"ฉาย บุนนาค" ส่งทนายความเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.บึงกุ่ม ให้ดำเนินคดีกับผู้บริหารกลุ่มเนชั่นและกรุงเทพฐานธุรกิจข้อหาหมิ่นประมาท
วันนี้ (10 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุธี ผ่องไพบูลย์ ในฐานะทนายความของ นายฉาย บุนนาค นักธุรกิจ ได้เป็นตัวแทนเดินทางเข้าแจ้งความ กับ พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผกก.สน.บึงกุ่ม เมื่อวาน ( 9 มี.ค.) ที่ผ่านมา เพื่อให้ดำเนินคดีกับ
1. นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ คอลัมภ์นิสต์ หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ, บริษัท กรุงเทพธุรกิจ จำกัด
2. นายสุทธิชัย หยุ่น , น.ส.ดวงกมล โชตะนา กรรมการผู้อำนวยการหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
3. นายจักร์กฤษ เพิ่มพูล บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา, นางเบญจวรรณ เผ่าจินดามุข
4 นายสมสกุล เผ่าจินดามุข ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
5. นางเฉลา กาญจนา บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
6. นายนิติราษฎร์ บุญโย ผู้ดูแลเว็บไซด์และบรรณาธิการข่าวออนไลน์เว็ปไซต์ www.bangkokbiznews.com
ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และกระทำความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 โดยมีการตีพิมพ์บทความลงในหนังสือพิมพ์และเฟสบุ๊กส่วนตัวชื่อ Adisak Limparungpatanakij กล่าวหา นายฉาย บุนนาค ว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการเทคโอเวอร์ บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
นายสุธี ทนายความ เปิดเผยว่า สือบเนื่องจาก นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ ได้เขียนบทความเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2558 และวันที่ 11 มกราคม 2558 ทำให้ผู้อ่านเข้าใจได้ว่า นายฉาย บุนนาค เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง กรณี บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) เข้าซื้อหุ้นของบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โดยเป็นผู้วางแผนและมีจุดประสงค์เข้าควบคุมกิจการ หรือ ครอบงำกิจการ (เทคโอเวอร์) NMG กับทั้งข้อเขียน ยังเข้าใจได้อีกว่า นายฉาย ได้ให้ตัวแทน (นอมินี) เข้าซื้อหุ้นของ NMG ซึ่งอาจเป็นความผิดตาม ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ.12/2554 เรื่องหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการเข้าถือหลักทรัพย์ เพื่อครอบงำกิจการ Acting in Concert และมีการหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ พุทธศักราช 2535 มาตรา 247 (เทนเดอร์ออฟเฟอร์) อีกด้วย
ทั้งที่ความจริงแล้ว นายฉาย ไม่มีส่วนเกี่ยวกับข้องบริษัท SLC ตลอดจนไม่เคยเข้าซื้อหุ้นของ NMG หรือ มอบหมายให้ตัวแทนเข้าซื้อหุ้น NMG ข้อเขียนของนายอดิศักดิ์ จึงล้วนเป็นความเท็จทั้งสิ้น ทำให้นายฉาย เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง และถูกมองว่าเป็นผู้กระทำผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตลาดหลักทรัพย์
ขณะที่ พ.ต.อ.สุพล เปิดเผยว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย พร้อมทั้งขอไปตรวจสอบรายละเอียดในเรื่องดังกล่าว ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร นอกเหนือจากนั้นอาจจะมีการเชิญผู้เกี่ยวข้อง มาสอบปากคำเพิ่มเติม
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
