จับ-ปรับแท็กซี่ติดมิเตอร์จรวดได้แล้ว

จากกรณีมี ผู้ใช้บริการรถแท็กซี่รายหนึ่ง โพสต์ข้อความร้องเรียน “แท็กซี่สุวรรณภูมิ มิเตอร์พุ่งไวปานจรวด” ในเว็บเพจชื่อดัง

โดยเล่าเหตุการณ์ว่า ตนเดินทางกลับจากต่างประเทศเมื่อวันที่ 4 ก.พ. เวลาประมาณ 01.00 น. รับบัตรขึ้นรถแท็กซี่แบบแวน สัมภาระกระเป๋าใบใหญ่ 1 ใบ รถเข็นเด็ก 1 คัน แจ้งคนขับรถว่าต้องการเดินทางไปลำลูกกา จ.ปทุมธานี เมื่อรถออกจากสนามบินได้พักหนึ่ง สังเกตุเห็นมิเตอร์ขึ้นไวมาก จึงถ่ายคลิปไว้ แต่ไม่ได้สอบถามอะไรกับคนขับรถกลัวจะมีเรื่อง และเป็นอันตรายต่อภรรยา และลูกน้อยวัยขวบสี่เดือน กระทั่งถึงบ้านค่าโดยสารรวมค่าธรรมเนียม 585 บาท เมื่อเปรียบเทียบกับตอนเรียกจากบ้านไปสนามบินจ่ายค่าแท็กซี่เพียง 300 บาท จึงตัดสินใจถามคนขับรถว่า "พี่ครับทำไมมิเตอร์มันขึ้นเร็วผิดปกติขนาดนั้นครับ" คนขับรถตอบกลับเสียงเรียบ ๆว่า "เขาปรับมิเตอร์ใหม่แล้วครับ รถนี่ก็ใหม่ เป็นไปตามมาตรฐานทุกอย่างครับ" สุดท้ายจึงจ่ายเงินไปตามมิเตอร์ เช้าวันรุ่งขึ้นจึงโทรศัพท์ไปแจ้งที่การท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

ความ คืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ทีมข่าว “เดลินิวส์ออนไลน์” ได้รับการเปิดเผยจากนายสุกรี จารุภูมิ ผอ.กองตรวจการ กรมการขนส่งทางบก ว่า ผลการตรวจสอบกรณีมีเรื่องร้องเรียนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยผู้ใช้นามแฝงว่า Ple Angle ร้องเรียนรถยนต์สาธารณะ หมายเลขทะเบียน มฎ-750 กท. มาตรมิเตอร์ค่าโดยสารขึ้นผิดปกตินั้น กองตรวจการขนส่งทางบกได้ดำเนินการประสานงานกับนายศิริวัฒน์ จันทร์เพ็ง หัวหน้างานรถรับจ้างสาธารณะ การท่าอากาศยานในการติดตามตัวผู้ขับรถยนต์สาธารณะคันดังกล่าว ให้มารายงานตัวและให้ถ้อยคำ

เบื้องต้นทราบว่า คนขับรถคันดังกล่าวคือนายสุรชัย (ขอสงวนนามสกุล) ใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะเลขที 52000708

สิ้นอายุวันที่ 1 ก.ค. 56 ออกโดยสำนักงานขนส่งเขตพื้นที่ 1 จากนั้นได้สั่งการให้เจ้าของรถ นำรถมาที่งานตรวจสภาพรถ สขพ.5 เพื่อตรวจสอบมาตรค่าโดยสาร กรณีมาตรค่าโดยสารขึ้นเร็วผิดปกติ ผลการตรวจสอบพบมีการแก้ไขดัดแปลงวงจรของมิเตอร์ ทำให้ระยะทาง และค่าโดยสารเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติเมื่อกดสวิทช์วงจร

ทั้งนี้กรมการขน ส่งทางบกจึงลงโทษด้วยการเปรียบเทียบปรับดังนี้ 1.กรณีขับรถโดยที่ใบอนุญาตขับรถสิ้นอายุตามมาตรา 65 ประกอบมาตรา 65 เป็นเงิน 2,000 บาท 2.เปรียบเทียบปรับกรณีใช้รถที่อุปกรณ์สำหรับรถนั้นไม่ครบถ้วนถูกต้อง (มิเตอร์ไม่ถูกต้อง) มาตรา 12 ประกอบมาตรา 60 ตาม พรบ.รถยนต์ พ.ศ.2522 ปรับ 2,000 บาท ซึ่งการเปรียบเทียบปรับทั้ง 2 ข้อหาเจ้าหน้าที่ได้เปรียบปรับในอัตราโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้สูงสุด และ 3.ให้ผู้ขับรถ อบรมปรับทัศนคติในการให้บริการผู้โดยสาร 3 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามหากยังพบว่ายังมีการกระทำความผิดอีกจะยึดใบอนุญาตขับรถทันที.