หนุ่มเมาแค้นขาโจ๋พัทยารุมตืบชักปืนกระหน่ำยิงคู่อริดับ

หนุ่มกรุงเทพฯ พาพวกเที่ยวผับดังพัทยา เดิมพันพนันแทงพลูกับขาโจ๋เจ้าถิ่น จนสูญเกือบแสน ตามขอแก้มือ แต่ถูกขาโจ๋ยกพวกรุมทำร้าย แค้นจัดระเบิดอารมส์คว้าปืนไล่กระหน่ำยิงดับ 1 ก่อนเผ่นหนีเข้ากรุงเทพ เผยผับดังเปิดเกือบโต้รุ่งแทบทุกวัน นักท่องเที่ยวตีกันประจำ

เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 29 พ.ค. 50 พ.ต.ท.สุชาติ สุขถาวร พนักงานสอบสวน สภ.ต.พัทยา

ได้รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันมีผู้บาดเจ็บภายในผับ 93 ไมล์คลับ ตั้งอยู่เลขที่ 103-104 ริมถนนสายสาม ใกล้แยกไฟแดงพัทยาใต้ ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

โดยคนร้ายที่ก่อเหตุได้ขับรถยนต์เก๋ง

ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีดำ ไม่ทราบทะเบียน ขับหลบหนีจากที่เกิดเหตุ มุ่งหน้าขึ้นถนนสุขุมวิทเข้ากรุงเทพฯ หลังรับแจ้งจึงรีบแจ้งกำลังเจ้าหนาที่ตำรวจทุกพื้นที่ใกล้เคียงช่วยติดตามจับกุม

พร้อมกับรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย

- พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.
- พ.ต.ท.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ รอง ผกก.สส.
- พ.ต.ท.ศิริชัย ครูประเสริฐวัฒนา รอง ผกก.ป.
- พ.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย สวป.
- พ.ต.ต.ไชยกฤษณ์ ทองอินทร์ สว.สส.

เมื่อไปถึงที่ผับเกิดเหตุ ซึ่งผับดังกล่าวยังไม่ปิดให้บริการ

พบนักเที่ยวทั้งชายหญิงจำนวนมากกำลังแตกตื่น วิ่งหนีออกจากผับ ซึ่งภายในเพิ่งเกิดเหตุการวุ่นวาย โดยกลุ่มวัยรุ่นรุมตีกันจนโต๊ะเหล้า ขวดเหล้า แก้ว และกระจกของร้านแตกเสียหาย มีเลือดของผู้บาดเจ็บถูกเศษแก้วบาดหยดอยู่เต็มร้าน ส่วนคู่กรณีที่ก่อเหตุทราบว่า แยกย้ายกันหลบหนีไปแล้ว

ส่วนคนเจ็บถูกยิงบาดเจ็บนั้นถูกพาตัวส่งโรงพยาบลพัทยาเมโมเรียล

ไปก่อนแล้ว ทราบชื่อต่อมาคือ นายมาร์ค สุวรรณเสนีย์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 135/43 ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนตามร่างกาย บริเวณ กลางอก ลำตัว แขน ขา รวมกว่า 10 นัด อาการสาหัสก่อนจะทดพิษคมกระสุนไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ใน ส่วนของมือปืนที่ก่อเหตุได้ขับรถยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นซีวิค สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน พร้อมพวกหลบหนีรอดพ้นจุดสกัดของตำรวจไปได้โดยมุ่งหน้าไปทาง กรุงเทพมหานคร อย่างไร่วี่แวว ขณะที่ทางตำรวจได้วิยุแจ้งให้พื้นที่ใกล้เคียงติดตามจับแต่ก็ไม่ทัน

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุ โดยพบว่า

บริเวณด้านหน้าผับมีกองเลือดและปลอกกระสุน ขนาด 9 มม. ตกเกลื่อนไปทั่วบนริเวณหน้าร้านรวมจำนวนกว่า 14 ปลอก นอกจากนี้หัวกระสุนปืนยังพุ่งใส่บ้านพักของชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงได้รับความเสียหายไปด้วย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ในเบื้องต้น พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก. เปิดเผยว่า

เหตุการครั้งนี้ได้สอบสวนบรรดาเพื่อนๆของ นายมาร์ค ผู้ตายทราบว่าก่อนเกิดเหตุ กลุ่มของมือปืน ซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่นทั้งชายและหญิงจำนวนกว่า 10 คน ขับรถเดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร เพื่อมาเที่ยวที่ผับดังกล่าว

