เตือนแท็กซี่อย่าซ่า อธิบดีกรมการขนส่งทุบโต๊ะ เห็นแก่ชาติเคารพกฎหมาย
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม เตือนแท็กซี่อย่าซ่า อธิบดีกรมการขนส่งทุบโต๊ะ เห็นแก่ชาติเคารพกฎหมาย
วันที่ 25 เมษายน 2558 ที่โรงแรมดุสิตปริ๊นเซส โคราช นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการประมูลหมายเลขทะเบียนสวยของ จ.นครราชสีมา ถึงกรณีปัญหาแท็กซี่สนามบินสุวรรณภูมิ ไม่กดมิเตอร์ชาวญี่ปุ่น และการขู่จะหยุดให้บริการ1,700 คันว่า มีปัจจัยหลายเรื่อง ซึ่งปัจจุบันมีแท็กซี่ 2 ขนาด คือขนาดเล็กกับขนาดใหญ่ ทั้งนี้การให้บริการต้องเป็นไปตามที่กฏหมายกำหนด คือ 1.ปฏิเสธผู้โดยสารไม่ได้ 2.ต้องใช้มิเตอร์แต่อยู่ภายใต้การควบคุมของ 2 หน่วยงาน
โดยกรมการขนส่งทางบกควบคุมระบบทั้งหมด ส่วนสนามบินควบคุมบริหารจัดการรถแท็กซี่ที่สนามบิน แต่ปัญหาปัจจุบันความพยายามที่จะไม่ใช้มิเตอร์ ทางกรมฯ ได้ทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ประกอบการแล้วว่าทำไม่ได้ เพราะการที่อ้างว่าราคามิเตอร์ไม่คุ้มทุน กรมฯ ยืนยันว่าราคามิเตอร์ได้คิดครอบคลุมทุกปัจจัยแล้ว สิ่งที่กรมฯ ต้องการขณะนี้คือระบบบริหารจัดการ เช่น เอารถมาจอดรอ 2 ชม.ในสนามบินต้องคิดว่าระบบเช่นนั้นเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพหรือไม่
“ขณะนี้หลายฝ่ายต่างให้ความสำคัญช่วยแก้ไขปัญหา เรายังมั่นใจว่าพี่น้องผู้ประกอบการแท็กซี่ต้องตระหนัก เพราะสนามบินเป็นประตูแรกของประเทศ และนักท่องเที่ยวจะมีความประทับใจในประเทศไทยแค่ไหนแท็กซี่มีความสำคัญ ส่วนมาตรการ เช่นที่มีข่าวในโซเซียลมีเดียของนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่โพสต์ว่าถูกไม่ใช้มิเตอร์อีกแล้วนั้น ทางกรมได้เรียกมาปรับขั้นสูงสุด 1,000 บาท และมีการพักใช้ใบอนุญาต 1 เดือน
และทางสนามบินถอนทะเบียนไม่ให้ให้บริการที่สุวรรณภูมิอีกแล้ว และกรมฯเอาเขาเข้าอบรมจิตบริการเสริมอีก ซึ่งขณะนี้บรรดาแท็กซี่ตระหนักดีว่าถ้ากระทำผิดเช่นนั้นเป็นผลเสียกับตัวเอง ระบบขนส่งสาธารณะ และประเทศชาติ เราหวังว่าทุกคนคงเข้าใจและลดการกระทำพวกนี้ให้หมดไปในที่สุด” อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าว
ส่วนกระแสข่าวที่แท็กซี่สนามบินสุวรรณภูมิกว่า 1,700 คัน จะหยุดวิ่งนั้น อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้ว่า ที่มีข่าวว่าแท็กซี่ 1,700 คันจะหยุดวิ่งนั้น ตนคิดว่าคงไม่มีแล้ว แต่ถ้ายังกระทำการเช่นนั้น กรมการขนส่งทางบกก็มีความพร้อมในการดูแลการเดินทางของพี่น้องประชาชน ซึ่งผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงคมนาคมได้สั่งการแล้ว กรมมีความพร้อมที่จะดูแลการเดินทางของประชาชนในทุกรูปแบบ
“พล.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคมเป็นห่วงมาก สิ่งที่สั่งการลงมา 1.ทำความเข้าใจกับพี่น้องแท็กซี่ให้เข้าใจจริงๆ 2.ให้เตรียมมาตรการรองรับถ้าแท็กซี่ยังคงปฏิบัติเช่นนั้น แต่เรื่องนี้กลุ่มผู้ประกอบการได้พูดคุยกันแล้ว ไม่ได้เป็นความคิดของกลุ่มแท็กซี่ เป็นเพียงกระแสที่พยายามสร้างให้ขึ้นมาในสังคมเท่านั้นเอง
