หมอจริง รพ.สงขลา เผยตัวยันหมอเก๊ แอบอ้างอยู่ที่อุดรฯ

คดีนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานีและเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.อุดรธานี จับกุมนาย สมิทธิ์ หรือสมศักดิ์ โนนเสนา อายุ 24 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 55 หมู่ 12 ต.หัวนาคำ อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 28 พ.ค.

เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากพระรูปหนึ่งว่า

กินยาที่แพทย์จ่ายให้แล้วเกิดอาการแพ้ จากการตรวจสอบทราบว่าชายดังกล่าวอ้างตัวเป็นแพทย์ ชื่อนายแพทย์สมิทธิ์ โรซาร์พิทักษ์ ไปสมัครงานโรงพยาบาลเอกชน โดยปลอมใบประกาศนียบัตรแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และตั้งคลินิกสมิทธิ์การแพทย์ และสุขภาพ อยู่เลขที่ 150 หมู่ 5 ต.บ้านจิต กิ่ง อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี

จากการสอบสวนสารภาพว่า จบเพียงแค่ ม.6

และเอ็นทรานซ์ไม่ติด ด้วยความที่อยากเป็นหมอ จึงไปซื้อตำราแพทย์มาอ่านและปลอมใบประกาศนียบัตรแพทยศาสตร์ ไปสมัครงานตามโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งที่กรุงเทพมหานครและสมุทรปราการ และหลอกว่าได้เกียรตินิยมอันดับ 2 แต่ทำได้ไม่นานถูกจับได้เลยหนีออกต่างจังหวัด สมัครงานที่โรงพยาบาลเอกชนเหมือนเคย ล่าสุดได้ที่โรงพยาบาลใน จ.อุดรธานี พร้อมกันนั้นได้เปิดคลินิกส่วนตัว แค่ 5 เดือน มีคนไข้มารับการรักษาเกือบ 600 คน

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า

นายแพทย์สมิทธิ์ โรซาร์พิทักษ์ นั้นมีตัวตนจริงอายุ 23 ปี ประจำอยู่ภาควิชาศัลยศาสตร์ ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ หรือ ม.อ.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จึงได้ไปพบที่โรงพยาบาล นายแพทย์สมิทธิ์เปิดเผยว่า กรณีมีข่าวการจับกุมแพทย์ปลอมที่ จ.อุดรธานี โดยอ้างว่าชื่อนายแพทย์สมิทธิ์ โรซาร์พิทักษ์ ตรงกับชื่อและสกุลของตนนั้น ขอยืนยันว่าไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้อง หรือรู้เห็นกับการกระทำของบุคคลดังกล่าว

นายแพทย์สมิทธิ์กล่าวต่อไปว่า

หลังจากเรียนจบแพทย์ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2550 ก็เดินทางมาทำงานที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ได้ประมาณ 2 เดือน ไม่เคยเดินทางไปจังหวัดอื่น สำหรับใบประกาศนียบัตรแพทยศาสตร์ ก็ยังไม่ได้รับ ไม่เคยรู้จักกับผู้ถูกกล่าวหา

ขณะเดียวกันอยากให้สังคมรับรู้ว่า

นายแพทย์สมิทธิ์ โรซาร์พิทักษ์ มีตัวตนจริง ไม่เคยหลอกลวงใคร ส่วนจะแจ้งความดำเนินคดีเรื่องที่ถูกแอบอ้างทำให้เสียชื่อเสียงหรือไม่นั้น ต้องขอทราบรายละเอียดของคดีและพบกับชายที่แอบอ้างก่อน

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายให้แก่ผมและครอบครัวมาก เสื่อมเสียชื่อเสียง ญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงสอบถามกันมาก สัปดาห์หน้าจะเดินทางไปชี้แจงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

เช่น แพทยสภา จากนั้นจะไปที่ จ.อุดรธานี พบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี เพื่อขอรับทราบข้อเท็จจริง พร้อมทั้งเป็นการแสดงตัวว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ถูกแอบอ้างให้เสียหาย ขอให้สื่อมวลชนช่วยเผยแพร่ข้อเท็จจริงด้วย

นายแพทย์ สมิทธิ์กล่าว

ด้านนายแพทย์สัญชัย ปิยะพงษ์กุล นายแพทย์ สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า

ที่ จ.อุดรธานีไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน นับเป็นครั้งแรก จึงได้ประชุมผู้บริหารโรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดให้เพิ่มความระมัด ระวัง โดยตรวจเอกสารที่แพทย์นำมาสมัครอย่างละเอียด

พร้อมกันนั้นสั่งให้ตรวจสอบชื่อแพทย์ พยาบาล ทันตแพทย์

ทุกคนที่ทำงานในโรงพยาบาลทุกแห่งส่งมายังสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี เพื่อตรวจสอบประวัติเป็นการป้องกันไม่ให้ เกิดเรื่องขึ้นอีก ขณะเดียวกัน ยังไม่มีคนไข้มาแจ้งความว่าได้รับความเสียหายจากการรักษา อย่างไรก็ตาม สั่งให้สาธารณสุขอำเภอกู่แก้วไปดูแลชาวบ้านและรับเรื่องร้องเรียน

ขณะที่ พ.ต.ท.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.อุดรธานี

เปิดเผยเรื่องคดีว่า มีเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใน อ.เมืองอุดรธานี ที่นายสมิทธิ์ หรือสมศักดิ์ โนนเสนา เข้าไปทดลองงาน เข้าแจ้งความดำเนินคดีข้อหาหลอกลวง และทำให้เสียชื่อเสียง ส่วนชาวบ้านในกิ่ง อ.กู่แก้ว ที่เป็นคนไข้ไปรับรักษากับคลินิกเถื่อนนั้น ยังไม่มีผู้ใดเข้าแจ้งความ สำหรับผู้ถูกกล่าวหา เดิมชื่อนายสมศักดิ์ โนนเสนา ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นนายสมิทธิ์ แต่ยังใช้นามสกุลเดิม

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