ข่าวอาชญากรรม ในรอบปี 2557

หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม ข่าวอาชญากรรม ในรอบปี 2557

ข่าวอาชญากรรม ในรอบปี 2557

ในรอบปี 2557 มีทั้งช็อควงการ สะเทือนขวัญสังคม สะท้อนการทำงานของเจ้าหน้าที่ ความอยุติธรรม ฆาตกรรมโหด นักโทษหลบหนี

ลือจับแพะฆ่า2นักท่องเที่ยวเกาะเต่า สะท้อนเครดิตตำรวจไทย

รวบ 2 แรงงานต่างด้าวชาวพม่ามื่อฆ่า2นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ตร.ยันดีเอ็นเอตรงกับที่พบในศพ สังคมแชร์กระหน่ำตร.จับแพะหลับพบข้อพิรุธจำนวนมาก ชี้ถึงเวลาต้องปฏิรูปตำรวจทั้งระบบ

คดีฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ เริ่มเป็นข่าวเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 57 โดยมีการพบศพนายเดวิด มิลเลอร์ วัย 24 ปี และ น.ส.ฮันนาห์ วิทเธอริดจ์ วัย 24 ปี ที่บริเวณหาทรายรี ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ต่อได้นำศพส่งไปผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ และเก็บดีเอ็นเอจากหลักฐานทุกอย่างที่พบ เอาไว้เปรียบเทียบกับผู้ต้องสงสัย

คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจงมโข่งอยู่หลายวัน กว่าจะจับกุมผู้ต้องสงสัยเป็นแรงงานต่างด้าวชาวพม่า 3 ราย คือนายเมา นายซอ หรือ โซลิน และนายเพวิว หรือ วิน ระหว่างการรอผลดีเอ็นเอเพื่อยินยัน นายวิน รับสารภาพว่า ร่วมกับนายซอก่อเหตุฆาตกรรมจริง เพราะเกิดอารมณ์ทางเพศ หลังจากเห็นทั้งคู่พลอดรักกัน ส่วนนายเมาออกจากที่เกิดเหตุไปก่อนไม่ได้อยู่ร่วมในเหตุการณ์ ซึ่งสอดคล้องกับคำสารภาพของนายซอ และตรงกับผลตรวจดีเอ็นเอของทั้งสอง ที่ตรงกันกับดีเอ็นเออสุจิที่พบในร่างกายของ น.ส.ฮันนา

สำนักงานอัยการจังหวัดเกาะสมุย ยื่นฟ้องนายซอลิน หรือ โซเรน และนายเวพิว หรือ วิน เป็นจำเลยที่ 1 และ 2 ต่อศาลจังหวัดเกาะสมุย รวม 6 ข้อหา ปรากฏว่าในเวลาต่อมา ผู้ต้องหากลับคำให้การ โดยปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนกระทำแต่เหตุที่ต้องรับสารภาพ เพราะถูกเจ้าหน้าที่ข่มขู่ และทำร้ายร่างกายในระหว่างการสอบสวน เดือดร้อนถึงคณะกรรมารสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) ต้องลงไปตรวจสอบ รวมถึงสถาณฑูตพม่าประจำประเทศไทย ได้ร้องขอให้สภาทนายความจัดหาทนายไปแก้ต่างให้กับผู้ต้องหาทั้งสอง

อย่างไรก็ตาม การทำงานของฝ่ายตำรวจนับตั้งแต่พบศพในที่เกิดเหตุ พบว่ามีข้อพิรุธและข้อบกพร่องจำนวนมาก โดยเฉพาะในสังคมออนไลน์ต่างตั้งคำถามรวมทั้งพยายามเสนอแนะในการหาตัวคนร้าย แต่ตำรวจไม่ได้สนใจยังคงมุ่งมั่นในวิธีการเดิมๆที่ทำกันมา และยืนยันหนักแน่นว่าผู้ต้องหาที่จับมาคือฆาตกรตัวจริง แต่ในทางกลับกันในกระแสสังคมกลับมีคำถามตัวโตๆ ว่าจับแพะอีกแล้ว เพียงเพื่อหวังปิดคดีให้ได้โดยเร็ว เพราะคดีนี้นอกจากจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวแล้วยังส่งผลถึงความเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจเองด้วย

ณ ตอนนี้นายซอลิน และนายวิน ได้กลายเป็นผู้ต้องหาและถูกคุมขังในเรือนจำเพื่อรอกระบวนการตัดสินของศาล ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำคดีนี้ต่างก็กลับไปใช้ชีวิตตามปรกติ โดยเฉพาะระดับชั้นผู้ใหญ่ไม่ได้สนใจแสวงหาระบบหรือวิธีการในการแสวงหาความจริงเพื่อหาคนทำผิดตัวจริงอย่างที่อารยประเทศเขาทำกัน เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว กระบวนการที่ใช้กันทุกวันนี้ เราอาจจะไม่ได้ตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษก็เป็นได้

ศาลสั่งประหารชิวิต"ไอ้เกม"ฆาตกรโหดฆ่า"น้องแก้ม

ศาลจังหวัดหัวหิน พิพากษาประหารชีวิต "วันชัย แสงขาว" ฆาตกรโหดข่มขืนแล้วฆ่าเหยื่อวัน 13 ปี คนร้ายปฏิเสธก่อนรับสารภาพด้วยจำนนต่อหลักฐาน ด้านร.ฟ.ท.จัดโบกี้สำหรับสตรีป้องกันปัญหาเกิดซ้ำ

คดีช็อกและสะเทือนขวัญสังคม กรณี"น้องแก้ม" อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนสตรีนนทบุรี ถูกฆาตกรโหด คือ"นายวันชัยหรือเกม แสงขาว" อายุ 22 ปี พนักงานการรถไฟ ข่มขืนแล้วโยนร่างของเหยื่อลงจากขบวนรถไฟตู้นอน ขบวนรถเร็วที่ 174 สาย นครศรีธรรมราช-กรุงเทพฯ อย่างเลือดเย็น กระทั่งมาพบศพนอนเปลือยกายอยู่ริมป่าหญ้าข้างทางรถไฟ ตอนเช้ามืดของวันที่ 7 ก.ค.57 ในท้องที่หมู่ 1 ต.วังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

คนร้ายรับสารภาพอย่างไม่สะทกสะท้านว่า ก่อนเกิดเหตุได้เสพยาบ้าที่ซื้อจากแม่ค้า หน้าสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช จนเกิดอารมณ์ กระทั่งมาเจอเด็กหญิง วัย 13 ปี เลยวางแผนข่มขืน ฉวยโอกาสตอนเด็กนอนหลับ มุดเข้าไปชกต่อยจนสลบแล้วจึงลงมือข่มขืน แล้วอำพรางคดีด้วยการจับร่างโยนทิ้งลงไปข้างทาง เก็บเอาทรัพย์สินเหยื่อไปขาย โดยมีนายณัฐกรหรือหนึ่ง ชำนาญ เพื่อร่วมงานรู้เห็นเป็นใจ นอกจากนี้ เขายังสารภาพอีกว่า เคยก่อเหตุข่มขืนผู้โดยสารบนโบกี้มาแล้วถึง 2 ครั้ง

คดีสะเทือนขวัญคดีนี้ ใช้เวลานานเกือบ 4 เดือน ในที่สุดศาลจังหวัดหัวหิน ก็พิพากษาประหารชีวิต นายวันชัย(เกม) แสงขาว และลงโทษจำคุก 4 ปี นายณัฐกร(หนึ่ง) ชำนาญ สองคนร้ายในคดีร่วมกันข่มขืนฆ่า เด็กหญิงวัย 13 ปี ก่อเหตุบนขบวนรถไฟ ขบวนที่ 174 สุราษฎร์ธานี-กรุงเทพฯ แล้วโยนศพออกจากหน้าต่างรถไฟ เพื่ออำพรางคดี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 ก.ค.57

คดีของ"น้องแก้ม" นับเป็นเหตุการณ์ที่น่าเสียใจและซ้ำเติมภาพลักษณ์ของประเทศให้ย่ำแย่ลง ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เพราะผู้ต้องหาเสพยาก่อนก่อเหตุ จึงตอกย้ำภาพลักษณ์ของไทยในสายตาต่างชาติที่มองไทยไม่ค่อยดีอยู่แล้วในเรื่องยาเสพติด ได้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนหนึ่งจะเสียความเชื่อมั่นต่อการเดินทางด้วยรถไฟ

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นที่เป็นรูปธรรมอันเป็นผลของเหตุการณ์นี้คือ เรามีตู้รถไฟไว้บริการสำหรับสตรี และผู้ว่าการรถไฟถูกเด้งออกจากตำแหน่งเท่านั้นเอง ในขณะที่ระบบอย่างอื่นยังเหมือนเดิม

ล้วงลึก!! 2 มือเชือดหั่นศพครูญี่ปุ่นโยนชิ้นส่วนทิ้งคลองสนามพลี

นับเป็นคดีหนึ่งในคดีเหี้ยมโหดในรอบปี ปมครูสอนภาษาชาวญี่ปุ่นวัย 79 ปี หายตัวลึกลับ หลังลูกชายเหยื่อแจ้งความ ตร.ประสานกำลังสืบสวนตามตะครุบตัว 2 ผู้ต้องหา ผัว-เมีย จนรับสารภาพหั่นศพโยนทิ้งคลองสนามพลี

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 21 ก.ย. 57 นายโยชิโนริ ชิมาโตะ อายุ 79 ปี ครูสอนภาษาชาวญี่ปุ่น ได้หายตัวไปอย่างปริศนา นำไปสู่การเร่งสืบสวนสอบสวนคดีเนื่องจากเป็นคดีสำคัญที่อาจมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์และความมั่นคงระหว่างประเทศ ต่อมามีการสั่งการให้จับกุม นายสมชาย แก้วบางยาง อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2026/8 หมู่ 15 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ และนางพรชนก ไชยะปะ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 201/237 หมู่ 7 ถนนบางนา-ตราด ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ตามหมายจับศาลอาญา

ทั้งนี้ รายละเอียดของคดีดังกล่าว เริ่มจากวันที่ 14 ต.ค. 57 นายเทสซึโอะ ชิมาโตะ บุตรชาย นายโยชิโนริ ชิมาโตะ ครูสอนภาษาชาวญี่ปุ่นวัย 79 ปี ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ห้วงขวาง ว่า นายโยชิโนริ ได้หายออกจากห้องพัก เลขที่ 180 ชั้น 10 ศรีวราแมนชั่น แขวงสามเสนนอก เขตดินแดง กทม. จากนั้น นายเทสซึโอะ จึงได้เดินทางไปยังที่พักดังกล่าว พบนางพรชนก ซึ่งคบหากันเป็นแฟนกับนายโยชิโนริ อยู่ในห้องพักท่าทางมีพิรุธ ใส่วิกผมปิดบังใบหน้า จากการตรวจค้นตัวพบบัตรเอทีเอ็มของนายนายโยชิโนริ จึงได้แจ้งความดำเนินคดีกับนางพรชนกในข้อหาลักบัตรเอทีเอ็ม แต่ได้ประกันตัวในชั้นศาลแล้วหลบหนีไป ต่อมามีการตรวจสอบบัญชี พบว่า นางพรชนก ได้นำบัตรเอทีเอ็มดังกล่าวไปกดเงิน ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย. 57 เป็นต้นมา จำนวน 14 ครั้ง ได้เงินไป จำนวน 720,000 บาท

กระทั่งตำรวจตรวจสอบเงื่อนปมน่าสงสัย พบว่า นางพรชนก เคยมีความสัมพันธ์กับชายชาวญี่ปุ่นหลายคน และน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของนายโยชิโนริ เจ้าหน้าที่จึงออกติดตามตัวมาสอบสวนอีกครั้ง พบว่าหลบหนีไปกับนายสมชาย แก้วบางยาง สามีคนขับแท็กซี่ ไปอยู่ที่บ้านพักใน จ.อ่างทอง ต่อมา เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 57 เจ้าหน้าที่ทหารได้พบตัว นางพรชนก และนายสมชาย จึงเชิญตัวมาสอบถามข้อเท็จจริง จากการสอบสวนนางพรชนก ยังให้การปฏิเสธ ส่วนนายสมชาย ให้การรับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 57 เวลาประมาณ 17.00 น. ขณะที่กำลังขับรถแท็กซี่ นางพรชนกได้โทรศัพท์ให้ไปพบที่บ้าน ภายในหมู่บ้านออร์คิดวิลล่า เลขที่ 201/237 หมู่ 7 ถนนบางนา-ตราด ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ เมื่อไปถึงนางพรชนกได้พาขึ้นไปบนห้องนอนชั้น 2 พบนายโยชิโนริ นอนนิ่งใบหน้าเขียวคล้ำ เชื่อว่าเสียชีวิตแล้ว นางพรชนกกลัวความผิด จึงได้ร่วมกันวางแผนจะทำลายศพ เพื่อปกปิดการตาย จากนั้นนายสมชายได้ใช้มีดและค้อน หั่นศพออกเป็นชิ้นๆ บรรจุในถุงปุ๋ย 4 ถุง แล้วนำใส่ท้ายรถแท็กซี่ เพื่อไปทิ้งยังสะพานข้ามคลองสนามพลี

จนเจ้าหน้าที่ตำรวจพบชิ้นส่วนของผู้ตายจนครบและมีการตรวจดีเอ็นเอยืนยันแล้วว่าชิ้นส่วนที่พบเป็นของนายโยชิโนริ รวมทั้งผู้ต้องหาก็ได้ให้การรับสารภาพทั้งหมดแล้ว ทางตำรวจนครบาลส่งมอบสำนวนให้พนักงานสอบสวนของ สน.บางเสาธง ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป

ฮ.ดิ่งพะเยา สุดโศก!!สิ้น รอง มทภ.3 และคณะร่วมเดินทาง

เหตุสะเทือนขวัญชาวไทยรอบปี โศกนาฏกรรมพรากชีวิตเหล่าทหารกล้า 9 นาย รวมถึงท่านรองแม่ทัพภาคที่ 3

ทวนเข็มนาฬิกากลับไปเมื่อวันที่ 17 พ.ย. 57 เกิดอุบัติเหตุ ฮ.แบบเบล 212 ที่นำคณะ พล.ต.ทรงพล ทองจีน รองแม่ทัพภาคที่ 3 นั่งไปด้วย ขาดการติดต่อและเกิดอุบัติเหตุตกในรัศมีไม่เกิน 10 กม.บริเวณ บ.ดอกบัว ต.ท่าวังทอง อ.เมืองพะเยา หลังยกตัวบินจากค่ายขุนเจืองฯ ร.17 ประมาณ 10 นาที - จนท.ได้ช่วยกันออกตามหา พบซากตกฟื้นระเบิดและไฟไหม้ กลางทุ่งนาบ้านเจอบัว ภายหลังมีรายงานด่วนจากฝ่ายยุทธการ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ได้รับรายงานจาก ทภ.3 ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ ขั้นต้นคาดว่าผู้โดยสาร นักบิน และช่างเครื่องรวม 9 นาย เสียชีวิตทั้งหมด ซึ่งมีรายชื่อดังนี้ (1)พล.ต.ทรงพล ทองจีน (รอง มทภ.3) (2)พ.อ.กิตติ สุวรรณเจริญ(รอง ผอ.กกบ.ทภ.3) (3)พ.อ.ยุทธพงษ์ เพื่อนฝูง(ฝยย.ทภ.3) (4)พ.ท.วุฒิศักดิ์ สุนทรสุข(ผช.นายทหารฝ่ายส่งกำลังบำรุง ทภ.3) (5)จ.ส.อ.อนันต์ ชมเชียงคำ(ขรก.ผยย.ทภ.3) (6)พ.ท.มานิต สุรเสนา(นักบิน) (7)ร.อ.วรพงษ์ ช่างสลัก(นักบิน) (8)จ.ส.อ.สมภพ มาลัยวงศ์(ช่างเครื่อง) (9)จ.ส.อ.อพิรุณ แสนดอนคู่(ช่างเครื่อง)