โดยมือปืน ที่ก่อเหตุเป็นชายไทยอายุราว 25-30 ปี (ยังไม่ทราบชื่อ )

ได้ดื่มกินจนเมามายแล้วชักชวน นายมาร์ค ซึ่งเป็นวัยรุ่นเจ้าถิ่นที่นั่งดื่มอยู่ในร้าน เพื่อเล่นแทงพนันพลู ที่ตั้งโต๊ะอยู่ ภายในผับโดยวางเงินเดิมพันกันเกมส์ละ 20,000 บาท

หลังจากแทงพลูไปหลายเกมส์

ชายมือปืนก็เกิดอาการหงุดหงิดเนื่องเล่นแพ้การแทงพลู เสียเงินพนันไปหลายหมื่นบาท แล้ว นายมาร์ค ก็ของเลิกเล่นเพราะกลัวชายคนดังกล่าวจะเสียเงินมากกว่าเดิมอีก แต่ชายคนดังกล่าวไม่ยอมตามง้อขอแก้มือให้เล่นแทงพลูอีกโดยเพิ่มจำนวนเงินเดิมพันขึ้นเกมส์ละ 30,000 บาท หวังจะเล่นเอาเงินที่เสียไปกลับคืน

แต่ด้วยฝีมือของชายคนดังกล่าวไม่ถึงขั้น

จึงเล่นสู้ นายมาร์ค ไม่ได้ ทำให้เสียเงินมากว่าเดิมอีกเกือบแสนบาท และไม่ยอมเลิกรา จนเกิดการโวยวายขึ้น ทั้งยังมีการยั่วยวนท้าทายล้อว่า เป็นขี้แพ้ไม่ยอมเลิกรากันขึ้น ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะยกพวกตีกันภายในผับ จนทำให้เกิดการตะลุมบอลกันขึ้นในร้านจนโต๊ะเหล้าและแก้วเหล้าแตกเสียหาย ทั้งยังทำให้นักเที่ยวที่กำลังเต้นอยู่ในร้านทั้งชายและหญิงถูกลูกหลงบาดเจ็บไปหลายราย จากนั้นกลุ่มของชายคันดังกล่าวซึงเป็นกลุ่มวัยรุ่นจากรุงเทพฯสู้ไม่ไหวจึงหนีออกจากร้าน

จากนั้นชายคนที่เสียพนัน

ได้ไปหยิบเอาอาวุธปืนที่อยู่ในรถ ออกมาไล่ยิง นายมาร์ค นักพนันคู่อริ ที่หน้าร้านต่อหน้าต่อตานักเที่ยวจำนวนมากที่ตกใจแตกตื่นวิ่งหนีตายหลบกระสุนปืนกัน ซึ่งนายมาร์ค พยายามวิ่งหนี แต่ไม่พ้นถูก มือปืนดังกล่าวตามกระหน่ำยิงในระยะเผาขนจนกระสุนหมดแม๊ค

เมื่อเห็น นายมาร์ค ถูกยิงจนจมกองเลือด

จึงวิ่งขึ้นรถยนต์เก๋งคันดังกล่าว พร้อมกับพวกพากันขับรถหลบหนีไป อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนร้ายได้ทิ้งรถยนต์เก๋งไว้ที่ร้านเกิดเหตุ 1 คัน ซึ่งจะเร่งสืบสวนขยายผลหาตัวเจ้าของรถ เพื่อเป็นแนวทางในการติดตามคนร้ายพร้อมพรรคพวกที่ลงมือก่อเหตุอย่างอุกอาจครั้งนี้มาลงโทษให้เร็วที่สุด

พ.ต.อ.สุทิน กล่าวอีกว่า ในส่วนของร้านที่เกิดเหตุ

ซึ่งฝ่าฝืนเปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนดต้องดำเนินการกับผู้ดูแลอย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้ปัญหาเช่นเดียวกันนี้เกิดขึ้นอีก เนื่องจากที่ผ่านมาร้านดังกล่าวเคยถูกสั่งปิดเนื่องจากเปิดให้บริการเกินเวลามาแล้ว กระทั่งมาเปิดบริการอีกครั้งก็ยังฝ่าผืนจนเกิดเรื่องขึ้นซ้ำอีก

รายงานล่าสุด ขณะนี้ตำรวจกำลังสอบปากคำพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุ

พร้อมทั้งสั่งไล่ล่าตัวคนร้ายอย่างกระชั้นชิด แต่ยังไร้วี่แวว และยังไม่ทราบว่าคนร้ายกลุ่มนี้เป็นใคร คาดว่าหลบหนีไปตั้งหลักที่บ้าน

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก