ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 เม.ย. ที่สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย พล.ต.ต.สมชาย นิตยบวรกุล รองผบช.ภ.8 เรียกประชุมชุดคลี่คลายคดีเพื่อติดตามความคืบหน้าใช้เวลาราว 1 ชม. จากนั้นพล.ต.ต.สมชาย แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า ตำรวจทุกชุดกำลังทำงานเต็มที่ คาดว่าจะจับกุมคนร้ายได้ในเร็ว ๆ นี้แน่นอน ล่าสุดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ตำรวจได้ควบคุมตัวนายวิระ พันธ์เจริญ หรือ แก้ว อายุ 38 ปี ชายต้องสงสัยที่สวมเสื้อสีน้ำเงินในภาพจากกล้องวงจรปิดได้ที่บ้านพักเลขที่ 22/17 หมู่ 1 ต.อ่างทอง อ.เกาะสมุย มาสอบสวน เจ้าตัวให้การยืนยันว่าเป็นบุคคลตามภาพจริง แต่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้เพราะเป็นแค่เพียงคนธรรมดาที่เฝ้าดูแลบิดาที่นอนป่วยอยู่ที่บ้านพัก แต่วันเกิดเหตุขี่รถจยย.ไปจอดที่ชั้นใต้ดินและเดินผ่านเพื่อขึ้นไปดื่มกาแฟในห้างทำให้กล้องจับภาพไว้ได้ ตำรวจได้ตรวจเก็บดีเอ็นเอนายวีระไว้เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอที่เก็บจากที่เกิดเหตุว่าตรงกันหรือไม่ ก่อนปล่อยตัวไป
พล.ต.ต.สมชาย กล่าวต่อว่า สำหรับรปภ.ห้างเซ็นทรัล 3 คน ต้องสงสัยที่ทหารล็อกตัวไว้สอบเครียดในเซฟเฮ้าส์บนเกาะสมุยนั้น ทหารได้นำตัวไปสอบเพิ่มเติมอย่างละเอียดที่ค่ายทหารวิภาวดีรังสิต เขต อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ตำรวจได้ขอนุญาตทหารขอเข้าสอบปากคำแล้วเพื่อขยายผลของเหตุคาร์บอมบ์ว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้างและมีใครอยู่เบื้องหลัง ทางสอบสวนปากคำเสร็จอาจนำไปสู่การออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องต่อไป นอกจากนี้ยังเก็บดีเอ็นเอของ 3 รปภ.อย่างละเอียดเพื่อนำไปตรวจสอบว่าตรงกับที่เกิดเหตุหรือไม่ ขอยืนยันว่าจากการตรวจค้นบ้านพักของ 3 รปภ.ไม่พบสารผลิตระเบิดตามที่เป็นข่าวพบเพียงแผนผังของห้างเซ็นทรัลเพราะ 1 ใน 3 รปภ.มีหน้าที่รับผิดชอบกล้องวงจรปิดของห้าง ทำให้มีแผนผังเก็บไว้ตำรวจกำลังแกะรอยประเด็นนี้อยู่
"จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามด่านตรวจต่าง ๆ ตั้งแต่เขต จ.สงขลา นครศรีธรรมราช มาถึงท่าเรือเฟอรี่ อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา พบรถกระบะมาสด้าที่ถูกปล้นมาจากอบต.ละแอ ขับผ่านกล้องวงจรปิดด่านตรวจ อ.สิงหานคร อย่างชัดเจนแต่ไม่เห็นใบหน้าคนขับ เช่นเดียวกับกล้องวงจรปิดที่ท่าเรือราชาเฟอรี่ฝั่งดอนสักพบรถคันนี้เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 10 เม.ย.และขับขึ้นบนฝั่งเกาะสมุยในเวลาต่อมาคือ 08.30 น. และจอดหยุดรอบริเวณพรุเฉวง ฝั่งตรงข้ามห้างเซ็นทรัลเกาะสมุย อยู่นาน 33 นาที ก่อนที่คนขับจะเข้าไปจอดชั้นใต้ดินและเดินขึ้นบนห้างหายไป คาดว่ามีการตั้งระเบิดเวลาด้วยโทรศัพท์มือถือก่อนระเบิดคาร์บอมบ์ทำงานเมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 10 เม.ย.แต่ไม่พบภาพใบหน้าคนร้ายตามจุดต่าง ๆ ที่พบรถ ชุดคลี่คลายคดีกำลังเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมอีกหลายจุดเพื่อแกะรอยหาคนขับรถต่อไป คาดว่าจะสามารถคลี่คลายคดีได้เร็ว ๆ นี้แน่นอน" พล.ต.ต.สมชาย กล่าว
มีรายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อตรวจสอบเส้นทางผ่านของรถกระบะมาสด้า สี่ประตู BT50 สีบรอนซ์ เลขทะเบียนปลอม กย 5618 ชลบุรี ที่ใช้คาร์บอมบ์นั้น พบว่าฝากระโปรงด้านหน้าติดสติ๊กเกอร์สีดำ โดยรถคันดังกล่าวติดฟิล์มดำทึบจึงไม่สามารถมองเข้าไปข้างในเห็นคนขับแม้แต่น้อย ลงเรือที่ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ ใน อ.ดอนสัก เวลา 07.02 น. และเรือเฟอร์รี่มาถึงฝั่งอ.เกาะสมุย เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 10 เม.ย. จากนั้นเส้นทางของรถยนต์คันดังกล่าว ได้ขับตามถนนสายทวีราษฎร์ภักดี ผ่านหน่วยบริการประชาชนบ้านใต้ และผ่านหน่วยบริการ ต.แม่น้ำ และผ่านโรงเรียนทีปราษฎร์วิทยา ในเวลา 09.26 น.ของท้องที่ สภ.เกาะสมุย และผ่านหน่วยบริการประชาชน ต.บ่อผุด เวลา 09.40 น. ในวันเดียวกัน จากนั้นยังขับเข้าไปภายในลานจอดรถชั้นใต้ดินในห้างเซ็นทรัล เวลาประมาณ 10.00 น.เศษ ๆ หลังนำรถไปจอดแล้วคนขับหายตัวไปจนเกิดเหตุระทึกดังกล่าว
นอกจากนี้เมื่อเวลา 14.30 น. ด.ต.กมล ทองพันธ์ุ ผบ.หมู่ป.สภ.เกาะสมุย ไปเชิญตัวนายวิระ มาที่สภ.เกาะสมุยอีกรอบ เพื่อส่งให้ชุดสืบสวนสอบเพิ่มเติมในประเด็นที่มีภาพวงจรปิดจับไว้ได้ในลานจอดรถ ทั้งนี้นายวิระ ยืนยันกับชุดสืบสวนและผู้สื่อข่าวว่าเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ขี่รถจยย.ไปเที่ยวห้างเวลา 11.00 น.เพื่อกินกาแฟเสร็จแล้วขี่รถกลับบ้านโดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น กระทั่งญาติที่เป็นอส.ตร.สภ.เกาะสมุย เห็นภาพตนทางสื่อโซเชียลต่าง ๆ ว่าเป็นผู้ต้องสงสัยกับเหตุวางระเบิดพากันตกใจบอกให้รีบไปแสดงตัวเพื่อความบริสุทธิ์ใจ จนพ.ต.ท.เด่นดวง ทองศรีสุข รองผกก.สภ.บ่อผุด มารับตัวไปสอบสวน ส่วนที่สภ.บ่อผุด ตำรวจควบคุมตัวรปภ.บริษัทโปรการ์ จำกัด ที่รับจ้างดูแลรักษาความปลอดภัยห้างเซ็นทรัลเฟสติวัลเกาะสมุยอีก 3 คน ซึ่งเป็นชาว 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มาให้ชุดสืบสวนสอบปากคำโดยมีสารวัตรทหารจังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานี 2 นายมาเฝ้าอยู่ด้วย
โดยในจำนวน 2 คน ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัววันนี้ และอีก 1 คน ควบคุมตัวไว้เมื่อวันที่ 13 เม.ย. เพิ่มเติมจาก 3 คนที่ถูกควบคุมตัวไว้ตั้งแต่แรก ทั้งนี้ 1 ใน 3 ของรปภ. กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตำรวจได้นัดมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเป็นครั้งที่ 2 วัน เนื่องจากเรา 3 คนเข้าเวรอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย ทั้งนี้มีรายงานข่าวแจ้งว่า หลังสอบปากคำเสร็จตำรวจได้นำทั้ง 3 คนส่งทหารตามมาตรา 44 ไปควบคุมตัวไว้ที่ค่ายวิภาวดีรังสิต จังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานี ร่วมกับ 3 คนแรกเพื่อสอบประวัติและรายละเอียดต่อไป
ด้านพล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่กรมทหารพรานที่ 41 เกี่ยวกับการซักถามนายอับดุลรอซะ ดูมิแด พนักงานขับรถอบต.ละแอ ที่ถูกดักปล้นซึ่งได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ จนทราบแล้วว่า คนร้ายบางส่วนที่ทำการปล้นชิงรถไปทำคาร์บอมบ์เป็นใครและกลุ่มไหน โดยพบว่าไม่ใช่เป็นการปล้นแต่เป็นการ "จัดฉาก" เพื่อกันคนขับรถให้พ้นความผิดทำให้สามารถต่อ "จิกซอ" ของกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้เพื่อหาการเชื่อมโยงกับกลุ่มที่อยู่ที่เกาะสมุย เพราะเกี่ยวพันเป็นเครือข่าย มีการวางแผนล่วงหน้าอย่างดี ก่อนปฏิบัติการเช่นเดียวกับการทำ "คาร์บอมบ์" ที่โรงแรมลีการ์เดนท์พลาซ่า หาดใหญ่ อ. หาดใหญ่ จยย. บอมบ์ที่โรงพักหาดใหญ่ ข้างโรงแรมสาธิตที่ อ.สะเดา จ. สงขลา และที่โรงแรมเบตง อ.เบตง จ.ยะลา สำหรับการควบคุมตัว 3 รปภ.ต้องสงสัยนั้นให้การที่เป็นประโยชน์กับรูปคดี รวมถึงการเชื่อมโยงของกลุ่มแนวร่วมใน 3 จังหวัด แต่ยังไม่สามารถเชื่อมโยงกับกลุ่มที่เข้ามาก่อเหตุได้ จึงยังควบคุมตัวเอาไว้โดยใช้อำนาจพ.ร.บ.ความมั่นคงเพื่อสอบถามรายละเอียดต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า สำหรับสาเหตุของการ”คาร์บอมบ์” นั้น ได้รับการเปิดเผยจากชุดสืบสวนของพล.ต.ท.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจ ว่า ขณะนี้ประเด็นการก่อเหตุแคบเข้าแล้วโดยตัดประเด็น การก่อเหตุจากความขัดแย้งของกลุ่มอิทธิพลในเกาะสมุยและความขัดแย้งในการไล่รปภ.ออกจากงานเหลือเพียงเรื่องการว่าจ้างจากผู้ที่ต้องการก่อกวนเพื่อสร้างความปั่นป่วนให้กับบ้านเมืองและเรื่องการปฏิบัติการก่อการร้ายของขบวนการโจรแบ่งแยกดินแดนภาคใต้
ขณะที่หน่วยข่าวกรองในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ได้ตรวจสอบรายชื่อของกลุ่มแกนนำที่ถูกระบุว่าเป็นผู้วางแผนในการระเบิดห้างเซ็นทรัลในครั้งนี้ อาทิ นายอูไบดี ละรอมลี นายอาบัส เจะอาลี นายปอเซ็ง เจ๊ะมะ นายรุสลัน ใบหมะ ว่ามีความใกล้ชิดกับกลุ่มการเมืองอำนาจเก่า ในพื้นที่ 3 จังหวัดหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ หน่วยข่าวกรอง ได้โฟกัสไปที่ อดีตนักการเมือง ใน จ.นราธิวาส และ ยะลา 3 คน ที่พบความเชื่อมโยงกับกลุ่มบีอาร์เอ็น กลุ่มนี้ ที่มีศักยภาพ ในการใช้ หรือ จ้างวานให้ก่อเหตุได้
มีรายงานข่าวด้วยว่า ล่าสุดได้มีคำสั่งให้หน่วยข่าวความมั่นคงของกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าและตำรวจสันติบาล รวมทั้งชุดประสานงานชายแดน หาข่าวความเชื่อมโยงจากแกนนำ ขบวนการบีอาร์เอ็นและพูโล ทั้งใน 3 จังหวัดภาคใต้ และในประเทศมาเลเซีย โดยส่งนายทหารที่เกาะติดความเคลื่อนไหวของแกนนำของบีอาร์เอ็นและพูโลไปพบนายตำรวจระดับพ.ต.อ.ผู้หนึ่ง ที่อยู่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเคยเป็นผู้ที่มีบทบาทกับอำนาจเก่า ในการประสานงานให้แกนนำบีอาร์เอ็นและพูโล ได้พบกับผู้นำอำนาจเก่า ก่อนที่บีอาร์เอ็น จะมีการพูดคุยกับตัวแทนรัฐบาลเพื่อไทยเมื่อปี 56 รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับพ.ต.อ.ผู้นี้ เป็นผู้ประสานงานอยู่กับ "ชมรมต้มยำกุ้ง" ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีบทบาทกับกลุ่มอำนาจเก่าเพื่อหาข้อมูลของการจ้างวาน แนวร่วม ในพื้นที่ 4 จังหวัดก่อเหตุ