ขนส่ง-การท่า เดินหน้าควานหาแท็กซี่ทิ้งผู้โดยสาร

           จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "สุรชัย หิรัญประดิษฐกุล" โพสต์ภาพนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ประกอบด้วยพ่อ แม่ และลูกเล็ก หอบสัมภาระข้าวของพะรุงพะรังบนทางด่วน โดยระบุอ้างด้วยว่า "...ไหมแท็กซี่ไทย เพื่อน ๆว่าไงไล่ฝรั่งลงบนทางด่วน เพื่อนๆ อย่าอ่านอย่างเดียว ด่าได้เต็มที่ เพื่อนผมเป็นตำรวจทางด่วนไปพบเจอเดินบนทางด่วนครับ สอบถามแล้วฝรั่งจำเลขรถไม่ได้ แต่ได้หารถส่งต่อให้แล้วครับ"

ทั้งยังอธิบายทิ้งท้ายด้วยว่า "ฝรั่งครอบครัวนี้มาจากสุวรรณภูมิ ไปลงพระราม9 แต่รถขับเลยทางลงแล้วโชเฟอร์ไม่ยอมรับผิดชอบ จึงไล่ฝรั่งลงทันที คาดว่าพรุ่งนี้คงเป็นข่าวครับ เพราะสนามบินมีกล้องอยู่แล้ว"

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์ออนไลน์” สอบถามไปยัง นายศิริวัฒน์ จันทร์เพ็ง หัวหน้างานระบบรถรับจ้างสาธารณะ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้รับการเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณชั้น 1 และชั้น 4 ของวันที่ 16 มี.ค. ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เรื่อยมาจนถึงวันที่ 20 มี.ค. ปรากฎว่า ยังไม่พบข้อมูลหรือภาพของผู้เสียหายชาวต่างชาติทั้ง 3 ราย เบื้องต้นคาดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะเกิดขึ้นก่อนวันที่ 16 มี.ค. ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจสอบหาข้อเท็จจริงเพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ

นอกจากนี้ ฝากไปถึงประชาชนที่จำเป็นต้องเดินทางเข้า-ออก และใช้บริการรถสาธารณะในพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิว่า ขอให้ปฏิบัติตามกฎ กติกา ที่วางไว้ โดยเฉพาะผู้โดยสารที่ต้องการรถแท็กซี่เพื่อเดินทางไปยังที่หมายอื่น ขอให้ลงมาใช้บริการที่ชั้น 1 เพื่อที่เมื่อเกิดเหตุการณ์ต่างๆจะได้มีข้อมูลประจำตัวของคนขับรถแท็กซี่ ทะเบียนรถ ช่วงเวลา และภาพจากล้องวงจรปิดไว้เป็นหลักฐาน ขอความกรุณาอย่าลักไก่เรียกรถแท็กซี่ที่ชั้น 4 เพราะรถแท็กซี่บางคันที่มีส่งผู้โดยสาร อาจไม่มีการขึ้นประวัติกับทางท่าอากาศยาน และเมื่อเกิดเหตุดังที่เป็นข่าว อาจไม่สามารถติดตามตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้

นายสุกรี จารุภูมิ ผอ.กองตรวจการ กรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรณีนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่มีข้อมูลของคนขับรถแท็กซี่ เนื่องจากยังไม่มีผู้ร้องเรียน และจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น ยังไม่มีทางหน่วยงานใดให้ข้อมูลเพิ่มเติมจากภาพที่แชร์ในโลกออนไลน์ได้ ทั้งนี้ หากสามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นรถแท็กซี่รายใด แล้วตรวจสอบประวัติย้อนหลังพบว่า เคยถูกร้องเรียนหรือมีการกระทำความผิดซ้ำ จะถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ทันที เนื่องจากการกระทำดังกล่าวกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศอย่างร้ายแรง หากประชาชนพบเห็นรถแท็กซี่กระทำความผิด สามารถแจ้งมาได้ทันทีที่ศูนย์ 1584 ศูนย์คุ้มครองรถสาธารณะ หรือร้องเรียนผ่านแอพพลิเคชั่น “ร้องเรียนรถสาธารณะ” ในระบบแอนดรอย

ด้านการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อใด จุดไหนของทางด่วน โดยจะทำการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดว่ารถคันดังกล่าวขึ้นมาจากหน้าด่านจุดไหน และเมื่อทราบรายละเอียดจะรีบประสานกลับมาทันที..