชา ช่างเหล็ก ร้อยเวรสภ.อ.เมือง จ.พิษณุโลก

เปิดเผยว่า พบหลักฐานเป็นปลอกกระสุนปืนลูกซองตกอยู่บริเวณหน้าสถานีบริการน้ำมันเจ็ท 1 ปลอก ห่างจากจุดพบศพนายจิรเดชประมาณ 50 เมตร สอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่ากลุ่มของนายจิรเดช และนายอรรคพล รวมกลุ่มขี่รักจักรยานยนต์เที่ยวในเขตเมืองและมาปักหลักกันที่หน้าปั๊มน้ำมันเจ็ท

ขณะที่กลุ่มคู่อรินั้น เป็นแก๊งค์จักรยานยนต์เช่นเดียวกัน

รวมกลุ่มขี่รถมาอยู่คนละฝั่งถนน 4 เลน เมื่อทั้งสองกลุ่มมาเจอกันที่หน้าปั๊มเจ็ท ได้ยิงปืนเข้าใส่กัน 2 นัด ส่งผลให้นายจิรเดชที่น่าจะขี่รถจักรยานยนต์คู่กับนายอรรถพลถูกยิงเข้าจัง ๆและเสียชีวิตทันที จากนั้นกลุ่มเพื่อนของนายจิรเดชได้นำนายอรรถพลส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลพุทธชินราช ซึ่งอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว ส่วนอีกกลุ่มทันทีที่ก่อเหตุได้แยกย้ายกันหลบหนี

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก