แฉพบบัญชีกิตติศักดิ์เงินโผล่อีก 300 ล้าน

แก๊งโกง สจล. พบหลักฐานใหม่ เส้นทางการเงินปริศนา โผล่บัญชี "กิตติศักดิ์" หัวโจกสำคัญ อีก 300 ล้าน ขณะที่ "ถวิล พึ่งมา" อดีตอธิการบดี สจล. พร้อมเข้าให้ปากคำ ฝั่งตำรวจรับหลักฐานสาวถึงตัว "บอส" ยังไม่เพียงพอ

เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ โฆษก ตร.

 เปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตามจับกุม ขบวนการลักทรัพย์เงินจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) มูลค่าร่วม 1,600 ล้านบาทว่า ในส่วนของการติดตามจับกุม นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหาคนสำคัญ ในคดีลักทรัพย์เงิน สจล. ที่สืบทราบว่าหลบหนีไปกบดานอนู่ในประเทศอังกฤษนั้น ขณะนี้ได้เร่งดำเนินการ เดินเรื่องของหมายแดง ในกรณีนายกิตติศักดิ์แล้ว โดยคาดว่า ขั้นตอนต่างๆ จะเสร็จสิ้น ภายในสัปดาห์หน้า หลังจากนั้นจะประสานทางการอังกฤษในการขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนต่อไป

พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวต่อว่า ขณะที่ในส่วนของการขยายผลหาตัว "บอส"

ซึ่งถือเป็นตัวการใหญ่ ขบวนการโกงเงิน สจล. นั้น พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ อยู่ โดยหากสามารถจับกุมตัวนายกิตติศักดิ์มาได้ จะทำให้การสืบสวนขยายผลมีน้ำหนักมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าขณะนี้หลักฐานต่างๆ ที่จะใช้ดำเนินการจับกุมตัวผู้บงการในคดีนี้ ยังไม่เพียงพอ

ทั้งนี้มีรายงานข่าวจากชุดคลี่คลายคดี บก.ป. แจ้งว่า ทางพนักงานสอบสวน บก.ป.

ได้สอบสวนรวมทั้งตรวจสอบเส้นทางการเงินของขบวนการโกงเงิน สจล. จนขณะนี้พบข้อมูลหลักฐานเด็ดเพิ่มขึ้นมา เป็นเส้นทางการเงินจากบัญชีของนายกิตติศักดิ์ ที่ได้โอนจากบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ เข้าไปยังธนาคารกสิกรไทยอีก 300 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นหลักฐานใหม่ที่ปรากฏ ทำให้พนักงานสอบสวน บก.ป. เตรียมเรียกตัวแทนธนาคารกสิกรไทย มาให้รายละเอียดเพิ่มในเรื่องนี้

นอกจากนี้ ในวันจันทร์ที่ 26 ม.ค. ตัวแทนธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ติดต่อจะเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ป. โดยจะเดินทางมาพร้อมกับนายถวิล พึ่งมา อดีตอธิการบดี สจล. เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมทางคดี

ทางด้านพ.ต.อ.ณษ เศวตเลข รองผบก.ป. เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจยังสอบไม่ถึงตัวผู้บงการใหญ่หรือ "บอส"

ที่แก๊งโกงเงินนี้อ้างถึง อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 26 ม.ค. ตัวแทนธนาคารไทยพาณิชย์ จะเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ป. เพื่อให้รายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับแคชเชียร์เช็ค และสลิปต่างๆ ตลอดจนลายเซ็นต์สลักหลังเช็คที่จะเป็นหลักฐานสำคัญ ว่าเป็นลายเซ็นต์ใครบ้าง ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลทางคดีที่สำคัญ.