ฉะนั้นเรามีหน้าที่ในการในการบริการสาธารณะจิตใจในการให้บริการต้องเป็นจิตสาธารณะจริงๆ และต้องตระหนักถึงความสำคัญของตัวเราเอง ต้องภูมิใจในอาชีพของเรา และต้องช่วยกันพัฒนา กรมฯขีดเส้นไว้แล้วระหว่างมาตรฐานกับไม่ได้มาตรฐาน เราจะช่วยกันพากันไปสู่มาตรฐานให้ได้ เพื่อประเทศของเราได้เดินหน้าต่อไป” อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ระบุ
อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเย็นวันที่ 24 เม.ย. 2558 ที่ผ่านมา น.ส.ดาลัด อัศเวศน์ รอง ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า ได้มีการประชุมร่วมกันระหว่างตัวแทนผู้ขับรถแท็กซี่ที่ให้บริการในสนามบิน และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมการขนส่งทางบก กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 21 รักษาพระองค์ (ป.พัน.21 รอ.) มณฑลทหารบกที่ 11 ตำรวจท่องเที่ยว และ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหารถแท็กซี่แวนเรียกราคาเหมาจากผู้โดยสาร เนื่องจากอ้างว่าต้องแบกรับภาระต้นทุนจากการขนส่งผู้โดยสารและสัมภาระในจำนวนที่มากกว่ารถขนาดเล็ก ผลการประชุมได้ข้อสรุปว่า จะกำหนดให้รถแท็กซี่ที่ให้บริการในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิทุกคัน ต้องบรรทุกผู้โดยสารได้ไม่เกินคันละ 4 คน ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร
เพราะที่ผ่านมาพบว่ารถแท็กซี่แวนมักจะบรรทุกผู้โดยสารมากกว่า 4 คน และบรรทุกสัมภาระเป็นจำนวนมาก จนบางครั้งผู้ขับขี่ไม่สามารถมองกระจกหลังเห็นได้ ซึ่งไม่ปลอดภัย ประกอบกับกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองจำนวนผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน ผู้ขับขี่ 1 คน เท่านั้น ซึ่งกลุ่มผู้ขับแท็กซี่ในสนามบินรู้สึกพอใจกับข้อสรุปดังกล่าว และจะไม่เรียกราคาเหมากับผู้โดยสารอีก หากไม่ต้องบรรทุกผู้โดยสารและสัมภาระเกินจำนวนที่กำหนดนี้
อีกด้านหนึ่ง โลกออนไลน์มีการแชร์ภาพกรณีห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ย่านปทุมวัน กทม. ขึ้นป้ายประจานแท็กซี่ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร พร้อมเรียกร้องให้ทางห้างฯ ประสานกับกรมการขนส่งทางบก ดำเนินคดีกับแท็กซี่กลุ่มดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยของห้างฯ ระบุว่า ได้ดำเนินการเรื่องนี้มาตั้งแต่เดือน มี.ค. 2558 โดยเป็นข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ศูนย์การค้าเป็นผู้บันทึกไว้
กรณีที่ลูกค้าเรียกรถแท็กซี่ แต่ถูกปฏิเสธ เจ้าหน้าที่จะจดบันทึกเลขทะเบียนรถ ชื่อสหกรณ์แท็กซี่ พร้อมกับบันทึกภาพแท็กซี่คันดังกล่าวเพื่อเป็นหลักฐาน และส่งเอกสารให้กับกรมการขนส่งทางบกต่อไป นอกจากนี้ทางศูนย์การค้ายังมีการทำใบร้องเรียนกรณีแท็กซี่ปล่อยลงข้างทาง หรือในกรณีอื่น ๆ อีกด้วย