ฉัตรวดีกล่าวว่า แม้ว่าเธอจะถูกพ่อแม่ของตนเองฟ้องร้องดำเนินคดีในคดีมาตรา 112 และเธอรู้สึกเสียใจกับกรณีดังกล่าว แต่เธอจะเดินหน้าต่อไป และหวังว่าประเทศไทยจะเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยในที่สุด โดยเธอหวังว่าจะมีโอกาสได้ไปเยี่ยมบ้านอีกครั้ง
ฉัตรวดีกล่าวว่าเธอไม่ได้อยู่ในบ้านที่คนร้ายเหล่านี้พยายามเข้าไปทำร้ายเธอแต่เธอก็ไม่ต้องการให้คนอื่นๆต้องเดือดร้อน
อดีตสามีวัย 41 ปี ของฉัตรวดี ซึ่งไม่ต้องการเปิดเผยชื่อของเขากล่าวว่า มีคนหลายคนเดินทางมาหาเรื่องที่บ้านเขาหลายครั้ง ซึ่งเขาและลูกๆ ก็อยู่ในบ้านในเวลานั้นด้วย เขาเชื่อว่าเขาและลูกๆ อาจตกอยู่ในอันตรายทุกๆ ครั้งที่ได้ยินเสียงเคาะประตู
ด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสหราชอาณาจักรกล่าวว่า พวกเขาทราบเรื่องเหล่านี้และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ติดตามคดีเหล่านี้อย่างใกล้ชิด เขากล่าวว่า สหราชอาณาจักรได้ยืนยันหลักการเสรีภาพในการแสดงออก และพร้อมที่จะปกป้องสิทธิของประชาชนจากอันตรายใดๆ ที่จะคุกคามเสรีภาพในการแสดงออกของพวกเขา
"เรายืนยันอย่างชัดเจนต่อกระทรวงการต่างประเทศของไทย และสถานทูตไทยในกรุงลอนดอน ว่าเราไม่อาจยอมรับการบังคับใช้คำประกาศของคณะรัฐประหารโดยรัฐบาลทหารของไทยบนแผ่นดินสหราชอาณาจักร อันมุ่งหมายเพื่อละเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกได้"
ทั้งนี้ ฐิติพันธ์ รุ่งรอด หรือดีเจเคน วัย 34 ปี ผู้มีพฤติกรรมคุกคามฉัตรวดี ได้สารภาพผิดต่อกรณีทำให้เสียทรัพย์และครอบครองสิ่งเทียมอาวุธปืน เขาถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 10 สัปดาห์ โดยให้รอลงอาญาหนึ่งปี, ทำงานบำเพ็ญประโยชน์ 200 ชั่วโมง และจ่ายค่าปรับ 200 ปอนด์ จากคำพิพากษาของศาลเมื่อ 6 กันยายน ปีที่่แล้ว