จากเหตุการณ์เจ้าของร้านมดดำ คอฟฟี่ ถนนพิชัยสงคราม อ.เมือง จ.พิษณุโลก ถูกหญิงสาวลักษณะอ้วน วัยกลางคนที่ใช้ชื่อว่า เจ๊หมวย
มาหลอกเอาเงินสดไปจำนวน 4,000 กว่าบาท เมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยหญิงคนดังกล่าวทำทีมาสั่งซื้อกาแฟสดจำนวน 20 แก้ว แล้วชวนเจ้าของร้านคุย หว่านล้อมขายบัตรทอง สุดท้าย เจ้าของร้านหลงเชื่อ หยิบเงินในกระเป๋าและให้หญิงคนดังกล่าวไปจำนวน 4,000 กว่าบาทโดยไม่รู้ตัว กระทั่งตั้งสติได้จึงแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพิษณุโลก ให้ติดตามตัว
เปิดเผยว่า จากการติดตามสืบสวนทราบว่าคนร้ายไม่ได้กระทำผิดที่พิษณุโลกที่เดียว มีการตระเวนกระทำผิดหลายท้องที่ เช่นอุตรดิตถ์และนครสวรรค ก็อาจเป็นคนร้ายคนเดียวกัน ในการสอบสวนได้ภาพจากกล้องวงจรปิด เห็นภาพคนร้ายชัดเจน วันนี้พนักงานสอบสวนก็จะไปขออนุมัติขอหมายศาลเพื่อติดตามตัวผู้กระทำความผิด ส่วนบัตรทองที่เป็นหลักฐานนั้น ได้นำส่งศูนย์พิสูจน์หลักฐานภาค 6 ว่า มีตัวยาอะไรใส่ในบัตรทองหรือไม่ เบื้องต้นมีฐานความผิดฉ้อโกงทรัพย์หลอกลวง แต่หากมีตัวยาผสมในบัตรทอง ก็จะมีข้อหาประทุษร้ายโดยใช้ยา ก็จะเพิ่มข้อหาประทุษร้ายโดยใช้ยา ชิงทรัพย์แต่ขณะนี้ยังคงต้องรอผลพิสูจน์หลักฐานว่ามีตัวยาอะไรผสมหรือไม่
ก่อเหตุในลักษณะใกล้เคียงกัน เข้าไปพูดจาชักจูงให้ซื้อบัตรทอง ผู้เสียหายก็จะบอกว่ามีอาการมึนงง และหลงเชื่อมอบเงินให้คนร้ายไป ขณะนี้ยังไม่ทราบชื่อของคนร้าย แต่เชื่อว่าจะยังคงตระเวนอยู่ในเขตภาคเหนือตอนล่าง เพราะจากกระแสในโซเชียลมีเดีย พบว่าคนร้ายรายนี้ไปก่อเหตุลักษณะนี้ในจังหวัดอื่น ๆ ในภาคเหนือตอนล่าง ประชาชนท่านใด พบเห็นลักษณะคนร้ายลักษณะใกล้เคียงอย่างนี้ สามารถโทรศัพท์แจ้งที่ 191 ได้ทันที ฝากเตือนประชาชนด้วย ถ้าเจอลักษณะคนเข้ามาเชิญชวนซื้อบัตรทองให้ระวังตัวด้วย อาจจะเป็นคนร้ายลักษณะนี้ได้
เปิดเผยว่า ในเรื่องนี้ยังไม่ทราบข่าวว่าเป็นมาอย่างไร แต่ที่ผ่านมาคนร้ายที่ก่อเหตุป้ายยา หรือมอมยา เหยื่อ เพื่อตบทรัพย์นั้น ส่วนใหญ่เป็นยานอนหลับทั่วไป ซึ่งยาประเภทนี้มีหลายชนิด แต่ละชนิดขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้ยา ซึ่งหากใช้ในปริมาณมากก็จะมีฤทธิ์กดประสาท ทำให้ง่วงซึม โดยไม่รู้ตัว เป็นระยะเวลาอันสั้น โดยยาประเภทนี้ไม่ควรใช้ในขณะขับรถ ซึ่งอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย