หนุ่มช่างเครื่องเครียดยิงลูก-เมียดับ ก่อนยิงตัวตายตาม

หนุ่มช่างเครี่องเครียดภรรยา


เป็นโรคภูมิแพ้รักษาไม่หายซ้ำฐานะยากจนจึงตัดสินใจยิงลูกและเมียเสียชีวิตคาที่ ก่อนยิงตัวตายตาม

(26พค.) เวลา 11.00 น. พ.ต.ท.แช่ม ลำเจียก สารวัตรเวร สน.สายไหม รับแจ้งมีคนถูกยิงเสียชีวิต 3 ศพ ที่อาคารพาณิชย์เลขที่ 26/5 ซอยพหลโยธิน 62/1 แขวงและเขตสายไหม กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.2 เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น 2 คูหา


และเปิดเป็นอู่ซ่อมรถชื่อสปีดนิว ที่บริเวณชั้น 3 เจ้าหน้าที่พบศพ 3 ศพซึ่งถูกยิงห้องนอนดังกล่าว โดยศพแรกทราบชื่อ คือ นายลีลายุทธ ฤทธิ์สมาน อายุ 28 ปี เป็นช่างเครื่องประจำร้านดังกล่าว สภาพศพนั่งคุกเข่าคว่ำหน้าอยู่บนเตียง ใส่กางเกงขายาวสีขาว ไม่สวมเสื้อ สภาพศพถูกยิงที่หน้าอกด้วยปืน .38 1 นัด

ส่วนอีก 2 ศพ นอนเสียชีวิตขอบเตียงนอนติดผนัง

ทราบชื่อนางศุภลักษณ์ ใจเลิศ อายุ 35 ปี สภาพศพนอนหงาบบนเตียง สวมเสื้อกร้ามสีชมพู กางเกงขาสั้น ถูกยิงด้วยปืนขนาดเดียวกันเข้าหน้าผากติดกันบนเตียงนอนยังพบศพ ด.ช.ประกอบหรือน้องปราย ฤทธิ์สมาน อายุ 7 ปี สวมใส่เพียงกางเกงใน นอนหงายอยู่บนที่นอน สภาพศพถูกยิงเข้าที่ขมับด้านซ้าย 1 นัด ด้วยปืนขนาดเดียวกัน

โดยสภาพศพคนทั้งสาม

ขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง จากการตรวจสอบภายในห้องพบว่า บริเวณบนตู้เย็น ซึ่งตั้งอยู่บริเวณประตูทางเข้าภายในห้อง พบกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 2 นัด

พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า


ผู้ตายได้เขียน จม.เป็นกระดาษ A4 เขียนไว้ด้วยลายมือด้วยปากกาสีแดงบนหัวกระดาศว่า "กลม อย่าพาเราสามคนไปหาหมอนะ ขอโทษที่ทำแบบนี้ เราตายไปขอให้เอาศพเราไปไว้วัดที่บ้าน"

และยังเขียนด้วยปากกาสีดำด้วยว่า

"ผมเป็นคนขี้น้อยใจ คนเรารวยก็รวย จนก็จน ชีวิตบัดสบจริงๆ ลูกมาหาผมถามผมว่าทำไมห้องคนอื่นสวยจังเลย แต่ห้องพ่อไม่เห็นสวยเลย ผมเจอคำถามนี้เข้าไปหมดแรงเลย แต่อย่าไปโทษใครเลยผมไม่ดีเอง" พร้อมกันนี้ผู้ตายยังเขียนถึงคนชื่อกลม

ซึ่งทราบว่าเป็นพนักงานภายในร้านอีกด้วยว่า

"เราตายไปแล้วให้เอาเงินในกระเป๋าสีดำจำนวน 1 หมื่นบาทมอบให้แม่ ซึ่งกระเป๋าดังกล่าววางอยู่หลังตู้เย็น และในกระเป๋าจะมีจดหมายเขียนถึงแม่อีกฉบับหนึ่ง โดยผู้ตายได้เขียนลงท้ายว่าอโหสิกรรมให้ทุกๆคน

จากการสอบถามนายวิโรจน์ แก้วจันทร์ น้าของนายลีลายุทธ และเป็นเจ้าของร้านดังกล่าว กล่าวว่า


นายลีลายุทธ เข้ามาทำงานที่นี่ร่วม 10 ปีแล้วโดยเป็นพนักงานซ่อมเครื่องยนต์ โดยเข้ามาอยู่พร้อมภรรยาคือนางศุภลักษณ์ และมีลูกด้วยกัน 1 คน คือน้องปราย ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขอลาหยุด 1 สัปดาห์ โดยนิสัยผู้ตายเป็นคนที่เงียบขรึม ไม่ค่อยพูดกับใคร ที่ผ่านมาตนไม่ได้ไปก้าวก่ายครอบครัวเขา ทั้งนี้นายลีลายุทธ เป็นคนไม่ดื่มเหล้า ไม่เล่นการพนัน ส่วนสาเหตุไม่ทราบว่าเกิดจากเรื่องอะไร

ส่วนนายวิน ใจเลิศ อายุ 58 ปี พ่อนางศุภลักษณ์ กล่าวว่า

เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมานายลีลายุทธพร้อมด้วยนางศุภลักษณ์ บุตรสาวพร้อมทั้งน้องปรายได้ไปหาตนที่บ้านที่ จ.ปทุมธานี และได้รับน้องปรายที่พักอยู่กับตนมาที่ กทม.ตนก็บอกว่าให้นำหลานมาส่งวันศุกร์ เนื่องจากหลานต้องไปโรงเรียน โดยเรียนอยู่ ป.2 โรงเรียนไกรลาศวิทยา จ.ปทุมธานี ที่เปิดเรียนแล้ว แต่วันศุกร์ก็ไม่ได้นำหลานมาส่ง ตนพยายามโทรเข้ามือถือ ก็ไม่ติด จึงเดินทางมาดูที่เกิดเหตุ

ก่อนขึ้นไปดูชั้น 3 ก็พบว่า

มีจดหมายติดไว้ด้านหน้าประตู และได้กลิ่นเหม็น จึงเรียกพนักงานในร้านมาช่วยพังประตูก็พบศพทั้งสามคนอยู่ในห้อง ตนไม่ทราบว่าทั้งสามคนมีปัญหาอะไร เพราะบุตรสาวก็ไม่เคยเล่าให้ฟัง ทั้งนี้บุตรสาวตนได้ทำงานอยู่โรงงานย่านปทุมธานี

ด้าน พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า


จาการตรวจสอบไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ส่วนจดหมายที่ติดไว้หน้าห้องและจดหมายในกระเป๋าตู้เย็นตรวจสอบก็พบว่าเป็นลายมือเดียวกัน เชื่อว่าไม่น่าจะเกิดจากการฆาตกรรม แต่น่าจะเกิดจากนายลีลายุทธ เกิดอาคารเครียดเกี่ยวกับปัญหาชีวิต และทราบจากจดหมายหน้าห้องที่บุตรชายนายลีลายุทธมาพูดเกี่ยวกับห้องไม่สวยเหมือนห้องคนอื่น และจดหมายที่อยู่ในกระเป๋าหลังตู้เย็น

ได้เขียนไว้ว่า ภรรยาป่วยเป็นโรคภูมิแพ้หายใจไม่ออก และเป็นโรคที่รักษาไม่หาย และต้องใช้เงินจำนวนมาก และบ่นเรื่องคนจนคนรวย อาจเป็นสาเหตุให้ผู้ตายเกิดอาการเครียดและตัดสินใจยิงภรรยาและลูก ก่อนจะยิงตัวเองตายตาม ส่วนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุทราบว่าผู้ตายได้เขียนเล่าว่าไปซื้อมา 3,000 บาท


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:

หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์