เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงายว่า มีการเผยแพร่คลิปในโซเชียลเนตเวิร์กถึงพฤติกรรมอันป่าเถื่อนของวัยรุ่น 4 คน
ที่เข้ามารุมทำร้ายลุงคนหนึ่งที่กำลังนั่งอยู่ที่หน้าร้านแห่งหนึ่ง ก่อนที่จะค้นร่างกายและเอาทรัพย์สินของลุงคนดังกล่าวไป ซึ่งผู้ที่โพสต์ภาพนั้นระบุว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่หน้าร้านขายของแห่งหนึ่งใกล้กับวัดเจษฎารามฯ ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ต่อมาผู้สื่อข่าวตามไปหาตัวลุงที่ถูกทำร้ายร่างกายจนพบคือนายเหมือน มาฆะสวัสดิ์ อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ที่ 6 ต.กาหลง อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งขณะที่ผู้สื่อข่าวตามไปที่บ้านของลุงเหมือนนั้น ก็เป็นช่วงจังหวะเดียวกันกับที่ทางลุงเหมือน ได้ออกมากับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.สันติ มณีรัตน์ ร้อยเวร สภ.เมืองสมุทรสาคร ก่อนที่จะลงไปในพื้นที่เกิดเหตุ และดำเนินการติดตามจับกุมตัววัยรุ่นที่ก่อเหตุทั้ง 4 คน มาดำเนินคดี
นายเหมือน ให้การว่า เหตุเกิดเวลาประมาณตี 2 ของวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา ระหว่างที่เฝ้ายามหน้าร้าน
ตนกินยาแก้โรคประจำตัวทำให้รู้สึกง่วงนอน จึงลงมานั่งกับพื้นแล้วเผลอหลับไประยะหนึ่ง มารู้ตัวอีกทีก็เหมือนถูกใครเตะเข้าที่คางจนมึนไปหมด แล้วก็ได้ยินเสียงๆหนึ่ง เป็นเสียงคนไทยไม่ใช่เสียงแรงงานต่างด้าว ถามว่าลุงมีทรัพย์สินอะไรบ้างส่งมาให้หมด
“ตอนนั้นลุงพูดอะไรออกไปได้แบบไม่เต็มเสียงว่าไม่มีอะไรเลย แต่กลุ่มวัยรุ่นไม่เชื่อ พากันรุมเข้ามาค้นในเสื้อและกางเกงของ ลุงก็พยายามที่จะสู้ขัดขืน แต่เหมือนมีอะไรฉีดเข้ามาที่หน้าจนลืมตาไม่ขึ้น ทำให้ถูกกลุ่มวัยรุ่นเอาเงินที่มีติดตัวอยู่ 270 บาท โทรศัพท์มือถือซัมซุงฮีโร่เครื่องละประมาณ 600 บาท กับ ไฟฉายอีก 1 กระบอกไป”นายเหมือนกล่าว
นายเหมือน กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ตนเองรับจ้างเป็น รปภ.เฝ้ายามให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง และเมื่อลาออกมาอยู่บ้านไม่นาน ทางหลานติดต่อให้มาเฝ้ายามที่หน้าร้านขายของได้ค่าจ้างวันละ 350 บาท โดยตนจะเข้ามาเฝ้ายามเวลา 6 โมงเย็น ถึง 6 โมงเช้าของทุกวัน เป็นการเฝ้าในลักษณะคล้ายกับดูแลสิ่งของก่อสร้างที่กำลังทำร้านใหม่อยู่มากกว่า จึงไม่ได้มีอาวุธอะไรติดตัว
“หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้ ลุงคงไม่รับจ้างเฝ้ายามอีกแล้ว เพราะตัวเองก็แก่มากแล้ว และไม่คุ้มกับที่จะต้องเอาชีวิตมาเสี่ยง ส่วนที่ไม่เข้าแจ้งความตั้งแต่แรกเพราะเห็นว่าไม่เสียทรัพย์สินอะไรมากมาย แค่รับบาดเจ็บที่คางบอบช้ำเท่านั้นแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกให้เข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เพื่อจะติดตามตัวกลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้มารับโทษตามกฎหมาย ลุงก็เห็นด้วยเพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้กับที่อื่นๆอีก”นายเหมือนระบุ
พร้อมกันนี้ยังอยากจะฝากบอกกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุด้วยว่า ถ้าอยากจะได้อะไรจากลุงก็บอกกันดีๆ ก็ได้ ไม่เห็นต้องทำร้ายร่างกายกันเลย ลุงแก่มากแล้วไม่มีปัญญาไปขัดขืนอะไรหรอก อยากได้อะไรก็จะให้เท่าที่มี
ด้านพ.ต.อ.จำแรง สุดใจ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร กล่าวว่า
จากลักษณะพฤติกรรมของวัยรุ่นทั้ง 4 คนที่ร่วมกันก่อเหตุ ถือเป็นการปล้นทรัพย์ ซึ่งจากภาพของกล้องวงจรปิดที่บันทึกเอาไว้ได้ เชื่อว่าจะได้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีอย่างแน่นอนเพราะตามภาพที่ปรากฎนั้นเห็นหน้าผู้ก่อเหตุอย่างชัดเจน ซึ่งก็คาดว่าน่าจะเป็นวัยรุ่นในพื้นที่นั่นเอง
“ผมสั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร เร่งสืบหาและจับกุมตัวมาโดยเร็ว เพราะถ้าปล่อยเอาไว้กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ก็จะไปสร้างความเดือดร้อนให้แก่คนอื่นๆอีก หรือไม่ก็อาจจะไปร่วมกันก่อเหตุในลักษณะที่รุนแรงมากกว่านี้ ส่วนข้อหาที่ทั้งหมดจะต้องถูกดำเนินคดีคือ ร่วมกันปล้นทรัพย์และทำร้ายร่างกายผู้อื่น”พ.ต.อ.จำแรง กล่าว