ยึดปอร์เช่3คัน พตอ.เอี่ยวด้วย

กรณีชุดเฉพาะกิจ บก.ปศท.ตรวจยึดรถปอร์เช่ สีดำ รุ่น 911 ทะเบียน กข 6204 สมุทรสาคร รถปอร์เช่ สีแดง รุ่น 911 ทะเบียน ศท 7446 กรุงเทพมหานคร และ รถปอร์เช่ สีฟ้า รุ่น 912 ทะเบียน ฉน 3773 กรุงเทพมหานคร มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท

โดยยึดมาจากอู่ไมเคิลคาร์ เค

ถนนรามอินทรา 21 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา เบื้องต้นทราบว่าเป็นของนายตำรวจใหญ่และลูกชายนักการเมืองชื่อดัง

ความคืบหน้าในคดีนี้ เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.

- พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผบก.ปศท. เปิดเผยว่า

ขณะนี้ยังไม่มีใครมาแสดงตัวเป็นเจ้าของรถทั้ง 3 คัน และยังไม่ทราบว่ารถทั้ง 3 คัน เป็นรถที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ต้องนำส่งกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ

อย่างไรก็ตาม จากการสืบสวนเชื่อว่าประมาณ 90%

ทั้ง 3 คันเป็นรถที่ผิดกฎหมายเบื้องต้นทราบว่า รถปอร์เช่คันสีแดง มีนายตำรวจยศระดับ พ.ต.อ.คนหนึ่ง ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติเกี่ยวข้อง ส่วนคันสีฟ้าเป็นของลูกชายอดีต รมช.ผู้หนึ่ง และคันสีดำเป็นของลูกชายอดีตผู้บัญชาการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติเช่นกัน

ผบก.ปศท.กล่าวต่อว่า

ถึงแม้หลักฐานที่ปรากฏจะยืนยันว่าเป็นรถของใคร แต่ในชั้นนี้จะยังไม่แจ้งข้อหากับใคร ต้องรอผลตรวจสอบจากกองพิสูจน์หลักฐานก่อนว่าใครเป็นเจ้าของที่ถูกต้อง ทั้งนี้ ฝ่ายสืบสวนมีข้อมูลยืนยันว่ารถปอร์เช่คันสีดำ ทะเบียน กข 6204 สมุทรสาคร มีอยู่ 2 คัน ยึดได้แล้ว 1 คัน อีกคันหนึ่งได้สั่งการให้ติดตามตรวจยึด หากพบจะต้องนำมาตรวจพิสูจน์ให้ชัดเจนว่าคันไหนผิด คันไหนถูก หรืออาจจะผิดทั้ง 2 คันก็ได้

พล.ต.ต.วิสุทธิ์กล่าวต่อว่า ขั้นตอนต่อไป ภายใน 2 สัปดาห์นี้

จะส่งรถให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบให้ครบ หลังจากนั้นจะได้ออกหมายเรียกผู้ครอบครองมาแจ้งข้อหา นำเข้าหรือรับไว้ด้วยประการใดๆ อันเป็นการหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร และเรื่องนี้เท่าที่ทราบจากฝ่ายสืบสวน พบว่ารถทั้ง 3 คัน น่าจะมีการดัดแปลงสภาพด้วย แต่ต้องรอผลจากกองพิสูจน์หลักฐานก่อน

ขอยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน

หากมีหลักฐานชี้ชัดได้ว่ามีการดัดแปลง และไปวิ่งเต้นกับเจ้าหน้าที่เพื่อให้ออกเอกสารคู่มือการใช้รถที่ไม่ได้เป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้อง และกระทำโดยผิดกฎหมาย พนักงานสอบสวนต้องแจ้งข้อกล่าวหาในเรื่องการปลอมแปลงเอกสารกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร.

กล่าวถึงกรณีเดียวกันนี้ว่า ยังไม่ได้รับรายงาน แต่จะต้องสอบถามเพื่อดำเนินการไปตามกฎหมายโดยเร็ว เพราะที่ผ่านมามีตำรวจกลุ่มหนึ่งไปร่วมกับแก๊งโจรกรรมรถยนต์ลักลอบนำเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย ขณะนี้ได้สั่งการให้ผู้จับกุมรายงานให้ทราบว่ามีหลักฐานพอที่จะตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินคดีทาง อาญาและวินัยหรือไม่

มีรายงานว่า รถปอร์เช่คันสีแดงมีหลักฐานแน่ชัด

ว่าเป็นของ พ.ต.อ.ที่เพิ่งเลื่อนขึ้นเป็นรอง ผบก.ประจำอยู่หน้าห้องผู้ช่วย ผบ.ตร.ผู้หนึ่ง เมื่อคำสั่งวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา

ค่ำวันเดียวกัน พ.ต.อ.เอก เอกศาสตร์ รอง ผบก. ประจำ สง.ผบ.ตร. (ทนท.รอง หน.ฝอ.ประจำผู้ช่วย ผบ.ตร.)

ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ตามที่มีข่าวว่ารถปอร์เช่สีแดง รุ่น 911 ทะเบียน ศท 7446 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็น 1 ใน 3 คัน ที่ชุดเฉพาะกิจของ บก.ปศท.ตรวจยึดจากอู่รถย่านรามอินทรา เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ตนยอมรับว่ารถคันดังกล่าวเป็นของตนจริง

เป็นรถที่ซื้อมาจากเต็นท์รถแห่งหนึ่งเมื่อปลายเดือน ธ.ค.49 ในราคา 9 แสนบาทแต่เพิ่งจ่ายไปแค่ 4 แสนบาท และยังไม่ได้โอนมาเป็นชื่อตน แต่พอหลังซื้อไปแล้วได้นำรถคันนี้มาแต่งใหม่ ทำสี ทำเบรก ทำช่วงล่าง และเปลี่ยนเครื่องใหม่ เป็นความชอบส่วนตัว โดยเฉพาะรถปอร์เช่รุ่นนี้ เป็นรถที่มีอายุ 30 ปีแล้ว ผลิตเมื่อปี 1967 เลิกผลิตปี 1985

ส่วนสาเหตุที่ซื้อมาเพราะความชอบส่วนตัว

ทั้งตนและ ภรรยาซึ่งเป็นชาวอังกฤษ ซื้อมาขับเอง ไม่ได้เอาไปขายต่อ ทั้งนี้ พร้อมจะนำหลักฐานไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจยึด ไม่ได้มีความหนักใจอะไร อีกทั้งไม่ได้เกี่ยวพันกับรถอีก 2 คันที่ถูกยึดมาด้วย

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