2โจ๋คลองเตยรุมยำ นร.ขาสั้นกลางถนน เหตุไม่ชอบขี้หน้า งัดแม่ไม้มวยไทยพร้อมสูตร"แมวหมู่"จัดการ ขณะรุมกินโต๊ะความซวยมาเยือน พลเมืองดีทนไม่ไหวเข้าช่วยเหลือ ไม่หยุดซ่าเลยเจอของจริง คนละดอกสองดอกถึงกับจุกไปไม่เป็น ผู้ปกครองโร่แจ้งความ อ้างตำรวจไม่รับแจ้ง ผกก.พื้นที่ยันเข้าใจผิด พร้อมให้ความเป็นธรรม 2 ฝ่าย
เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์ออนไลน์” รายงานว่า จากกรณีคลิป “หมาหมู่” ความยาว 1.24 นาที
ได้เผยให้เห็นภาพเหตุการณ์วัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายเด็กนักเรียน ม.ปลาย ทั้งเครื่องแบบ เคราะห์ดีมีพลเมืองดีเข้าช่วยเหลือ และแยกทั้งหมดออกจากกันได้ โดยเจ้าของคลิประบุว่า “เหตุเกิดวันที่ 7 ก.พ. เวลา 08.27 น. ถ้าเก่งขนาดนี้! ลงใต้ไหม? หมาหมู่ ตัวต่อตัวไม่กล้า เรื่องมีอยู่ว่าน้องเราที่ใส่ชุดนักเรียน ขับรถรีบไปสอบ จู่ ๆ มีวัยรุ่นสองคนขี่รถตามมา เเล้วดักหน้า ตะโกนด่าท้าต่อย น้องเราที่ใส่ชุดนักเรียนบอกว่า ต้องรีบไปสอบ กลัวไม่ทัน ถ้าจะต่อยมาเจอกันตอนเย็นตัวต่อตัว ตอนนี้ขอไปสอบก่อน” (โดยที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เเค่เห็นหน้าเเล้วไม่ชอบ) เด็กที่มันตั้งใจเรียน ทำเพื่อเเม่ ต้องโดนเเบบนี้เหรอ? เเจ้งตำรวจเเต่ยังนิ่งเฉย)
ความคืบหน้าล่าสุด ทีมข่าวเดลินิวส์ออนไลน์ ติดต่อไปยัง นายสมชาย-นางศิริวรรณ วิชาเกวียน พ่อและแม่เด็กผู้เสียหาย
ชี้แจงว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในซอยโรงหมู ถนนอาจณรงค์ แขวง-เขตคลองเคย คนก่อเหตุทราบว่าชื่อเบนซ์ วันเกิดเหตุลูกชายกำลังขี่รถ จยย.ไปสอบโอเน็ต นายเบนซ์มากับเพื่อนอีกคนขี่รถจยย.มาดักหน้า ลูกชายจึงถามว่า หลายวันก่อนพาพวกมาตามหามีอะไร นายเบนซ์บอกว่า ไม่มีอะไร กูไม่ชอบขี้หน้ามึง ลูกชายตนบอกไปว่า ถ้าจะมาหาเรื่องไม่ต้องพาพวกมารุม ไว้มาเจอกันตัวต่อตัวเย็นนี้ ตอนนี้ขอไปสอบก่อน แต่นายเบนซ์กับเพื่อนไม่ไปฟังเสียง พากันรุมทำร้ายตามที่ปรากฏในคลิป ดีที่มีคนเข้ามาช่วยเอาไว้ หลังจากนั้นตนได้ไปแจ้งความที่ สน.ท่าเรือ แต่ตำรวจไม่รับแจ้ง บอกว่าให้ผู้เสียหายไปหาตัวคนทำร้ายมาให้ได้ก่อน แล้วไปไกล่เกลี่ยกันเอง หากไกล่เกลี่ยไม่ได้ค่อยมาแจ้งความ ทั้งนี้เด็กบอกว่าคุ้นหน้าคู่กรณี เคยเห็นมาที่แฟลตเมื่อ 2-3 วันก่อน ทราบว่านายเบนซ์อยู่กับยายในชุมชนหลังหมู่บ้านมั่นคง จึงพากันไปตามหา แต่ยายของนายเบนซ์กลับบอกว่าหลานไปอยู่กับย่า จะลองติดต่อให้ อีกทั้งยายผู้ก่อเหตุยังโกรธแค้นพลเมืองดีที่มาห้าม พร้อมบอกว่าจะให้คนไปสืบว่าพลเมืองดีคนนั้นเป็นใคร ทำไมต้องทำร้ายหลานชายตนด้วย
“เราไม่เข้าใจ ว่ายายเขาคิดอะไร เราไม่ได้ตั้งใจไปเอาเรื่อง แค่ต้องการให้เขาชดใช้ค่าเสียหายที่หลานเขาถีบรถจักรยานยนต์เราพัง และไม่อยากให้เด็กมารุมตีกัน เสียใจที่ตำรวจไม่ใส่ใจประชาชนตาดำ ๆ อย่างเราเลย เราไปแจ้งความ เพราะหวังพึ่งตำรวจ ให้ความยุติธรรมกับเราบ้าง มาช่วยไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีก็ยังดี แต่นี่ไม่เลย ให้เราตามหาเอง โชคดีที่ยังมีพลเมืองดีช่วยไว้ ไม่งั้นลูกคงเจ็บหนัก คนที่เห็นเหตุการณ์บอกว่า พลเมืองดีคนนั้นเป็นตำรวจ ตอนแรกเข้าไปห้ามเกือบโดนลูกหลง แต่พอผู้ก่อเหตุรู้ว่าเป็นตำรวจเลยไม่กล้า อีกทั้งขณะเกิดเหตุชาวบ้านแถวนั้นช่วยกันตะโกนห้ามปราม แต่วัยรุ่นทั้งสองก็ไม่ฟัง วันนี้ตั้งใจจะไปแจ้งความอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าตำรวจจะรับแจ้งความหรือไม่ เราแค่เป็นห่วงความปลอดภัยของลูก เพราะต้องใช้เส้นทางนี้เดินทางไปโรงเรียนทุกวัน” ผู้เป็นแม่กล่าวเพิ่มเติม
ด้าน พ.ต.อ.กฤตภาส พาทีทิน ผกก.สน.ท่าเรือ กล่าวว่า หลังจากตรวจสอบข้อเท็จจริง ทราบว่าทางตำรวจรับแจ้งความไว้แล้ว
ทั้งนี้ตนได้คุยกับทางคู่กรณีทั้งสองฝ่ายแล้ว โดยเย็นวันนี้ เวลา 17.00 น.ตำรวจได้นัดให้ทั้งคู่มาพบเพื่อเจรจาตกลงกัน อย่างไรก็ตามจะเปรียบเทียบปรับเรื่องทำรถจยย.เสียหายกับทางผู้ก่อเหตุ พร้อมให้ตรวจสอบประวัติด้วย ส่วนเรื่องทำร้ายกันจะมีการคุยไกล่เกลี่ยก่อนเพราะไม่ได้เป็นคดีร้ายแรง ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย.