โมโหเพื่อนร่วมวิน! แกล้งตลอด ชอบดูถูกแดกดัน นาน7-8ปี คว้าลูกซอง ยิงดับคาที่2ราย
เมื่อเวลา 16.30 น. ของวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2558 ร.ต.ท.สามารถ แท่นอินทร์ ร้อยเวร สภ.ย่อยท่าฉลอม ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตในซอยเทศบาลตำบลบางหญ้าแพรก 7 (ซอยนักบุญอันนา4) หมู่ที่ 4 ต.บางหญ้าแพร อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ชัยยุทธ ถมยา ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาครรับทราบ และไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร พบศพในที่เกิดเหตุเป็นชาย 2 คนโดยศพแรกอยู่ตรงปากทางเข้าซอย ทราบชื่อคือ นายกำพล ปราสาททอง อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31/3 หมู่ที่ 5
ตำบลบางหญ้าแพรก สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว นุ่งกางเกงยีนส์ มีบาดแผลถูกอาวุธปืนลูกซองยิงเข้าที่ขมับด้านขวา 2 นัด ใบหน้ายุบเข้าไปและข้างศพผู้ตายยังมีรถมอเตอร์ไซด์ฮอนด้าเวฟ 110 สีม่วงดำ ทะเบียนป้ายเหลือง กกธ 156 สมุทรสาครจอดอยู่ 1 คัน ลึกเข้าไปในซอยห่างจากจุดที่พบศพแรกประมาณ 2 เมตร พบอีกหนึ่งศพทราบชื่อ นายณรงค์ จิตรเจริญ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91/25 หมู่ที่ 7 ตำบลท่าจีน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร สวมเสื้อยืดสีแดง นุ่งกางเกงยีนส์ มีบาดแผลถูกอาวุธปืนลูกซองยิงเข้าที่ขมับซ้ายเสียชีวิตอยู่ในท่านอนหงายจมกองเลือด ซึ่งทั้ง 2 คนนั้นเป็นคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างคิวปากซอยที่เกิดเหตุ
นอกจากนี้ยังพบปืนลูกซองยาวของคนร้ายทิ้งไว้ในรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ทะเบียน ตกง 131 สมุทรสาคร และยังมีกระสุนปืนลูกซองใส่ไว้ในถุงพลาสติกถูกทิ้งไว้คู่กับอาวุธปืน ส่วนที่พื้นถนนพบปลอกกระสุนปืนลูกซอง 4 ปลอก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บรวบรวมทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายสมบัติ หรือ กล้วย จันทโนทัย เป็นคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างในวินมอเตอร์ไซด์เดียวกัน หลังก่อเหตุได้ทิ้งอาวุธแล้วหลบหนีไป
ต่อมาในเวลาประมาณ 17.00 น. นายสมบัติ จันทโนทัย อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ตามบัตรประชาชน 53/38 หมู่ที่ 4 ตำบลบางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร มือปืนที่ก่อเหตุยิงนายกำพล ปราสาททอง กับ นายณรงค์ จิตรเจริญ จนเสียชีวิตนั้น ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.ย่อยท่าฉลอม โดยมี พ.ต.อ.ชัยยุทธ ถมยา ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร เป็นผู้สอบปากคำผู้ต้องหารายนี้ด้วยตนเอง
ซึ่งนายสมบัติหรือ กล้วย มือปืนที่ก่อเหตุได้ให้การรับสารภาพว่า สาเหตุที่ใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิงเพื่อนร่วมคิวมอเตอร์ไซด์รับจ้างเดียวกันนั้น ก็เพราะความคับแค้นใจที่ถูกผู้ตายทั้งสองคนพูดจาแดกดัน กระทบกระทั่งและกลั่นแกล้งตนเองมาตลอดเป็นเวลา 7-8 ปีแล้ว อีกทั้งยังไล่ให้ตนเองไปนั่งรอผู้โดยสารที่ด้านนอกคิวอีกด้วย ซึ่งตนก็ต้องหาร่มมาปักกันแดดกันฝนเอง
กระทั่งในช่วงก่อนเกิดเหตุ นั้น ตนเองก็ถูกพูดจากระทบกระทั่งอีก
จึงได้เกิดความโมโห ประกอบกับที่ยังไม่ได้กินยาระงับอาการทางประสาทที่เป็นมานานหลายปีแล้วและ ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสมุทรสาครซึ่งแพทย์ต้องให้กินยาอย่างต่อ เนื่องและเป็นเวลาสม่ำเสมอ อีกทั้งอากาศยังร้อนจัดเลยทำให้ตนเองเกิดความโมโหเป็นอย่างมาก จึงได้ขับรถกลับไปบ้านและเอารถซาเล้งใส่ปืนลูกซองยาวไม่มีทะเบียนที่ซื้อต่อ จากเพื่อนมาในราคา 9,000 บาท เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วออกมา จากนั้นก็มายิงทั้งสองคนจนเสียชีวิต เสร็จแล้วก็ได้ทิ้งปืนพร้อมกับลูกกระสุนไว้ในรถจักรยานยนต์พ่วงข้างหรือ ซาเล้ง ส่วนตัวเองได้วิ่งไปที่ สภ.ย่อยท่าฉลอม เพื่อเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและพร้อมที่จะรับโทษทางกฎหมายทุกประการ
ทั้งนี้หลังจากที่ได้ฟังคำให้การของนายสมบัติจันทโนทัย ผู้ต้องหาในเบื้องต้นแล้ว พ.ต.อ.ชัยยุทธ ถมยา ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร ก็ได้ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาฆ่าผู้อื่น และได้นำตัวไปควบคุมไว้ที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อรอการส่งศาลจังหวัดสมุทรสาครต่อไป