สาวใจเด็ดโดดรถวิ่งหนีแท็กซี่พาไปที่เปลี่ยว

"หญิงสาวใจเด็ด" โพสต์ข้อความเตือนภัย หลังไปเที่ยวสถานบันเทิงยามค่ำคืน ขากลับบ้านถูกคนขับรถแท็กซี่พาออกนอกเส้นทาง ตัดสินใจกระโดดลงจากรถขอความช่วยเหลือ โชคดีมีรถแจ๊สช่วยได้ แต่ตร.กลับบ่ายเบี่ยงไม่รับแจ้งความ

จากกรณีสังคมออนไลน์ มีการแชร์ภาพและข้อความเตือนผู้โดยสารหญิงสาว ที่กินดื่มเที่ยวฉลองปีใหม่แล้วต้องกลับบ้านเพียงลำพัง
 
โดยต้องนั่งรถแท็กซี่คนเดียว ให้ระมัดระวังตัว เนื่องจากอาจเกิดเหตุไม่คาดฝันในเรื่องของความปลอดภัย โดนล่าสุด เป็นเรื่องของหญิงสาวรายหนึ่งที่เข้าร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วังทองหลาง หลังถูกคนขับรถแท็กซี่สีส้ม หมายเลขทะเบียน ทม.- 7xxx กทม.(ขอสงวนหมายเลข) พาออกนอกเส้นทาง และเมื่อขอให้หยุดรถกลับได้รับการปฏิเสธจากคนขับ ผู้เสียหายจึงตัดสินใจเปิดประตูกระโดดลงจากรถ โชคดีมีพลเมืองดีขับรถผ่านมาให้ความช่วยเหลือจึงสามารถรอดมาได้อย่างปลอดภัย มีเพียงบาดแผลเขียวช้ำที่บริเวณหัวเข่าเล็กน้อยเท่านั้น

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. ทีมข่าว “เดลินิวส์ออนไลน์” ได้ติดต่อไปยังน.ส.เกตุ ผู้เสียหาย

ได้ให้ข้อมูลว่า “ในคืนเกิดเหตุ ตัวเองไปเที่ยวผับแห่งหนึ่งย่านรัชดาฯกับเพื่อนๆ แต่ไม่ได้ดื่มหนัก เพราะรู้ดีกว่าต้องกลับบ้านคนเดียว จนกระทั่งเวลาประมาณ 03.12 น. ได้เรียกรถแท็กซี่สีส้ม หมายเลขทะเบียน ทม.-7xxx กทม. เพื่อเดินทางกลับบ้านย่านมีนบุรี โดยแจ้งคนขับก่อนหน้าแล้วว่า ให้ใช้เส้นทางพระราม 9 ขึ้นยกระดับรามคำแหง แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าแยกบ้านม้า เนื่องจากเป็นเส้นทางที่คุ้นเคย ซึ่งคนขับได้รับปากอย่างดี จากนั้นเมื่อขึ้นรถตัวเองเลือกนั่งบริเวณด้านหลังคนขับและสังเกตุเห็นว่า คนขับได้ปรับกระจกหลังให้เล็งมาที่ตัวเรา จึงรีบพิมพ์ทะเบียนรถส่งให้แฟนทันที จนกระทั่งรถวิ่งมาถึงถนนพระราม 9 แทนที่คนขับจะขับในเลนกลาง เพื่อขึ้นทางยกระดับรามคำแหง แต่กลับเบี่ยงเข้าช่องทางซ้ายสุด ซึ่งเป็นทางเปลี่ยวและมืดมาก ไม่มีไฟส่องสว่างแม้แต่ดวงเดียว

ตนสังเกตุป้ายข้างทางเขียนว่า ซอยพระราม 9 ซอย 11 จึงถามคนขับว่า “จะพาไปไหน” คนขับแจ้งว่า “จะพาไปทางลัด”

ตนจึงบอกให้คนขับจอดรถถึง 2 ครั้ง แต่คนขับรถกลับปฏิเสธพร้อมบอกว่า “ยังไงก็ไม่จอด” พร้อมเร่งความเร็ว จึงตัดสินใจเปิดประตูรถเพื่อเตรียมกระโดด คนขับจึงชะลอรถ แต่ก็ยังไม่ยอมจอดนิ่ง ตนจึดตัดสินใจกระโดดลงจากรถทันที เมื่อลุกขึ้นได้จึงตั้งสติแล้วถอดรองเท้าวิ่งย้อนกลับทางเดิมอย่างไม่คิดชีวิต ระหว่างนั้นหันไปดูที่รถ เห็นคนขับรถวิ่งตามมา ประจวบเหมาะที่มีรถฮอนด้า แจ๊ส สีดำ วิ่งผ่านมาพอดี จึงโบกรถขอความช่วยเหลือ คนขับรถที่เป็นผู้หญิงนั่งมากับเพื่อนผู้หญิงอีกคน เปิดประตูรับขึ้นรถ พอดีกับที่คนขับรถแท็กซี่วิ่งมาถึงตัว เจ้าของรถแจ๊สจึงรีบออกรถหนีมา จากนั้นตนได้ไปแจ้งความไว้ที่ สน.วังทองหลาง แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่า ทำได้เพียงลงบันทึกประจำวันไว้เท่านั้น เนื่องจากคนขับรถแท็กซี่ยังไม่ถึงตัวเรา ยังไม่ได้ทำร้าย เหตุยังไม่เกิด เป็นเพียงพฤติกรรมส่อไปทางน่าสงสัยเท่านั้น วันรุ่งขึ้นจึงโทรไปแจ้งรายละเอียดไว้ที่กรมการขนส่งทางบก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่า จะเรียกเจ้าของอู่มาซักถามภายใน 7 วัน”

ด้าน ร.ต.ท.ไกรศร อินปิน พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ชี้แจงว่า “เหตุที่เกิดขึ้น เหมือนกับว่าผู้เสียหายเกิดความตกใจ

 จึงมาแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถแจ้งข้อหาได้ ทางเจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ผู้เสียหายโทรไปแจ้งกรมการขนส่งทางบกเพื่อทำประวัติคนขับรถไว้ แต่ในวันที่ 29 ธ.ค.นี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดต่อไปยังสหกรณ์บวรแท็กซี่ ผู้ครอบครองและผู้ถือกรรมสิทธิ์รถแท็กซี่หมายเลขทะเบียน ทม.-7xxx กทม. มาสอบสวนอีกครั้ง เพื่อติดต่อคนขับรถในคืนเกิดเหตุมาสอบถามข้อเท็จจริง สำหรับถนนเส้นดังกล่าว ในช่วงเวลาปกติจะมีประชาชนใช้เส้นทางจำนวนมาก แต่ในช่วงเวลากลางคืนถือว่าค่อนข้างเปลี่ยวพอสมควร”

ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวตรวจสอบไปยัง “สหกรณ์บวรแท็กซี่” นายฐาปกรณ์ อัศวเลิศกุล เจ้าของอู่ ให้ข้อมูลว่า

“ขณะนี้ตัวเองอยู่ที่ต่างจังหวัด ยังไม่สะดวกให้ข้อมูล เนื่องจากรถทะเบียน ทม. เป็นรถรุ่นเก่าที่ยังไม่สามารถดึงข้อมูลผ่านระบบ GPS ได้ อีกทั้งรถแท็กซี่ในสหกรณ์บวรแท็กซี่มีทั้งรถเช่า รถเช่าซื้อ และรถส่วนบุคคล ของบุคคลภายนอกที่นำมาเข้าร่วมกับสหกรณ์ แต่ทั้งนี้เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย หากพบเห็นรถแท็กซี่สีส้ม ทะเบียน ทม.-7xxx กทม. วิ่งอยู่เส้นทางใด ประชาชนสามารถแจ้งจับและอายัดรถไว้ที่โรงพักได้ทันที และในวันที่ 29 ธ.ค.นี้ ผมพร้อมเดินทางไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที”