22 ม.ค. 58 นายจำรูญ เล้าสินวัฒนา รองอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.)
กล่าวถึงคดียักยอกทรัพย์เงินคงคลังของสถาบันฯ ว่าขณะนี้คดีคืบหน้าไปมาก แต่ยังขาดหลักฐานสำคัญคือสลิปถอนเงิน ที่นายทรงกลด ศรีประสงค์ อดีตผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ ผู้ต้องหาในคดี เป็นผู้เบิกถอนไป แต่ทางธนาคารกลับให้ข่าวทำนองว่าธนาคารไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น ทางสถาบันจึงตั้งข้อสังเกตและเรียกร้องขอความร่วมมือจากทางธนาคารดังกล่าว
นายจำรูญ กล่าวต่อว่า สถาบันขอให้ทางธนาคารมอบหลักฐานและเอกสารที่เกี่ยวข้องให้พนักงานสอบสวน
เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีกับนายทรงกลด พร้อมตั้งข้อสังเกตกรณี ผู้จัดการอาวุโสของธนาคาร ตั้งคณะกรรมการสอบสวนนายทรงกลด หลังพบว่าได้ดำเนินการผิดขั้นตอนเบิกถอนเงินของสถาบัน โดยมิได้มีลายมือชื่อของผู้บริหารสถาบันกำกับ ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดวินัยร้ายแรงในเชิงทุจริตด้านการเงิน แต่ธนาคารกลับไม่ได้แจ้งความผิดปกติให้สถาบันทราบ แต่กลับใช้วิธีให้นายทรงกลด นำเอกสารทำธุรกรรมดังกล่าวมาให้ผู้บริหารลงนาม แล้วให้ยื่นใบลาออก แทนที่ธนาคารควรจะไล่นายทรงกลด ออกตั้งแต่แรก
"การแก้ปัญหาเช่นนี้ทำให้สถาบันขาดความเชื่อถือต่อธนาคาร ซึ่งสถาบันต้องการทราบว่า ผู้มีอำนาจลงนามเบิกจ่ายของสถาบัน ได้ลงนามย้อนหลังไปให้ธนาคารหรือไม่ เพราะปกติไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเป็นการถอนเงินที่ไม่ชอบ" นายจำรูญ ระบุ
นายจำรูญ กล่าวอีกว่า เงินฝากของสถาบันที่ถูกทุจริตไป เป็นเงินฝากประจำ แต่กลับมีการถอนออกไปก่อนกำหนด
และยังเป็นการเบิกถอนเงินในจำนวนมาก จึงตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดธนาคารซึ่งพบความผิดปกติ จึงไม่แจ้งมายังสถาบัน หรือรายงานไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย และเหตุใดไม่แจ้งแก่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟองเงิน (ปปง.) แต่กลับปกปิด โดยให้นายทรงกลด ลาออก จนเป็นเหตุให้นายทรงกลด มีโอกาสไปเป็นผู้จัดการที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา แล้วทุจริตเงินของสถาบันได้อีก
"สถาบันในฐานะที่เป็นผู้เสียหาย จึงขาดความเชื่อมั่นในมาตรฐานการบริการจัดการเงินฝาก และหลักธรรมาภิบาลของธนาคารไทยพาณิชย์ สถาบันจึงทบทวนการทำธุรกรรมทางการเงินทุกประเภทกับธนาคาร เพื่อรักษาผลประโยชน์ของสถาบัน ตลอดจนความปลอดภัยทางการเงินของบุคลากรและนักศึกษา" นายจำรูญ กล่าวทิ้งท้าย