9 นัด-ดับขาใหญ่ พัวพันฆ่าถึง 2 คดี

"9 นัดดับขาใหญ่"



เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 11 มิ.ย. ร.ต.ท.วรรณชัยคงศาลา ร้อยเวร สภ.อ.เมืองสุราษฎร์ธานี

รับแจ้งมีคนถูกยิงเสียชีวิตกลางถนนในซอยหมู่บ้านวาสนา

หมู่ 1 ต.มะขามเตี้ย จึงพร้อมด้วย

- พ.ต.อ.อรรถพล เปล่งวิทยา ผกก.
- พ.ต.ท.นพดล ถิระประวัติ รอง ผกก.สส.
- พ.ต.ท. สมนึก มากมี รอง ผกก.ป.
- พ.ต.ท.วรวิทย์ เจริญศุภผล สว.สส. เจ้าหน้าที่วิทยาการเขต 42 แพทย์เวร รพ. สุราษฎร์ธานี และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานีรุดไปตรวจสอบ

พบศพนายมานะ หรือปี๊ด สกุลพันธ์ อายุ 37 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ 5 ต.ทุ่งรัง อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี นอนหงายจมกองเลือดอยู่กลางถนน สภาพศพสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว นุ่งกางเกงยีนขายาวสีน้ำเงิน ใส่รองเท้าผ้าใบ มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืน 9 และ 11 มม. บริเวณลำตัวและแขนทั้ง 2 ข้างรวม 9 นัด พบปลอกกระสุนปืนทั้ง 2 ขนาดตกอยู่รวม 17 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ขณะเดียวกัน ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า

ยังมีผู้ รอดตายจากเหตุดังกล่าว ขับรถถอยหลังหนีเข้าไปในหมู่บ้านทวีสุข อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุเข้าไปประมาณ 30 เมตรจึงตามไปตรวจสอบ บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 136/55 พบรถกระบะโตโยต้า วีโก้ แบบ 4 ประตู ทะเบียน กง 3362 สุราษฎร์ธานี จอดอยู่ในสภาพกระจกบังลมหน้าและกระจก

ประตูหน้าด้านซ้ายคู่คนขับถูกยิงเป็นรูพรุน

ตรวจสอบภายในรถพบหยดเลือดบนเบาะนั่งคนขับและเบาะหน้าฝั่งซ้าย พบนางศาสนา แซ่ลิ้ม อายุ 35 ปี ภรรยาของนายมานะ หลบซ่อนตัวอยู่ตรงที่วางเท้าด้านหลังคนขับ จึงนำตัวออกมาสอบสวน ขณะเดียวกัน ยังพบกระเป๋าเสื้อผ้าสีดำวางอยู่ริมรั้วของบ้านหลังดังกล่าว



ภายในมีอาวุธปืนคาร์บินแบบพับฐาน 1 กระบอก

แมกกาซีนบรรจุกระสุน 3 อัน บรรจุกระสุนแมกกาซีนละ 30 นัด เสื้อยืดคอกลมสีเขียว 1 ตัว และแท่นชาร์จแบตเตอรี่มือถืออีก 1 เครื่องจึงยึดไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนนางศาสนาให้การว่า

นั่งรถออกมากับสามีและนายแนง ไม่ทราบชื่อจริง ทำหน้าที่เป็นคนขับรถเพื่อจะไปรับลูกที่โรงเรียน โดยสามีนำกระเป๋าเสื้อผ้าที่ซ่อนอาวุธปืนวางไว้บนเบาะหลังด้วย ระหว่างทางสามีได้สั่งให้นายแนงขับรถเข้าไปในหมู่บ้านที่เกิดเหตุ ขับวนเวียนอยู่พักใหญ่ก็สั่งให้ขับรถย้อนกลับออกมา

ถึงจุดเกิดเหตุมีรถกระบะสีเทา ไม่ทราบทะเบียน

วิ่งสวนทางเข้ามา คนร้ายมีประมาณ 3-4 คน ได้ชักปืนยิงเข้าใส่ทันที สามีเห็นท่าไม่ดีรีบเปิดประตูรถวิ่งหนีถูกคนร้ายตามไปยิงซ้ำจนเสียชีวิต ส่วนนายแนงเข้าเกียร์ขับถอยหลังเข้ามาหลบในหมู่บ้าน โดยโยนกระเป๋าทิ้งไว้ข้างรั้วก่อนจะหลบหนีไป สำหรับสาเหตุที่ถูกล่าสังหารครั้งนี้ นางศาสนาปฏิเสธว่าไม่ทราบมาจากเรื่องอะไรเพราะสามีไม่เคยเล่าเรื่องอะไรให้ฟัง

ด้าน พ.ต.อ.อรรถพล เปล่งวิทยา ผกก.สภ.อ.เมืองสุราษฎร์ธานี

กล่าวภายหลังตรวจสอบที่เกิดเหตุว่า นายมานะผู้ตายมีอาชีพเปิดเต็นท์ขายรถมือสอง ตกเป็นผู้ต้องหาคดีอุ้มฆ่าเผานั่งยางนางจิราภรณ์ แต่งวงศ์ เศรษฐินีเงินกู้และเป็นหุ้นส่วนเต็นท์รถด้วยกัน เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 49 ในพื้นที่หมู่ 2 บ้านกรูด ต.ทุ่งรัง อ.กาญจนดิษฐ์

เพราะมีเรื่องขัดแย้งผลประโยชน์บางอย่าง

ภายหลังผู้ต้องหาเข้ามอบตัวและยื่นประกันตัวในชั้นศาล ต่อมาเมื่อวันที่ 14 ก.พ. 50 ก่อคดีอุ้มฆ่านายธวัช เอกโชติ อายุ 32 ปี พนักงานขายบริษัทเม้งเฮดเดอร์ จำกัด เพราะหึงหวงที่ผู้ตายมาติดพันนักร้องสาวที่เป็นคู่ขา นำศพไปทิ้งบนสะพานข้ามคลองเขื่อนบางทรายทอง ถนนสายท่าสน-คลองกรูด หมู่ 2 ต.ทุ่งรัง อ.กาญจนดิษฐ์

หลังก่อเหตุหลบหนีไปซ่อนตัวในกรุงเทพฯถูกตามจับมาได้เมื่อ

วันที่ 31 มี.ค. 50 ได้ประกันตัวในชั้นศาลก่อนจะมาถูกยิงเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนปมสังหารจากการสอบสวนทราบว่านายมานะกับพวกเตรียมจะนำอาวุธปืนไปยิงถล่มฝ่ายตรงข้ามที่ขัดแย้งผลประโยชน์บางอย่าง แต่ยังไม่ทันลงมือกลับถูกฝ่ายตรงข้ามส่งคนมาเล่นงานจนเป็นฝ่ายเสียชีวิตเสียเอง อยู่ระหว่างติดตามตัวนายแนงมาสอบสวนไขปริศนาสาวถึงกลุ่มคนร้ายต่อไป



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์