ล่าสุดเวลา 10.30 น. วันที่ 23 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 5 นำโดย พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ รอง ผบช.ภาค 5 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภาค 5 และหน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภาค 5 ประสานกับทางตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ และทางเจ้าหน้าที่เทศบาลนครเชียงใหม่ ฝ่ายสาธารณสุขเทศบาล รวมทั้งหน่วยกู้ภัยรวมใจ นำกำลังกว่า 50 นาย เข้าตรวจสอบที่สุสานหายยา อ.เมืองเชียงใหม่ และเพื่อติดตามหาตัว นางบุญ ตัวการสำคัญในการนำศพเด็กทารก และชิ้นส่วนศพต่างๆ ขายให้กับพระสงฆ์ และเหล่าเจ้าพิธีทั้งหลาย จนมีชื่อเสียงโด่งดังในแวดวงของกลุ่มพวกไสยเวทย์ และมนต์ดำ กำลังเจ้าหน้าที่ไปถึงได้พบกับนายสุทัศน์ เนรมิตร อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นสัปเหร่อ ประจำสุสานหายยา และเป็นสามีของนางสมบุญ เนรมิตร อายุ 70 ปี ทั้งสองคนอยู่บ้าน ถ.ทิพยเนตร ต.หายยา อ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งบ้านดังกล่าวก็อยู่ในสุสานหายยา โดยนางสมบุญ ไหวตัวหลบหนีเจ้าหน้าที่ไปก่อนหน้านั้นแล้ว
ล่าตัวเมียสัปเหร่อ ผงะ!!เจอซากเด็ก-ชิ้นส่วนศพ
ล่าสุดเวลา 10.30 น. วันที่ 23 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 5 นำโดย พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ รอง ผบช.ภาค 5 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภาค 5 และหน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภาค 5 ประสานกับทางตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ และทางเจ้าหน้าที่เทศบาลนครเชียงใหม่ ฝ่ายสาธารณสุขเทศบาล รวมทั้งหน่วยกู้ภัยรวมใจ นำกำลังกว่า 50 นาย เข้าตรวจสอบที่สุสานหายยา อ.เมืองเชียงใหม่ และเพื่อติดตามหาตัว นางบุญ ตัวการสำคัญในการนำศพเด็กทารก และชิ้นส่วนศพต่างๆ ขายให้กับพระสงฆ์ และเหล่าเจ้าพิธีทั้งหลาย จนมีชื่อเสียงโด่งดังในแวดวงของกลุ่มพวกไสยเวทย์ และมนต์ดำ กำลังเจ้าหน้าที่ไปถึงได้พบกับนายสุทัศน์ เนรมิตร อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นสัปเหร่อ ประจำสุสานหายยา และเป็นสามีของนางสมบุญ เนรมิตร อายุ 70 ปี ทั้งสองคนอยู่บ้าน ถ.ทิพยเนตร ต.หายยา อ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งบ้านดังกล่าวก็อยู่ในสุสานหายยา โดยนางสมบุญ ไหวตัวหลบหนีเจ้าหน้าที่ไปก่อนหน้านั้นแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบที่บริเวณเมรุเผา ที่ 1 และ 2 ใต้เมรุเผา เจ้าหน้าที่พบถุงดำ บรรจุชิ้นส่วนศพ จาก รพ.ต่างๆ และคลินิก ต่างๆ ทั้งที่เชียงใหม่และที่ จ.น่าน ด้วย ซึ่งเศษชิ้นส่วนต่าง ๆ มีทั้งซากสายรก ซากเด็กทารกที่ไม่สมบูรณ์ ชิ้นส่วนอวัยวะต่างๆ ของศพ ที่กำลังรอการเผา โดยเมรุแรก มีจำนวน 16 ถุงดำ และเมรุที่ 2 มีจำนวน 4 ถุง ทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ร่วมกับแพทย์เวร แผนกนิติเวช รพ.มหาราชฯ ได้เข้าตรวจสอบชิ้นส่วนในถุงดำอย่างละเอียด และทำการบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่เทศบาลนครเชียงใหม่ เพื่อให้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปในการเผา
จากการสอบถาม นายสุทัศน์ เนรมิตร สัปเหร่อ สุสานหายยา ให้การว่า ภรรยาของตนได้หลบหนีไปแล้ว ก่อนหน้าที่ตำรวจจะมาถึง โดยคาดว่าหลบหนีเรื่องหนี้สินนอกระบบ ดอกเบี้ยร้อยละ 20 ที่เจ้าหนี้ส่งคนตามมาทวง สำหรับซากศพต่างๆ ที่พบจาก รพ.รวมทั้งเรื่องศพเด็กทารก ที่มีการนำมาจำหน่ายให้กับพระสงฆ์ต่างๆ นั้น ตนไม่รู้เรื่องกับภรรยา โดยภรรยาของตนจะเป็นผู้ดำเนินการเองส่วนตัว ทั้งการติดต่อกับพระสงฆ์หรือการคัดแยกดูศพว่าศพไหนสมบูรณ์ สำหรับชิ้นส่วนศพที่เจ้าหน้าที่พบเห็นในวันนี้ ตนไม่รู้ว่ามาได้อย่างไร ซี่งมีหลายโรงพยาบาลและคลินิก ที่ส่งมาให้เผา ตนไม่รู้เรื่อง ที่สุสานแห่งนี้มีสัปเหร่อ ด้วยกัน 3 คน รวมตนด้วย ส่วนภรรยาของตนไม่ได้มีหน้าที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด ตอนนี้ไม่รู้ว่าภรรยาของตนหนีไปอยู่ที่ไหน
นางนิชาภา จินายะ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเทศบาลนครเชียงใหม่ ทำหน้าที่หัวหน้างานสุขาภิบาล เทศบาลนครเชียงใหม่ ดูแลสุสานหายยา และสุสานช้างคลาน อ.เมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า การเผาศพแต่ละศพที่สุสานนั้น ทางสัปเหร่อ จะทำเรื่องรายงานมายังตนทุกครั้ง แต่การตรวจสอบวันนี้และพบซากชิ้นส่วนศพจาก รพ.ต่างๆ และคลินิก ซึ่งทางเทศบาลได้ยกเลิกการรับเผาศพให้กับทาง รพ.ไปแล้ว รวมทั้งคลินิกต่างๆ ด้วย แต่ปรากฏว่ามีชิ้นส่วนศพถูกซุกซ่อนรอการอบ การเผา ซึ่งไม่รู้ว่าชิ้นส่วนพวกนี้มาได้อย่างไร ทั้งที่ทางสุสานในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ได้ยกเลิกการรับเผาศพให้กับทางโรงพยาบาลนครเชียงใหม่และโรงพยาบาลอื่นๆ รวมทั้งคลินิกอื่นๆ ด้วย แสดงว่ามีเจ้าหน้าที่ของเทศบาล โดยเฉพาะสัปเหร่อ ซึ่งสุสานหายยามีจำนวน 3 คน ส่อพฤติกรรมไม่ถูกต้องแน่ ก็ต้องมีการตั้งกรรมการสอบในเรื่องนี้ โทษถึงขั้นต้องออกจากงาน และถูกส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดี เราได้ยกเลิกการเผาศพให้กับ รพ.ต่างๆ ไปนานกว่า 2 ปีแล้ว เนื่องจากศพโรงพยาบาลแช่แข็งมาก บางทีก็เป็นน้ำแข็ง เป็นน้ำบ้าง ทำให้ เตาเผาเกิดขัดข้องมีปัญหา จึงได้ยกเลิก
สำหรับนางสมบุญ ภรรยาของนายสุทัศน์สัปเหร่อ ประจำสุสานหายยา ป้าบุญไม่มีหน้าที่ใดๆ ทั้งสิ้น ทางเรามีการติดป้ายประกาศบอกไว้ สัปเหร่อที่สุสานแห่งนี้มี 3 คนเท่านั้น เพราะเคยมีบุคคลภายนอกเข้ามาวุ่นวาย จนเกิดปัญหา จึงได้ประกาศห้ามบุคคลอื่น หลังจากเกิดข่าวพาดพิงมาถึงป้าสมบุญ ว่าเป็นผู้จำหน่ายศพ ตนก็ได้มาสอบถามป้าบุญเองที่สุสาน เมื่อวานนี้ ทางป้าบุญก็ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ สำหรับการเอาผิดกับป้าสมบุญนั้น ต้องให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ส่วนนายสุทัศน์ สัปเหร่อสามี ตนจะได้รายงานให้กับหัวหน้าทราบและดำเนินการทางวินัยก่อน ส่วนจะมีส่วนรู้เห็นกับภรรยาหรือไม่อย่างไรก็แล้วแต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการ
พล.ต.ต.ปชา เปิดเผยว่า จากข้อมูลที่เราได้มาก็ตรงว่าใต้เมรุจะมีห้อง ซึ่งตรงนี้จะมีไว้เป็นที่เก็บซากต่างๆ ใส่ถุงสีดำ และมีเตาอบเพื่ออบให้แห้ง เพื่อผลิตส่งขาย ซี่งทางเทศบาลนครเชียงใหม่ เองก็ได้บอกว่า ตรงจุดนี้ได้งดรับศพจากโรงพยาบาลมหาราชฯ และ รพ.อื่นๆ ไปแล้ว 2 ปี แล้ว แต่ยังพบถุงดำจาก รพ.ต่างๆ ที่ทางเทศบาลได้ประกาศงดรับศพจาก รพ.ไปนานแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบก็ได้บอกว่า ไม่ถูกต้อง เพราะระเบียบนั้นหากมีการส่งมาเผาก็ต้องมีการเผาครั้งเดียวไปให้หมดเลย แสดงว่ามีคนภายในดำเนินการยังคงแอบกระทำอยู่ มีการซื้อขายกันเป็นธุรกิจ จุดเริ่มต้นมาจากทางโรงพยาบาลมาสู่สุสานและหลุดออกไปยังพระหรือพวกที่เล่นมนต์ดำ
ทางตำรวจภาค 5 ได้ออกตรวจมาแล้วหลายวัดในเชียงใหม่ พวกนี้จะทำเป็นขบวนการ มีการโฆษณาทางเว็บไซต์ เรื่องการทำวัตถุมงคล ซึ่งจะมีต่างชาติชาวจีน สิงคโปร์ มาเลเซียต่างพากันมาที่วัดเพื่อหาซื้อวัตถุมงคลพวกนี้ ที่มีการผลิตดำเนินการกันอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมดูแลสุสานของทางเทศบาลนครเชียงใหม่ เพิ่งรับทราบถึงพฤติกรรมของบุคคลที่แอบรับศพจากโรงพยาบาลต่างๆ หรือคลินิก มีการเก็บชิ้นส่วนไว้ และรับซาก ถึงแม้จะไม่ใช่ศพมาเผา
จากการสืบสวนทราบว่า ศพเด็กหรือซากศพชิ้นส่วนศพที่มาจากโรงพยาบาล ทาง รพ.จะมีเอกสารจำหน่ายศพออกมาอย่างถูกต้อง แต่พอซากศพหรือศพ ชิ้นส่วนศพมาถึงสุสาน พบว่ามีการแอบดำเนินการในขั้นตอนที่ผิด นำชิ้นส่วนศพ ออกมาจำหน่ายให้กับพระสงฆ์ต่างๆ หรือพวกเจ้าพิธีต่างๆ โดยบุคคลภายในของสุสานเอง เป็นผู้ดำเนินการ และติดต่อไปตามพระสงฆ์พวกสายดำ ไสยเวทย์ต่างๆ รวมทั้งพวกเจ้าพิธีที่ต้องการชิ้นส่วนซากศพไปประกอบพิธี
สำหรับการชันสูตรศพเด็กหญิงวันเพ็ญนั้นทางพนักงานสอบสวนกำลังรอผลชันสูตรจากแผนกนิติเวชอยู่ เราต้องการรู้ว่าน้องวันเพ็ญตายก่อนคลอดหรือคลอดแล้วตาย ซึ่งจะเป็นความผิดที่จะไปโยงกับนายเฉลิม ด้วงทอง อดีตเจ้าอาวาสวัดห้วยดินจี้ อ.ดอยหล่อ ซึ่งหากคลอดแล้วมาตายภายหลัง นายเฉลิมก็จะเข้าข่ายซ่อนเร้นอำพรางศพ ปกปิดการเสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับซากศพน้องวันเพ็ญ ที่ขุดขึ้นมาจากวัดห้วยดินจี่ อ.ดอยหล่อ เชียงใหม่นั้น ทางแผนกนิติเวช ได้ทำการตรวจสอบชันสูตรจนแล้วเสร็จ ซึ่งรอผลอยู่และแผนกนิติเวช ก็ได้แจ้งให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 5 มารับกลับไปเพื่อดำเนินการ โดยทางตำรวจภาค 5 ได้นำศพน้องวันเพ็ญ มาประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดช้างค้ำ หรือวัดเวียงกุมกาม อ.เมืองเชียงใหม่ โดยมีประชาชนที่ทราบข่าวพากันแห่มาดู บางคนถึงกับร้องไห้ สงสารเด็กและบางคนก็มองหาเลขเด็ด ทั้งเลขที่โลงศพเด็กหญิง ทั้งวันเดือน ปีเกิด เลขที่ของการตรวจ ชาวบ้านต่างตีเป็นเลขหวยกันมากมายตามความเชื่อ หลังจากบำเพ็ญกุศลสวดอภิธรรมศพแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้นำร่างของน้องวันเพ็ญ ไปทำการฌาปนกิจศพบริเวณลานด้านนอกวัดช้างค้ำ หรือที่เวียงกุมกาม