ทั้งนี้ คณะนายทหารทั้งหมด นำโดย พล.ต. ทรงพล ทองจีน รองแม่ทัพภาคที่ 3 ได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบล 212 เพื่อทำการตรวจเยี่ยมงานด้านการซ่อมแซมอาคารและสิ่งปลูกสร้างของหน่วยทหารในพื้นที่จังหวัดลำปาง โดยจะมีการสร้างในปีงบประมาณ 2558 หลังจากช่วงเที่ยง ก็ได้เดินทางไปตรวจที่ค่ายประตูผา อ.งาว จ.ลำปาง เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ จึงเดินทางไปที่ จ.พะเยา ต่อ ก่อนจะประสบเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก ส่วนสาเหตุที่เฮลิคอปเตอร์ตกนั้น พล.ท. สาธิต พิธรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 3 เปิดเผยว่า เครื่องยนต์เฮลิคอปเตอร์เกิดขัดข้อง จนวันที่ 18 พ.ย. 57 ได้นำศพนายทหาร 9 นาย มาทำพิธีที่วัดคูหาสวรรค์ จ.พิษณุโลก โดยมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ แก่เจ้าหน้าที่ทหารทั้ง 9 นาย

14 ศพ ตึกถล่มคลอง 6 โศกนาฏกรรมเซ่นสะเพร่าวิศวกร

โศกนาฏกรรมโหดร้าย "อาชีพก่อสร้าง" เผชิญความสะเพร่าวิศวกร นำไปสู่การเสียชีวิต 14 ราย เหตุตึกถล่มคลอง 6 ปทุมธานี

เมื่อเวลา 16.30 น. (วันที่ 11 ส.ค. 57) พ.ต.ต.สมบูรณ์ ชอบโคกกรวด สารวัตรเวรสอบสวน สภ.คลองห้า ได้รับแจ้งเกิดเหตุอาคารกำลังก่อสร้างเป็นหอพักอาศัย ชื่อ ยูคอนโด สูง 6 ชั้น ของบริษัท ปลูกแปลง จำกัด สร้างจำนวน 2 อาคาร ถล่มลงมา 1 อาคาร ภายในหมู่บ้านปัญญากร ถนนเลียบคลองหก ม.2 ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 14 ราย และมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 25 คน รวมคนงานผู้ประสบภัย 39 คนที่อยู่ในวันเกิดเหตุ ต่อมา นายอมร พิมานมาศ รองเลขาธิการสภาวิศวกร แถลงสาเหตุอาคาร 6 ชั้นบริเวณรังสิตคลอง 6 ที่กำลังก่อสร้างถล่ม ว่า การถล่มของอาคารเกิดที่จุดใดจุดหนึ่งแล้วลามไปทั่วอาคาร ซึ่งสังเกตได้จากพื้นทั้ง 5 ชั้น ถล่มลงมาซ้อนกัน รวมถึงอาคารที่กำลังก่อสร้างมีความอ่อนแอเพราะคอนกรีตยังไม่ได้อายุ สภาวิศวกร สรุปสาเหตุที่อาคารถล่มระหว่างก่อสร้างมี 5 สาเหตุ คือ 1.ก่อสร้างเร่งรีบเกินไป 2. การค้ำยันไม่เพียงพอ ถอดค้ำยันเร็วเกินไป คอนกรีตยังไม่แข็งตัว หรือเทคอนกรีตบางจุดมากเกินไป