หนุ่มเสื้อน้ำเงินโผล่ โต้บอมบ์ แค่ไปกินกาแฟ รุดพบตร.โชว์ความบริสุทธิ์ใจ

ชายชุดน้ำเงินรุดพบ ตร. โต้ขับคาร์บอมบ์ รับวันเกิดเหตุไปห้างเซ็นทรัลฯ เกาะสมุยจริง แต่แค่ไปนั่งกินกาแฟแล้วขี่จยย.กลับบ้าน

 เพื่อไปเฝ้าพ่อที่ป่วยทุกวัน ระบุตกใจเป็นผู้ต้องสงสัย ยันบริสุทธิ์-ไม่เอี่ยวคาร์บอมบ์ โดยจนท.เก็บดีเอ็นเอ ไว้ตรวจสอบก่อนปล่อยตัวไป ด้านตร.นำตัวรปภ.ห้างมาสอบอีก 3 เป็นคนในจว.ชายแดนใต้ ก่อนส่งตัวให้ทหารเค้นต่อ โดยคุมรปภ.มาสอบแล้วรวม 7 คน ขณะที่จนท.ระดมค้น 21 ที่พักในดอนสัก-ขนอม เช็กวงจรปิดด้วย สงสัยทีมบึ้มใช้ค้างคืน-ประกอบระเบิด ผบ.ตร.เผยจนท.กำลังดำเนินการออกหมายจับ แต่ต้องรอบคอบ ย้ำมุ่งปมการเมือง ใช้วิธีจ้างวานหวังเบี่ยงประเด็น


จากกรณีคนร้ายลอบวางคาร์บอมบ์บริเวณลานจอดรถชั้นใต้ดินของห้างเซ็นทรัลฯ เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

เจ้าหน้าที่ระดมตรวจสอบกล้องวงจรปิดจับภาพชายต้องสงสัย สวมเสื้อสีน้ำเงินเดินออกจากห้างในช่วงก่อนเกิดเหตุ โดยรองผบช.ภ.8 ระบุชายคนดังกล่าวเป็นคนขับคาร์บอมบ์มา จอดไว้ ขณะที่กล้องวงจรปิดบริเวณท่าเรือดอนสักยังจับภาพรถกระบะที่ใช้กระบะคาร์บอมบ์ได้ด้วย ซึ่งอยู่ระหว่างขยายผล ส่วนการสอบสวนเจ้าหน้าที่ยังคุมตัว 4 รปภ.ห้างไว้สอบถามเพิ่มเติม เนื่องจากต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น ตามที่เคยเสนอข่าวไปนั้น


ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ที่ห้องประชุมเฉวง สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.สมชาย นิตยบวรกุล รอง ผบช.ภ.8 พร้อมด้วยพล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.กองแผนงานและกิจการพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เรียกประชุมตำรวจชุดคลี่คลายคดีคาร์บอมบ์ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง


พล.ต.ต.สมชายกล่าวว่า การคลี่คลายคดีมีความคืบหน้าไปมาก ตำรวจทุกชุดกำลังทำงานอย่างเต็มที่ คาดจะสามารถจับกุมคนร้ายคดีนี้ได้ในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน

ส่วนประเด็นการตรวจพบชายเสื้อสีน้ำเงินจากกล้องวงจรปิดของห้างเซ็นทรัลฯ เกาะสมุย แล้วมีการแชร์กันอย่างกว้างขวางในสังคมออนไลน์ ก่อนตำรวจจะสันนิษฐานว่าเป็น ผู้ขับคาร์บอมบ์มาก่อเหตุนั้น ล่าสุดพบตัวชายเสื้อสีน้ำเงินแล้ว โดยเมื่อกลางดึกที่ผ่านมาชายคนดังกล่าวได้เดินทางมาพบตำรวจแล้วยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับเหตุคาร์บอมบ์ โดยแจ้งว่าชื่อนายวิระ พันธุ์เจริญ หรือแก้ว อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22/17 หมู่ 2 ต.อ่างทอง อ.เกาะสมุย ซึ่งนายวิระได้มาแสดงตัวยืนยันว่าช่วงวันเวลาที่เกิดเหตุอยู่ที่ไหน โดยระบุว่าวันเกิดเหตุได้ไปเที่ยวห้างเซ็นทรัลฯ เกาะสมุยจริง แต่ขอยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับเหตุคาร์บอมบ์ เพราะทุกวันนี้ก็ยังเฝ้าดูแลพ่อที่นอนป่วยที่บ้านพัก เจ้าหน้าที่จึงเก็บดีเอ็นเอของนายวิระไว้ตรวจเทียบเคียงกับดีเอ็นเอที่พบในจุดเกิดเหตุว่าตรงกันหรือไม่ ก่อนปล่อยตัวไป


