หนุ่มรักคุด ฆ่ารัดคอกิ๊กสาว ก่อนผูกคอตายตาม
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม หนุ่มรักคุด ฆ่ารัดคอกิ๊กสาว ก่อนผูกคอตายตาม
พ.ต.ท.ประเทือง ผลมานะ สารวัตรเวร สภ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากพนักงานบ้านต้นไทรกาเด้นรีสอร์ท ถนนนาใน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ว่าพบศพผู้เสียชีวิตภายในห้องหมายเลข 204 โดยไม่ทราบสาเหตุจำนวน 2 รายจึงรีบไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธุ์ ผกก.สภ.กระทู้ กำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนในสังกัด พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ หนูผึ้ง นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการ สพฐ.จ.ภูเก็ต และมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตที่เกิดเหตุเป็นรีสอร์ทให้เช่ารายวันและรายเดือน พบประตูหน้าล็อคลูกบิดจากด้านใน แต่บริเวณหน้าต่างมุ้งลวดถูกเปิดออก ทราบจากพนักงานว่า เป็นคนเปิดหน้าต่างดังกล่าว เมื่อมองลอดเข้าไปพบศพ
ศพแรกเป็นชายไม่สวมเสื้อ นุ่งเพียงกางเกงชั้นในสีขาว ใช้เชื้อเชิ้ตลายทางขาวฟ้าผูกคอกับราวผ้าม่านบริเวณหน้าต่าง สภาพลิ้นจุกปาก ไม่พบบาดแผลตามร่างกายทราบชื่อ นายประสิทธิ์ อินทโร อายุ 43 ปี ชาว จ.ตรัง เป็น สมาชิกสภาอบต.วังมะปรางเหนือ
ส่วนหญิงสาวที่เสียชีวิตอยู่บนเตียงนอน ถูกรัดคอด้วยเข็มขัดหนังสีน้ำตาล ทราบชื่อคือ น.ส.ยุวดี ศรีเกษ อายุ 29 ปี ชาวจ.ตรัง เป็นแคชเชียร์โรงแรมแห่งหนึ่งในหาดป่าตองนั่นเอง ทั้งคู่เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 12 ชม. ภายในห้องยังคงเปิดแอร์อยู่ ที่โต๊ะปลายเตียง มีข้าวของ กระเป๋าสะพาย ใกล้กันมีกระดาษเขียนด้วยลายมือขอโทษสิ่งที่เกิดขึ้นสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายประสิทธิ์ ได้ขี่จยย.มาเปิดห้องพักรายวัน และไม่มีใครสนใจจนกระทั่ง พนักงานทำความสะอาดมาพบศพ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า นายประสิทธิ์ อาจแอบคบหากับ น.ส.ยุวดี เนื่องจากตัวเองมีครอบครัวอยู่ที่แล้วใน จ.ตรัง ภายหลัง น.ส.ยุวดี อาจรู้เรื่องจึงได้บอกเลิก ไปคบหากับหนุ่มต่างชาติ แต่นายประสิทธิ์ ไม่ยอม กระทั่งมีปากเสียงถึงขั้นขึ้นโรงพักแจ้งความไว้เป็นหลักฐานมาแล้ว เมื่อหลายเดือนก่อน ทางเจ้าหน้าที่คาดว่า ก่อนเกิดเหตุนายประสิทธิ์ อาจนัดกับ น.ส.ยุวดี มาเคลียร์ปัญหาความรักกันเป็นครั้งสุดท้าย แต่ขณะที่ น.ส.ยุวดี กำลังนอนหลับอยู่บนเตียงนอน นายประสิทธิ์ ได้เขียนจดหมายขอโทษผู้เป็นแม่ พร้อมกับฝากดูแลลูกและมอบเงินให้ตามบัญชีธนาคาร ก่อนใช้เข็มขัดหนังของตัวเองรัดคอ น.ส.ยุวดี จนขาดใจตาย จากนั้น นายประสิทธิ์ ได้ใช้เสื้อเชิ้ตแขวนคอตัวเองกับราวผ้าม่านตายตาม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป