เบิกตัว"พ่อ-แม่ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี"สอบคำให้การคดีหมิ่นเบื้องสูง
วันที่ 11 มี.ค. เวลาประมาณ 09.00น. เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ควบคุมตัวนางวันทนีย์ สุวะดี และนายอภิรุจ สุวะดี มารดา และบิดา ของท่านผู้หญิง ศรีรัศมิ์ สุวะดี มายังศาลอาญา เพื่อสอบคำให้การ ทั้งนี้ สำหรับคดีดังกล่าวนั้น พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางวันทนีย์ สุวะดี อายุ 66 ปี และนายอภิรุจ สุวะดี อายุ 72 ปี เป็นจำเลยที่ 1 - 2 ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
โดยคำฟ้องบรรยายพฤติการณ์ สรุปว่า ก่อนเกิดเหตุคดีนี้ น.ส.ระวี (ขอสงวนนาม) ได้แอบอ้างว่ารู้จักกับจำเลยที่ 2
ซึ่งต่อมามีเหตุชาวบ้าน ในเขตตำบลและอำเภอวัดเพลง จ.ราชบุรี โจษขานกันว่า น.ส.ระวี มีความสัมพันธ์ชู้สาวกับจำเลยที่ 2 ที่ให้การอุปการะเลี้ยงดูกัน และเมื่อจำเลยที่ 1 ทราบข่าว จึงเกิดความไม่พอใจ น.ส.ระวี กระทั่งเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 46 จำเลยทั้งสองได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปนำตัว น.ส.ระวี รวมทั้งบิดา มารดา และญาติ มาพบกับจำเลยทั้งสองที่บ้านพักใน จ.ราชบุรี แล้วจำเลยทั้งสอง ก็ร่วมกัน หมิ่นประมาท และดูหมิ่นเบื้องสูง โดยพูดสื่อความหมายให้เข้าใจว่า เรื่องดังกล่าวได้มีการกราบทูลเบื้องสูง ทรงทราบแล้วเรื่องจะรุนแรงมากขึ้น และ น.ส.ระวี จะต้องรับโทษอย่างหนัก ซึ่งทำให้ น.ส.ระวี และครอบครัว เกิดความเกรงกลัว
ซึ่งต่อมามีเหตุชาวบ้าน ในเขตตำบลและอำเภอวัดเพลง จ.ราชบุรี โจษขานกันว่า น.ส.ระวี มีความสัมพันธ์ชู้สาวกับจำเลยที่ 2 ที่ให้การอุปการะเลี้ยงดูกัน และเมื่อจำเลยที่ 1 ทราบข่าว จึงเกิดความไม่พอใจ น.ส.ระวี กระทั่งเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 46 จำเลยทั้งสองได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปนำตัว น.ส.ระวี รวมทั้งบิดา มารดา และญาติ มาพบกับจำเลยทั้งสองที่บ้านพักใน จ.ราชบุรี แล้วจำเลยทั้งสอง ก็ร่วมกัน หมิ่นประมาท และดูหมิ่นเบื้องสูง โดยพูดสื่อความหมายให้เข้าใจว่า เรื่องดังกล่าวได้มีการกราบทูลเบื้องสูง ทรงทราบแล้วเรื่องจะรุนแรงมากขึ้น และ น.ส.ระวี จะต้องรับโทษอย่างหนัก ซึ่งทำให้ น.ส.ระวี และครอบครัว เกิดความเกรงกลัว
จากนั้นจำเลยทั้งสอง ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำตัว น.ส.ระวี ไปดำเนินคดีฐานฉ้อโกง และด้วยความเกรงกลัว น.ส.ระวี
จึงได้จำยอมให้การรับสารภาพตามข้อกล่าวหา แล้วถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 24 เดือน ซึ่งการกระทำของจำเลยทั้งสอง เป็นการแสวงหาประโยชน์เพื่อข่มขู่ และกลั่นแกล้งผู้อื่น ทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศ ต่อมาวันที่ 9 ก.พ. 48 เจ้าพนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ภายหลังจำเลยทั้งสองเข้ามอบตัวในชั้นสอบสวน และต่อมาได้ให้การรับสารภาพ
ทั้งนี้ หากจำเลยทั้ง 2 ให้การรับสารภาพต่อศาล ศาลอาจใช้ดุลยพินิจนัดฟังคำพิพากษาได้
ความคืบหน้าล่าสุด ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยทั้งสองกระทำผิดฐานหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ลงโทษจำคุก 5 ปี แต่จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือจำคุกคนละ 2 ปี 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