พล.ต.ต.สมชายกล่าวอีกว่า ส่วนรปภ.ของห้าง 3 คนที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยและทหารคุมตัวไว้สอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งที่ค่ายทหารวิภาวดีรังสิต อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี

โดยวันนี้ตำรวจได้ขออนุญาตเข้าไปสอบปากคำ เพื่อขยายผลของเหตุการณ์ว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องบ้างและขบวนการคาร์บอมบ์ใครอยู่เบื้องหลัง ซึ่งคาดว่าหากตำรวจสอบปากคำ 3 รปภ.แล้ว อาจนำไปสู่การออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องได้ นอกจากนี้ยังเก็บดีเอ็นเอของรปภ.ทั้ง 3 คน เพื่อนำไปเปรียบเทียบเช่นกัน พร้อมยืนยันการตรวจค้นบ้านพักของรปภ.ไม่พบสารประกอบระเบิด แต่อย่างใด โดยพบเพียงแผนผังของห้าง เซ็นทรัลฯ เกาะสมุย เพราะ 1 ใน 3 รปภ.มีหน้าที่รับผิดชอบดูเรื่องกล้องวงจรปิดของห้างด้วย


"ขณะนี้ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากด่านตรวจต่างๆ ตั้งแต่จ.สงขลา จ.นครศรี ธรรมราช มาจนถึงท่าเรือเฟอร์รี่ดอนสัก พบเมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 9 เม.ย. พบรถกระบะยี่ห้อมาสด้าคันที่ถูกปล้นจาก อบต.ละแอ อ.ยะหา จ.ยะลา ขับผ่านกล้องวงจรปิดของด่านตรวจอ.สิงหานคร จ.สงขลา อย่างชัดเจน แต่มองไม่เห็นภาพคนขับรถ โดยตอนนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิด จากด่านตรวจอื่นๆ เพิ่มเติม แต่ยังไม่พบ" พล.ต.ต.สมชายกล่าว


พล.ต.ต.สมชายกล่าวต่อว่า หลังจากรถคันดังกล่าวขับขึ้นฝั่งบนเกาะสมุย เมื่อเวลา 08.30 น.

 จากนั้นคนขับได้ขับรถต่อไปและมาจอดหยุดบริเวณรอบพรุเฉวง ฝั่งตรงข้ามห้างเซ็นทรัลฯ เกาะสมุย อยู่นานประมาณ 33 นาที ก่อนคนขับจะขับรถเข้าไปจอดลานจอดรถชั้นใต้ดินแล้วเดินขึ้นมาบนห้างหายไป คาดมีการตั้งระเบิดเวลาด้วยโทรศัพท์ มือถือ ก่อนคาร์บอมบ์ทำงานในเวลา 22.30 น. ของวันที่ 10 เม.ย. ซึ่งตำรวจชุดคลี่คลายคดีทุกชุดกำลังทำงานกันอย่างเต็มที่


ต่อมาเจ้าหน้าที่นำตัวนายวิระ ซึ่งเป็นชายสวมเสื้อสีน้ำเงินในภาพที่กล้องวงจรปิดบันทึกไว้ได้ มาที่สภ.เกาะสมุย เพื่อส่งให้ชุดสืบสวนสอบเพิ่มเติม

 โดยนายวิระกล่าวว่า ภาพในกล้องวงจรปิดเป็นตัวเองจริง โดยเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปเที่ยวห้างในเวลา 11.00 น. ตอนห้างเปิดเพื่อกินกาแฟ เสร็จแล้วได้ขี่รถกลับบ้าน โดยไม่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น ต่อมาญาติที่เป็นอาสาสมัครตำรวจ สภ.เกาะสมุย ได้เห็นภาพตนทางสังคมออนไลน์และตกเป็นผู้ต้องสงสัยเหตุคาร์บอมบ์ จึงบอกให้ตนรีบไปแสดงตัว เพื่อความบริสุทธิ์ใจและยินดีให้ความร่วมมือกับตำรวจ


ถัดมาเจ้าหน้าที่นำรปภ.ของบริษัท โปรการ์ด จำกัด ที่รับดูแลรักษาความปลอดภัยห้างเซ็นทรัลฯ เกาะสมุย อีก 3 คน

ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มาให้พล.ต.ต.คัชชา และชุดสืบสวนสอบปากคำ โดยมีสารวัตรทหารจังหวัดทหารบกสุราษฎร์ ธานี 2 นาย มาเฝ้าอยู่ด้วย ทั้งนี้ 1 ใน 3 ของรปภ.กล่าวว่า วันนี้ตำรวจนัดมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งวันเกิดเหตุตนและเพื่อนเข้าเวรอยู่ในตอนเกิดเหตุด้วย รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากสอบปากคำเสร็จ ตำรวจจะนำตัวรปภ.ทั้ง 3 คน ส่งให้ทหารตามมาตรา 44 ก่อนนำไปควบคุมตัวไว้ที่ค่ายวิภาวดีรังสิต ร่วมกับรปภ.อีก 4 คนแรก ที่ถูกส่งตัวไปคุมไว้เมื่อวันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่านมา รวมตอนนี้เจ้าหน้าที่คุมตัวรปภ.ห้างไว้แล้ว 7 คน ซึ่งทั้งหมดมาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อสอบประวัติและรายละเอียดทั้งหมดต่อไป


นอกจากนี้ มีการเปิดเผยภาพวงจรปิด ที่บันทึกภาพรถคันที่ก่อเหตุคาร์บอมบ์ บนเกาะสมุย เป็นรถกระบะ ยี่ห้อมาสด้า รุ่นบีที 50 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กย-5618 ชลบุรี ขับผ่านหน้าหน่วยบริการประชาชนแม่น้ำ ต.แม่น้ำ เมื่อเวลา 09.26 น. ของวันที่ 10 เม.ย. และผ่านกล้องวงจรปิดอีกตัวบริเวณหน้าแขวงการทางเกาะสมุย ในเวลา 09.27 น. ของวันที่ 10 เม.ย.เช่นกัน


สำหรับรถยนต์คันดังกล่าวได้ติดฟิล์ม สีดำไม่สามารถมองเห็นคนในรถได้ และ ที่กระบะรถก็ไม่พบบรรทุกสิ่งของหรือสัมภาระมาด้วย ก่อนขับไปจอดไว้ในห้างเซ็นทรัลฯ เกาะสมุย


รายงานข่าวแจ้งอีกว่า เจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจสอบที่พักบริเวณท่าเทียบเรือดอนสักด้วย เนื่องจากรถกระบะต้องสงสัยที่จับภาพได้ไม่ได้ไปจอดรถรอคิวลงเรือ จึงเชื่อว่ากลุ่มคนร้ายอาจพักค้างคืนและทำการประกอบระเบิดก่อนนำรถลงเรือ ซึ่งชุดสืบสวนกำลังตรวจสอบที่พักรายวัน 21 แห่งในพื้นที่อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี และเขตรอยต่ออ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช พร้อมทั้งซักถามบุคคล หาข่าวและตรวจสอบกล้องวงจรปิด แต่ยังไม่พบเบาะแส ขณะเดียวกันยังขยายพื้นที่ตรวจสอบตามเส้นทางสาย 401 และตรวจสอบตามร้านขายสินค้าเกษตร และร้านวัสดุก่อสร้าง เพราะอาจเป็นไปได้ว่าคนร้ายได้ประกอบระเบิดในพื้นที่อ.ดอนสัก หรืออ.ขนอม