เมื่อวันที่ 21 มกราคม ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาจำคุก 3 ปี อดีตลูกจ้างสำนักงานผังเมือง-โยธาธิการ จังหวัดตราด พร้อมให้ชดใช้เงิน 1 ล้านบาท คดีแจ้งความเท็จ-หมิ่นประมาท กล่าวหาว่า อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยข่มขืน
คดีนี้นายสมบัติ อุทัยสาง อดีต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางสาวภคพร สันทาลุนัย อดีตลูกจ้างประจำสำนักงานผังเมืองและโยธาธิการจังหวัดตราด ฐานกรรโชกทรัพย์, รีดเอาทรัพย์, แจ้งความเท็จ และหมิ่นประมาทพร้อมขอให้ชดใช้ค่าเสียหายจากการกระทำละเมิด จำนวน 50 ล้านบาท
จากกรณีเมื่อระหว่างวันที่ 10 พฤศจิกายน 2545 ถึง 14 มกราคม 2546 นางสาวภคพร ข่มขู่เรียกรับเงิน 1 ล้านบาท จากนายสมบัติ และหากไม่ยอมจ่ายเงินจะเปิดเผยว่านายสมบัติ เคยร่วมประเวณีที่โรงแรมย่านสะพานควาย กับนางสาวภคพร ต่อภรรยาของนายสมบัติ และสื่อมวลชน
ทั้งนี้นางสาวภคพร จำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้คดี และยืนยันว่าถูกข่มขืน
ซึ่งศาลชั้นต้นเห็นว่า นางสาวภคพร กระทำผิดพิพากษา ลงโทษจำคุก 7 ปี และให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่นายสมบัติ 10 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี และให้ลงโฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์รวม 4 ฉบับ เป็นเวลา 10 วัน ขณะที่ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้โทษให้จำคุกนางสาว ภคพร 2 ปี ฐานแจ้งความเท็จ. และยกฟ้องข้อหาอื่น
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่าที่นางสาวภคพร กล่าวหาว่านายสมบัติ กระทำชำเรานั้นศาลเห็นว่านายสมบัติ มีอายุ 67 ปี
แม้นางสาวภคพร จะรูปร่างเล็กกว่า แต่หากต่อสู้ขัดขืน และร้องขอความช่วยเหลือสามารถทำได้ แต่นางสาวภคพร ไม่ทำ รวมถึงมีเจ้าหน้าที่โรงแรมดังกล่าวเบิกความว่าไม่ยินเสียงร้องไห้ หรือขอความช่วยเหลือแต่อย่างใด ประกอบกับคดีความที่นางสาวภคพร ยื่นฟ้อง นายสมบัติ ฐานข่มขืนกระทำชำเรา ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ได้ยกฟ้อง คดีถึงที่สุดแล้ว
พิพากษาแก้ว่านางสาวภคพร มีความผิดฐานแจ้งความเท็จ ให้ลงโทษจำคุก 2 ปี และถือว่ามีความผิดฐานหมิ่นประมาท นายสมบัติ ให้จำคุก 1 ปี รวมโทษจำคุก 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา เนื่องจากเป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจ เป็นภัยต่อสังคม และให้นางสาวภคพร ชดใช้ค่าเสียหายแก่นายสมบัติ 1 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี รวมถึงลงโฆษณาคำพิพากษาย่อในหนังสือพิมพ์ 4 ฉบับ เป็นเวลา 10 วัน
ภายหลังนางรัศมี ไวยเนตร ทนายความของ นางสาวภคพรเปิดเผยว่า จากนี้ก็จะดูรายละเอียดของคดีว่า จะสามารถยื่นขอพระราชทานอภัยโทษได้หรือไม่