ตำรวจทุ่งมหาเมฆ เข้าสอบปากคำผู้ต้องหาโรคจิตกามวิปริตวิตถาร ใช้ขวดยัดทวารสาวบาร์เบียร์เชียงใหม่ขณะร่วมเพศจนเสียชีวิต พบเข้าข่ายฆาตกรต่อเนื่อง สารภาพหมดเปลือกปี 49 เคยก่อเหตุใช้ขวดเบียร์ยัดรูทวารสาวทอมเชียร์แขกบาร์พัฒน์พงศ์ตายสยองมาแล้วเปลี่ยนชื่อนับสิบครั้ง แถม 6 เดือนก่อนก่อเหตุที่โรงแรมย่านสถานีรถไฟเชียงใหม่ด้วย
วันนี้(18 เม.ย.) เมื่อเวลา 08.00 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.นภดล จำปีแขก พนักงานสอบสวน ตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ กรุงเทพมหานคร ได้เข้าสอบปากคำ นายภรา ชูศรี อายุ 52 ปี ที่อยู่ 15/59 ม.2
นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ฆาตกรโรคจิต ที่ใช้ขวดน้ำยัดรูทวารหนัก ระหว่างมีเพศสัมพันธ์แบบซาดิสต์ วิตถาร
จนทำให้พนักงานร้านซูบารุบาร์เบียร์ ย่านถนนลอยเคราะห์ ซอย 3 ก.กลางเมืองเชียงใหม่ ขวดเข้าไปอยู่ในลำไส้ใหญ่ และขวดแก้วแตก บาดอวัยวะภายในจนเสียชีวิต เนื่องจากมีคดีในลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นในพื้นที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ เมื่อปี 2549
ผู้ต้องหารับสารภาพหมดเปลือก ว่า ได้ล่อลวง คนเชียร์แขกอยู่ที่ร้านอะโกโก้ ย่านพัฒน์พงศ์สาวทอม ไปร่วมหลับนอน ในโรงแรม และใช้ขวดเบียร์ยัดรูทวารจนเหยื่อเสียชีวิต จากนั้นหลบหนีไป ที่ผ่านมายังเคยถูกจับกุม คดีฆ่าคนตาย ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ติดคุกนานหลายปี และพ้นโทษเมื่อปี 2546
คำสารภาพของฆาตรกรโรคจิต..มันเคยยัดขวดเข้าก้นสาวทอมตายสยองมาแล้ว
พ.ต.อ.วีระยุทธ ประสพโชคชัย ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ ระบุว่า จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า ก่อนหน้านี้ผู้ต้องหา เคยเปลี่ยนชื่อมาแล้วนับ 10 ครั้ง เช่น นายปรัชญา ชูศรี , นายปรัชญา ชอบการพาณิชย์ , นายรุ่งเรือง ชูศรี , นายสุภาษิต ชูศรี , นายประเวศ ชูศรี เป็นต้น
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า ช่วงสายวันนี้ ทางพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจเมืองเชียงใหม่ ได้นำตัวนายภรา ไปขออำนาจศาลจังหวัดเชียงใหม่ฝากขัง และควบคุมตัวเข้าเรือนจำทันที โดยทางพนักงานสอบสวน ยังได้คัดค้านการประกันตัว เพราะเกรงว่าจะมีพฤติกรรมหลบหนี ซึ่งผู้ต้องหาถูกดำเนินคดี มากถึง 7 ข้อหา เป็นการกระทำต่างกรรม ต่างวาระ โทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต
ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ ยังเชื่อว่า น่าจะมีหญิงสาวที่เคยตกเป็นเหยื่อ และถูกผู้ต้องหากระทำทารุณกรรมทางเพศ อีกหลายราย จึงขอให้เข้ามาให้ข้อมูลกับทางตำรวจเพิ่ม
แนวทางการสืบสวนล่าสุด พบว่า ยังมีหญิงสาวอีก 1 ราย ที่ผู้ต้องหาเคยพาไปร่วมหลับนอนในโรงแรม ย่านสถานีรถไฟเชียงใหม่ เมื่อ 6 เดือนก่อน และให้กินยากล่อมประสาท แล้วทำทารุณกรรมทางเพศในลักษณะเดียวกัน แต่ผู้เสียหายไม่ได้เข้าแจ้งความ หรือให้ข้อมูลกับทางตำรวจ
ทั้งนี้หากมีการแจ้งความเพิ่ม โทษก็จะเพิ่มสูงขึ้นอีก ซึ่งผู้ต้องหาถือว่าเป็นบุคคลอันตรายต่อสังคมเป็นอย่างมาก และมีพฤติกรรมเป็นมาตกรต่อเนื่อง
ขอบคุณผู้จัดการออนไลน์