รง.มักง่ายแอบทิ้งสารเคมีเหม็นคลุ้ง

"รง.มักง่ายทิ้งถังสารพิษ ก๊าซไข่เน่า"



เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 7 มิ.ย. ร.ต.ท.สุภัทร เหมจินดา ร้อยเวรสน.ลาดพร้าว

รับแจ้งมีผู้นำสารเคมีมาทิ้งและเกิดรั่วไหล

ส่งกลิ่นเหม็นรุนแรง ในซอยลาดพร้าว 101 แยกซอยโพธิ์แก้ว 3 แยก 13 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและมูลนิธิร่วมกตัญญู

พบสารเคมีบรรจุในถังเหล็กหลายขนาดทั้ง 200 ลิตร

และถังพลาสติก 50 ลิตร จำนวน 10 ถัง ส่วนใหญ่มีสนิมเต็ม บางถังผุจนทะลุ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายใบที่จมอยู่ในคูน้ำข้างถนนมีกลิ่นคล้ายแก๊สไข่เน่า เมื่อสูดดมเข้าไปมากๆ ทำให้เกิดอาการคอแห้งและคลื่นไส้

จากการตรวจสอบข้างถังพบข้อความภาษาอังกฤษ

ระบุเป็นหัวเชื้อกลิ่นผลไม้ต่างๆ เช่น ส้ม สตรอว์เบอร์รี่ แตงโม ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีกล่องใส่ขวดหัวเชื้อกลิ่นผสมอาหาร ตราดาว ของบริษัท อาร์แอนด์บี ซัพพลาย จำกัด ซึ่งมีโรงงานอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ โดยสารดังกล่าวหมดอายุตั้งแต่ปี 2005 ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ข้างขวด ทางพนักงานบริษัทดังกล่าวแจ้งว่า ไม่เคยนำสารเคมีไปทิ้งแต่อย่างใด



จากการสอบสวนผู้ที่พักอยู่ในซอยดังกล่าวทราบว่า

ถังดังกล่าวมีคนแอบเอามาทิ้งไว้นานประมาณเดือนเศษแล้ว โดยในช่วงกลางคืนไม่มีใครเห็น แต่ตอนแรกไม่มีกลิ่นเหม็นจึงไม่มีใครสนใจ ต่อมาเมื่อ 2 วันก่อนได้มีชาวบ้านในซอยไปเก็บเอาถังมาตัดปากออกเพื่อจะเอาถังเหล็กไปขาย แต่พอตัดถังออก ก็พบว่าข้างในเป็นครีมมีกลิ่นเหม็นรุนแรงออกมา และมือที่เปื้อนสารก็มีอาการคันจนทนไม่ไหว บางคนต้องไปหาหมอ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว

ต่อมานายสุเมธา วิเชียรเพชร ผอ.ส่วนปฏิบัติการฉุกเฉินและฟื้นฟู

กองควบคุมมลพิษ พร้อมด้วยนางอินจิรา นิยมธูร ผอ.กองสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม สำนักอนามัย กทม. พร้อมคณะร่วมตรวจสอบโดยใช้เครื่องมือวัดไอระเหยของสารเคมี วัดบริเวณถังที่ถูกเปิดออก พร้อมเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าสารดังกล่าวน่าจะเป็นสารที่ใช้ผลิตกลิ่นสังเคราะห์

สำหรับผสมอาหารส่วนถัง 200 ลิตร

เป็นสารไวไฟประเภทแอลกอฮอล์โดยจากการวัดค่าที่ถังที่ถูกแกะออกพบปริมาณก๊าซ ไฮโดรเจนซัลไฟด์ หรือก๊าซไข่เน่าสูงถึง 300 พีพีเอ็ม ซึ่งเป็นอันตรายมาก หากสูดดมเข้าไปนาน 30 นาที จะทำให้เสียชีวิตได้ ซึ่งในชั้นนี้ตนได้ปิดกั้นบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่อันตราย โดยยังไม่สามารถเคลื่อนย้ายถังสารเคมีได้

เพราะอาจทำให้เกิดการแพร่กระจายไปไกลกว่าที่เป็นอยู่

จึงทำได้เพียงนำผ้าใบมาปิดคลุมเอาไว้ เพื่อไม่ให้กลิ่นฟุ้งกระจาย และจะประสานบริษัทที่รับจ้างกำจัดสารเคมี มาตรวจสอบและเก็บไปทำลายอีกครั้ง นอกจากนี้ก็จะได้ประสานสำนักงานเขตแจ้งความกับสน.ลาดพร้าวเพื่อดำเนินคดีกับเจ้าของสารเคมีต่อไป



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์