จับ´แก๊งต้ม´ กดเอทีเอ็ม

"แก๊งตุ๋น หลอกกดเอทีเอ็ม"



ตามที่มีแก๊งมิจฉาชีพใช้กลอุบายหลอกลวงเหยื่อด้วยการโทรศัพท์แจ้งว่าได้รับรางวัลใหญ่เป็นเงินสดเรือนแสน

แล้วหลอกล่อให้ไปตรวจสอบเงินจากบัตรเอทีเอ็ม

สุดท้ายต้องสูญเงินในบัญชีจนหมด ล่าสุด วันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา

- นายชัยยุทธ ศรีวิชัย อายุ 27 ปี

รปภ.อาคารมาลีนนท์ ถูกคนร้ายใช้วิธีดังกล่าวหลอกจนเสียเงินไปทั้งสิ้น 31,134 บาท ต้องไปแจ้งความไว้ที่ สน.ทองหล่อ

ความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีนี้ เมื่อเวลา 14.00 น.

- พ.ต.ท.เศกสิทธิ์ สุภาอ้วน สว.สส.สน.ทองหล่อ

สืบสวนจนทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหามี 5 คน คือ

- นายศักดิ์ชัย แจ้มกระจ่าง อายุ 34 ปี รปภ.ห้างเดอะมอลล์ บางแค
- นายอนิรุทต์ แจงเอี่ยมเอก อายุ 30 ปี ทำงานเป็น รปภ.อยู่ที่ห้างเดียวกัน
- นายอนุรักษ์ แจงเอี่ยมเอก อายุ 31 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่ พี่ชายนายอนิรุทต์
- นายนัทธี พิทักษ์ธรรม อายุ 44 ปี คนขับรถแท็กซี่
- นายพรรษา พัวพันธ์ อายุ 42 ปี

จึงเชิญตัวทั้งหมดมาสอบปากคำ และแจ้งข้อกล่าวหาที่ สน.ทองหล่อ ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ ทั้งหมดให้การปฏิเสธ

จากนั้นชุดสืบสวนได้นำหมายค้นศาลอาญากรุงเทพใต้

เข้าตรวจค้นบริษัทจัดหางานชื่อบริษัทโคราช เอสเอส เซอร์วิส จำกัด เลขที่ 100/40 ตลาดเสริมเพิ่มพูน ซอยเปรมประชา ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม.

จากการตรวจค้นโต๊ะทำงานของนายพรรษา

ซึ่งเป็นพนักงานในบริษัทดังกล่าว พบสมุดบัญชีธนาคารต่างๆของนายพรรษา 17 เล่ม สมุดบัญชีธนาคารของผู้อื่นอีก 18 เล่ม พร้อมบัตรเอทีเอ็มอีกจำนวนหนึ่ง ก่อนยึดมาตรวจสอบ รวมทั้งชิ้นส่วนหน่วยความจำคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงานของนายพรรษาด้วย

พ.ต.ท.เศกสิทธิ์เผยถึงเบื้องหลังการจับกุมครั้งนี้ว่า

ได้สืบสวนจนทราบว่า เงินของนายชัยยุทธ ผู้เสียหายถูกโอนไปที่บัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาย่อยเดอะมอลล์ บางแค เลขที่ 2384225153 เจ้าของบัญชีชื่อนายศักดิ์ชัย แจ้มกระจ่าง อายุ 34 ปี รปภ.ห้างเดอะมอลล์ บางแค



จึงเชิญตัวมาสอบปากคำให้การอ้างว่า

มีเพื่อน รปภ.ชื่อนาย อนิรุทต์ แจงเอี่ยมเอก อายุ 30 ปี มาจ้างให้เปิดบัญชี แต่นายอนิรุทต์จะเอาสมุดบัญชีและบัตรเอทีเอ็มกลับไปด้วย เมื่อขยายผลไปเรื่อยๆ จึงทราบว่ามีนายอนุรักษ์ และนายนัทธี 2 คนขับแท็กซี่หน้าโรงแรมโนโวเทล บางนา รวมถึงนายพรรษาน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง จึงเชิญตัวทั้งหมดมาสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหา

พ.ต.ท.เศกสิทธิ์กล่าวต่อว่า

วิธีการของคนร้ายจะสุ่มเบอร์ผู้เสียหาย ก่อนโทรศัพท์ผ่านอินเตอร์เน็ต เมื่อเหยื่อรับสายจะใช้โปรแกรมดัดแปลงเสียงให้เป็นเสียงผู้หญิง หรือเสียงคนแก่ ออกอุบายว่าเบอร์โทรศัพท์ของเหยื่อที่ใช้ถูกรางวัลเป็นเงินสดก้อนหนึ่ง

จากนั้นจะเกลี้ยกล่อมให้เหยื่อเอาบัตรเอทีเอ็มไปตรวจสอบ

ว่าได้รับเงินรางวัลหรือยัง โดยให้กดเมนูเลือกภาษาอังกฤษ พร้อมออกคำสั่งให้กดหมายเลขต่างๆอ้างว่าเป็นรหัสผ่าน เพื่อตรวจสอบว่าเงินเข้าไปในบัญชีหรือยัง โดยเลขต่างๆที่กดไปนั้น เหยื่อจะไม่ทันรู้ตัวว่าเป็นเลขบัญชี และเงินที่โอนให้คนร้าย สำหรับกลุ่มผู้ต้องหาเชื่อว่า มีนายพรรษาเป็นหัวหน้าแก๊ง ใช้วิธีว่าจ้างบุคคลอื่นเปิดบัญชีเป็นทอดๆ

ขณะที่นายพรรษาให้การปฏิเสธ

อ้างว่ามีนายเฉิน ไม่ทราบนามสกุล ชาวไต้หวัน เป็นผู้ว่าจ้าง แต่เจ้าหน้าที่เชื่อว่านายพรรษาอุปโลกน์ขึ้นมา เพราะเมื่อตรวจสอบเส้นทางของเงินผู้เสียหาย ส่วนใหญ่จะมาสุดอยู่ที่นายพรรษา

นอกจากนี้ ยังมีพยานระบุว่า

นายพรรษาเคยว่า จ้างให้ไปกดเงินตู้เอทีเอ็มแห่งหนึ่ง โดยจะแบ่งเงินให้ 7% ของจำนวนเงินทั้งหมดที่กดมา แต่ต้องสวมหมวกอำพรางใบหน้า ไม่ให้กล้องวงจรปิดจับภาพได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่ง พ.ต.ท. คงเดช สายยางหล่อ พงส. (สบ 3) สน.ทองหล่อ ดำเนินคดีต่อไป

ต่อมามีนางบังอร รีดเดอร์ อายุ 60 ปี

อาชีพแม่บ้าน 1 ในผู้เสียหาย เดินทางมาที่ สน.ทองหล่อ พร้อมแจ้งว่าถูกฉ้อโกงเงินด้วยวิธีดังกล่าว สูญเงินไปประมาณ 8 หมื่นบาท เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ของวันที่ 12 พ.ค. แจ้งความไว้ที่ สน.พระโขนง โดยคนร้ายหลอกให้กดรหัสในเอทีเอ็ม เพื่อตรวจสอบถึง 4 ครั้ง ขณะนั้นมีเงินอยู่ในบัญชี 2 แสนกว่าบาท โชคดีที่ธนาคารพบพิรุธและอายัดไว้ได้ทัน 1.2 แสนบาท



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์