เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีพระอาจารย์บัณฑิต สุปันฑิโต หรือนายแพทย์บัณฑิต สงวนแก้ว อายุ 48 ปี เจ้าอาวาสวัดป่าตอสีเสียด หมู่ 15 พระเลขาพระผู้ใหญ่สายธรรมยุติ ในอุดรธานี ถูกมือปืนดักยิงอุกอาจและโหดเหี้ยม ขณะที่พระอาจารย์บัณฑิต กำลังเดินจงกรมกลับวัด หลังจากเสร็จจากการรับบาตรจากญาติโยม เดินช้าๆ ตามหลังศิษย์ทั้ง 2 จนทำให้มรณภาพคาผ้าเหลือง เมื่อเช้าวันที่ 1 มีนาคม ญาติได้นำศพไปตั้งภายในวัดท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติโยมที่ทราบข่าว ญาติและคณะสงฆ์ได้อโหสิกรรม ไม่ขอจองเวร แพทย์ได้เอ็กซเรย์พบกระสุนถูกหัวใจ เศษหัวกระสุนฝังอยู่ที่ต้นแขนซ้าย ส่วนตำรวจยังหาสาเหตุของการสังหารครั้งนี้ไม่ได้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 2 มี.ค. ที่วัดป่าตอสีเสียด หมู่ 15 ต.บ้านตาด อ.เมือง อุดรธานี คณะสงฆ์สายวัดป่า ญาติ ประชาชน ชาวบ้านที่ให้ความเคารพศรัทธา ได้เดินทางมากราบไหว้ศพพระอาจารย์บัณฑิต สุปันฑิโต “พระหมอ” ตั้งอยู่ภายในศาลาการเปรียญอย่างไม่ขาดสาย มีโรงทานอาหารและน้ำจำนวนมาก ส่วนบริเวณลานจอดรถข้างวัด กว้างประมาณ 10 ไร่ มีการนำรถไถมาปรับพื้น ศิษยานุศิษย์ พระภิกษุ ช่วยกันก่อสร้างจิตราการ หรือ เมรุกลางแจ้ง สำหรับฌาปนกิจในวันที่ 3 มีนาคม นี้
ต่อมาในเวลา 09.00 น. วันเดียวกันที่บริเวณสถานที่เกิดเหตุที่คนร้ายดักยิงพระอาจารย์บัณฑิต ได้มีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบวัตถุระเบิด หรือ EOD ภ.จ.อุดรธานี ตชด.24 ตำรวจสืบสวน ได้นำเครื่องมือมาตรวจหาหัวกระสุนปืน เพื่อเป็นหลักฐาน ซึ่งเจ้าหน้าที่มั่นใจว่า กระสุนปืนที่ทะลุออมา และตกอยู่ในสวนยางพารา ด้วยการตีวงค้นหาวิถีกระสุนที่คนร้ายยิง โดยใช้เวลาหาประมาณ 3 ชั่วโมง แต่ไม่พบ จึงได้ถอนกำลังออกไป
ต่อมาในเวลา 11.30 น. วันเดียวกัน พล.ต.ต.ชัยญัติ สายถิ่น ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.จักฎ์กฤษณ์ จันทรรัตน์ พ.ต.อ.ธวัชชัย ถุงเป้า รอง ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.สรรธาน อินทร์จักร รักษาการ ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เข้าร่วมประชุมทางไกลกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.ท.วัฒนา สักกวิตร ผช.ผบ.ตร.เป็นประธาน เพื่อรายงานข้อเท็จจริงคดี คนร้าย ใช้อาวุธปืนยิงพระบัณฑิต สุปันฑิโต หรือ "พระหมอ" หรือนายแพทย์บัณฑิต สงวนแก้ว อายุ 48 ปี เจ้าอาวาสวัดป่าตอสีเสียด ม.15 ต.บ้านตาด อ.เมืองอุดรธานี เสียชีวิตอย่างอุกอาจ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
พล.ต.ต.ชัยญัติ ให้สัมภาษณ์ว่า คดีนี้เราให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ประชาชนให้ความสนใจมาก วันนี้ในการประชุมทางไกลกับ สนง.ตำรวจแห่งชาติ ก็ต้องรายงานเรื่องนี้อย่างและเอียด พร้อมตอบข้อซักถาม โดยได้จัดทีมทั้งฝ่ายสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเอาคนผิดมาลงโทษ และฝ่ายสืบสวนเพื่อเสาะแสวงหาพยานหลักฐาน เพื่อหาสาเหตุและกลุ่มผู้กระทำผิด ตอนนี้เราคงจะวิเคราะห์กว้างๆ น่าจะเกิดจากสาเหตุโกรธแค้นส่วนตัว หรือการเข้าใจผิด ซึ่งอะไรบ้างที่ทำให้เป็นสาเหตุ ตำรวจขอสงวนเรื่องนี้ไว้ก่อน เนื่องจากที่เรารวบรวมข้อมูลมายังไม่ชัดเจน เรื่องเกี่ยวกับศาสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จะกระทบกับความเชื่อมั่นศรัทธา กระทบบุคคลอื่น และผู้เสียหายด้วย
พล.ต.ต.ชัยญัติ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้สอบปากคำพยานไปแล้ว 4-5 ปาก ยืนยันคนร้ายน่าจะมากัน 2 คน คนหนึ่งเป็นคนขับ อีกคนนั่งอยู่กระบะท้ายเป็นคนยิง ซึ่งมีรถกระบะสีขาว ไม่ทราบยี่ห้อไม่ติดแผ่นป้าย เหมือนของคนร้าย เข้ามาในพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 24-25 กุมภาพันธ์ โดยการลงมือของคนร้ายเชื่อว่าจะเป็นมืออาชีพ โดยได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เส้นทางเข้าออก 3 ทิศทาง คือ ออกมาด้านถนนมิตรภาพ ออกมาด้าน อ.หนองแสง และออกมาด้านถนนอุดรฯหนองบัวลำภู โดยจะตรวจสอบย้อนหลังไปถึงวันที่ 24 กุมภาพันธ์
พล.ต.ต.ชัยญัติ กล่าวต่อว่า ในส่วนเรื่องที่ดินของวัดจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีการสังหารกันหรือไม่นั้น ขณะนี้เราก็กำลังดูว่าพระบัณฑิต มีกิจกรรมอะไรบ้าง สิ่งนั้นได้ไปขัดแย้งกับใครหรือไม่ เราต้องเจาะลึกลงไปในรายละเอียด เรื่องที่ดินวัดก็เป็นกิจกรรมหนึ่ง โดยที่ดินส่วนใหญ่พ่อแม่ญาติพี่น้องยกให้รวม 30 ไร่ อีกส่วนชาวบ้านศรัทธาจัดหาเพิ่มให้ ส่วนเรื่องที่ญาติพระบัณฑิตไม่ต้องการให้ ตำรวจผ่าเอาหัวกระสุนที่เป็นหลักฐานสำคัญ จะเป็นปัญหากับคดีหรือไม่นั้น ในขณะนี้ก็กำลังเร่งหาหัวกระสุน โดยส่งเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD ภ.จว.อุดรธานี และขอความร่วมมือ ตชด.นำเครื่องตรวจหาโลหะ หาหัวกระสุนทะลุ ส่วนอีกหัวให้เครื่องเอ็กซเรย์ตรวจ พบว่ายังฝังอยู่ภายใน จะต้องคุยกับญาติขอนำมาเป็นหลักฐาน ซึ่งก็ยังไม่มีความชัดเจน
แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ เปิดเผยว่า ประเด็นที่มีน้ำหนักมากที่สุดที่อาจเป็นชนวนการสังหาร ให้น้ำหนักที่ขัดแย้งเรื่องที่ดิน ที่ดินวัดมีทั้งหมด 50 ไร่ โยมแม่พระบัณฑิตได้ยกที่ดินซึ่งเป็นโฉนดให้สร้างวัด 10 ไร่ และชาวบ้านที่มีที่ดินรอบๆ วัด ถวายที่ให้อีก 20 ไร่ และซื้อเพิ่มจนครบ 50 ไร่ ไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งเรื่องที่ดินวัด ส่วนหลวงปู่สุข ซึ่งเป็นโยมพ่อ ซึ่งเป็นอดีตจ่าศาลจังหวัดหนองคาย ได้มาบวชและดูแลวัดช่วย ภายหลังมีคนนำที่ดิน ภบท.5 ที่ติดกับวัด มาเสนอขายจำนวน 10 ไร่ ราคา 1 ล้านบาท พระอาจารย์บัณฑิต ได้ตกลงซื้อและจ่ายเงินมัดจำไป 5 แสนบาท
พล.ต.ต.ชัยญัติ ต่อมาพระบัณฑิตฯ ทราบภายหลังว่าเป็น ภบท.5 ปลอม และไม่มีการจ่ายเงินที่เหลือ ทำให้มีการตามมาทวงเงินที่เหลือและข่มขู่ มีชายฉกรรจ์เข้ามาข่มขู่ จนต้องร้องขอกำลัง อป.พร.เทศบาลตำบลบ้านตาด มาดูแลรักษาความปลอดภัย 1 เดือน แต่หลังจากถอนกำลังออกไป จึงมีมือปืนมาดักยิงพระ ผู้ที่น่าจะรู้เรื่องสาเหตุการตายคือหลวงปู่ทองสุข ซึ่งพระอาจารย์บันฑิตอาจจะเล่าปัญหาให้ฟัง นอกจากนี้ตำรวจได้ขออนุมัติศาลออกหมายค้นกุฎิ “พระหมอ” เพื่อตรวจหาหลักฐาน เชื่อมโยงในการสังหารครั้งนี้ เพื่อคลี่คลายคดีต่อไป
ต่อมาได้มีนายนวย สาครเจริญ อายุ 67 ปี ราษฎร ต.บ้านตาด อ.เมืองอุดรธานี พยานที่เห็นเหตุการณ์คนร้ายยิงพระอาจารย์บัณฑิต เล่าว่า คนร้ายได้ขับรถกระบะขับผ่านพระอาจารย์บัณฑิต ไปก่อน แล้วกลับรถมารับมือปืนที่ดักซุ่มรออยู่ข้างทาง แต่ยังไม่มีจังหวะสบโอกาสที่จะยิง จากนั้นจึงให้มือปืนขึ้นท้ายกระบะ แล้วขับตามหลังพระอาจารย์บัณฑิต ก่อนที่จะลงมือยิงพระอาจารย์บัณฑิต เสียชีวิตดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวได้รับทราบจากบุคคลที่ใกล้ชิดพระอาจารย์บัณฑิตคนหนึ่ง ได้ตั้งข้อสังเกตไว้เป็นข้อๆ ว่า ข้อ 1.พื้นที่สร้างวัดเป็นของพระอาจารย์ ที่ได้รับมรดกมาจากพ่อซึ่งพ่อของพระอาจารย์ก็เป็นพระภิกษุ อยู่ในวัดเดียวกัน ข้อ 2. ท่านอาจารย์ได้รับมอบหมาย จากหลวงตาอินทร์ถวาย ให้ดูแลงานหลายๆ อย่างในวัดโพธิสมภรณ์ ซึ่งเป็นวัดหลวงในเมือง จังหวัดอุดรธานี แม้แต่เรื่องของหลวงปู่จันทร์ศรี ข้อ3.ท่านพระอาจารย์ ได้ปรับปรุง สร้างตึก ของโรงพยาบาลอุดรธานี แล้วลาออกมาบวช เมื่อปี 2540 ข้อ 4. ก่อนหน้านี้ท่านพระอาจารย์ เคยมีปากเสียงกับมรรคนายกของวัดโพธิสมภรณ์ อย่างรุนแรงมาก่อน ข้อ 5.ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมามีนายทุนที่พยายามมากว้านซื้อรอบบริเวณวัดเพื่อไปทำประโยชน์ แต่ชาวบ้านไม่ขายและขอให้พระอาจารย์ท่านเป็นเสาหลักที่ไม่ให้นายทุนมารุกรานพื้นที่ทำมาหากิน จนนายทุนถึงกับพยายามไม่ให้คนเข้าวัดเริ่มด้วยการโรยตะปูเรือใบทำให้รถที่จะเข้าวัดยางแตกมาแล้ว
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
