หนุ่มโร่แจ้งจับสาวเลือดร้อน ทำร้ายแม่ในลิฟต์คอนโดฯย่านเตาปูน เหตุแค่มองหน้า แฉหลังเกิดเหตุมารดาแจ้งความ แต่เหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรม เลยนำคลิปโพสต์ลงบนโลกโซเชียล สุดท้ายบิ๊กตำรวจทนไม่ไหวต้องรีบยื่นมือช่วยทันที

เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์คมีแชร์คลิปจากกล้องวงจรปิดในเฟซบุ๊คของนายอาณัติ กรเกษม

บุตรชายของนางธนันดา ลิมปิเลขะ ที่มีการทำร้ายร่างกายกันเหตุเพราะมองหน้ากันในลิฟต์ พร้อมข้อความระบุว่า “วันที่ 5 มกราคม 2558 เวลา 18.40 น. แม่ผมกำลังจะไปขึ้นลิฟต์ ผู้หญิงคนนี้ ชื่อเล่นต่าย อายุ 31 ปี รอจังหวะเดินตามหลังมา เพราะอยู่อาคารเดียวกัน จากนั้นมันจึงเปิดประเด็นขึ้นมา พูดจาหาเรื่องหาว่าแม่มองหน้ามันทำไม แม่ผมตอบว่า มองอะไรคะ อยู่กันสงบๆเถอะจะมีเรื่องกันทำไม มันตะคอกว่า "กูอยากมีเรื่อง" แม่ผมเลยถามกลับว่า แล้วกูไปเสือกเรื่องอะไรของมึงอีกมั้ย จากนั้นประตูเปิดที่ชั้น 4 ของมันพอดี มันจึงเข้ามาโจมตีแม่ผม (ตามกล้องวงจรปิด)

นอกจากนี้นายอาณัฒิ ได้ระบุเพิ่มเติมว่า หลังเกิดเหตุแม่ของตนเดินทางไปแจ้งความที่ สน.เตาปูน

โดยนายอาณัติ อ้างว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงพฤติกรรมคล้ายคนรู้จักกันกับคู่กรณี และให้ลงเอยเป็นเรื่องของการทะเลาะวิวาท พร้อมปล่อยตัวคู่กรณีทั้งสองฝ่าย ส่วนแม่ของตนซึ่งได้รับบาดเจ็บหลายแห่งได้เดินทางไปโรงพยาบาลเพียงลำพัง โดยไม่มีใบส่งตัวเพื่อตรวจร่างกายแต่อย่างใด เมื่อคลิปดังกล่าวถูกนำไปเผยแพร่ต่อ ๆ กันไปในโลกโซเชียล ทำให้หลายคนเกิดข้อกังขาในการทำงานของเจ้าหน้าที่ พร้อมให้กำลังใจแม่ และตนเป็นจำนวนมาก

ต่อมา “เดลินิวส์ออนไลน์” ได้สอบถามไปยัง นายอาณัติ ซึ่งเจ้าตัวเปิดเผยว่า

นางธนันดา แม่ของตนอาศัยอยู่ที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านเตาปูน กทม.ในวันเกิดเหตุขณะที่กำลังขึ้นลิฟท์ก็เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น เมื่อตนทราบเรื่องจึงรีบเดินทางจาก จ.ขอนแก่น เพราะทนไม่ได้กับเหตุการณ์ เนื่องจากแม่ถูกทำร้ายจนร่างกายจนบอบช้ำอยู่ฝ่ายเดียว จากนั้นในวันที่ 6 ม.ค. จึงเดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมจาก ผกก.สน.เตาปูน โดย ผกก.ได้รับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมรับแจ้งข้อกล่าวหา และนัดสอบปากคำวันนี้ (7ม.ค.)

ขณะที่ พ.ต.อ.ภัทรภณ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผกก.สน.เตาปูน เปิดเผยว่า ได้รับทราบเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้ว
 
พร้อมกับเรียกร้อยเวรที่รับเรื่องในวันดังกล่าวมาพูดคุย ซึ่งหลังจากนี้จะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย โดยมีการสอบปากคำผู้กล่าวหา และพยานผู้อยู่ในเหตุการณ์ พร้อมเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ กล้องวงจรปิด และรอผลตรวจบาดแผลจาก รพ.เพื่อยืนยัน และจะออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหามาสอบปากคำ ก่อนดำเนินการทางกฎหมายต่อไป.