21 เม.ย. 58 เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป. พ.ต.อ.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ไพโรจน์ โรจนขจร ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ธรรมวัฒน์ หิรัณยเลขา รอง ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ สว.กก.2 บก.ป.แถลงข่าวจับกุม นายเศรษฐกิจ ศรัทธานุศาสตร์ อายุ 43 ปี นายชัยพัทธ์ อติวงศ์พิทักษ์ อายุ 33 ปี และ น.ส.อิสรีย์ บุญชู อายุ 26 ปี ในความผิดฐาน ร่วมกันรับของโจร ซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ซึ่งทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด และข้อหาปลอมเอกสารราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 และมาตรา 265 ตามลำดับ โดยแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับนายเศรษฐกิจ ในความผิดฐานมีและใช้บัตรอีเล็กทรอนิกส์ผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นหรือประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 269/6 จับกุมได้ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าเอ็มทีอารีน่า ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ต่อเนื่องบ้านเลขที่ 36/18 ซอยลำลูกกา 11/11 ต.คูคต อ.ลำลูกกา
พร้อมกันนั้น ได้ตรวจยึดของกลาง รถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ มิราจ สีแดง ทะเบียน ขน 6209 เชียงใหม่ , รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า พิอุส สีดำ ทะเบียน ญณ 8078 กทม. , รถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ มิราจ สีดำ ทะเบียน ฆว 3797 กทม. , รถยนต์ยี่ห้อนิสสัน อามิร่า สีขาว ทะเบียน กย 9208 ระยอง , รถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด เฟียสต้า เอ็กซ์ ทะเบียน ญฮ 1975 กทม. , รถยนต์ยี่ห้อซูซูกิ สวิฟ สีขาว ทะเบียน กท 8857 ราชบุรี , รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กร 9973 นนทบุรี และรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ สีขาว ทะเบียน ฆส 5384 กทม.
พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องเมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา กลุ่มผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป.ขอให้ช่วยสืบสวนติดตามรถยนต์ซึ่งถูกมิจฉาชีพออกอุบายฉ้อฉล ด้วยการเช่ารถแล้วนำไปขายต่อ จนได้รับความเดือดร้อน โดยก่อนหน้านี้ได้เข้าแจ้งความไว้ตามท้องที่เกิดเหตุแล้ว แต่คดีไม่มีความคืบหน้า ต่อมาหนึ่งในผู้เสียหาย ได้พบข้อมูลประกาศขายรถในเว็บไซต์ที่ชื่อ “รถหลุดจำนำราคาถูก” โดยพบประกาศขายรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ มิราจ สีแดง ซึ่งรูปลักษณ์ทั้งภายในและภายนอก ทางผู้เสียหายรายนี้จดจำได้อย่างแม่นยำ ว่าเป็นรถของตนเอง
พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าวต่อว่า หลังจากพบข้อมูลดังกล่าว ผู้เสียหายได้แจ้งให้ทางชุดสืบสวน กก.2 บก.ป.ทราบ จึงมีการวางแผนติดต่อล่อซื้อรถยนต์คันนี้ จากเจ้าของเว็บไซต์ที่ประกาศขาย และทิ้งเบอร์โทรศัพท์ติดต่อไว้ โดยผู้เสนอขายคือ นายเศรษฐกิจ และ น.ส.อิสรีย์ ในราคา 99,000 บาท โอนเงินล่วงหน้า 5,000 บาท ส่วนที่เหลือให้ชำระเมื่อมีการส่งมอบรถกันแล้ว ซึ่งนัดหมายส่งมอบรถกันที่ห้างสรรพสินค้าเอ็มที อารีน่า ต.คูคต อ.ลำลูกกา จากนั้นนายชัยพัทธ์ ผู้ต้องหาได้ขับรถคันดังกล่าวมา โดยเจ้าหน้าที่ซึ่งปลอมตัวเข้าล่อซื้อรถ ขอตรวจสอบเอกสารการครอบครองรถ แต่นายชัยพัทธ์ ไม่สามารถนำมาแสดงได้ ก่อนที่ผู้เสียหายจะออกมาชี้ยืนยันว่าเป็นรถของตน
“หลังจากมีการแสดงเอกสารหลักฐานยืนยันความเป็นเจ้าของรถของผู้เสียหายแล้ว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย เอาไว้ ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้น นายชัยพัทธ์ รับสารภาพว่า นอกจากรถยนต์คันดังกล่าวแล้ว ยังมีรถที่ได้มาโดยมิชอบ พร้อมที่นำออกขายให้ลูกค้าอีก 7 คัน ซึ่งจอดไว้ที่บ้านพักเลขที่ 36/18 ซอยลำลูกกา 11/11 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จึงมีการขยายผลเข้าตรวจยึดรถทั้งหมดไว้ได้เพิ่มเติม นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบกุญแจรถ และเอกสารสำเนาบัตรประชาชนผู้อื่นเป็นจำนวนมาก จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน” รรท.ผบก.ป.กล่าว
จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมด รับสารภาพในความผิดฐานร่วมกันรับของโจร แต่ปฏิเสธข้อหาปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เตรียมสืบสวนขยายผลการจับกุมไปยังเครือข่ายผู้กระทำความผิดเนื่องจากเชื่อว่าน่าจะยังมีผู้ร่วมขบวนการอีกหลายราย ส่วนรถยนต์ของกลางที่ตรวจยึดไว้ ได้ประสานไปยังผู้เสียหาย เพื่อตรวจสอบและยืนยันความเป็นเจ้าของก่อนส่งมอบคืนต่อไป
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
