ที่แท้วัยรุ่นขับรถแหกด่านล้มเอง-หัวฟาดพื้น!! ตร.แจงยิบ

ที่แท้วัยรุ่นขับรถแหกด่านล้มเอง-หัวฟาดพื้น!! ตร.แจงยิบ-หลังคลิปว่อนทำร้ายปชช.

 เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ในโลกออนไลน์มีการแชร์คลิปที่อ้างว่าตำรวจตีหัวชายคนหนึ่ง จนอาการสาหัส มีแผลฉีกที่ศีรษะ ยาว 2 นิ้ว นำส่ง รพ.วชิระฯ ถึงขั้นต้องผ่าตัดสมอง โดยมีข้อความว่า

 ตำรวจ : เรียกให้จอดทำไมไม่จอด
 คนเจ็บ : ตีหัวผมทำไม?

 โดยชายในคลิปพูดซ้ำๆว่า “ตีผมทำไม” ทั้งนี้ชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์ว่า วัยรุ่นน่าจะได้รับบาดเจ็บ จากการขับรถจักรยานยนต์แหกด่านตำรวจ พร้อมตั้งคำถามว่าการกระทำเช่นนี้รุนแรงไปหรือไม่

 ด้านพล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต เผยว่า ยังไม่ได้รับรายงานกรณีนี้ แต่จะตรวจสอบหาข้อเท็จจริงในพื้นที่ต่อไป ยืนยันว่า หาก ตร.ทำเกินกว่าเหตุ จะดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

 ทั้งนี้จากกรณีที่ ในโลกโซเชียล ได้มีแชร์คลิป “วัยรุ่นอ้างถูกตร.ตั้งด่าน ตีหัวแตก จยย.ล้ม” เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 01.30 น. วันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา บริเวณด่านตรวจ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต บริเวณ ปากซอยเชิงคีรี ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วนั้น

 ล่าสุดวันที่ 7 ธ.ค. พ.ต.อ.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต กล่าวว่า ได้รับการรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว

ตั้งแต่คืนเกิดเหตุ และมีการตั้งคณะกรรมการสอบให้เขียนรายงานเรื่องดังกล่าว และจากการลงพื้นที่ตรวจสอบหาข้อเท็จจริง พบว่าทั้งพยานหลักฐานและพยานในที่เกิดเหตุ ที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยืนยันว่า ผู้บาดเจ็บได้ขับรถ จยย.มาด้วยกัน 2 คัน  เมื่อเลี้ยวมาเจอด่าน เพื่อนของผู้บาดเจ็บได้ขับหลบหนีแหกด่านไปได้ 1 คัน แต่ตัวผู้บาดเจ็บได้หักหลบเจ้าหน้าที่ จนเกือบชนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังตั้งด่านกันอยู่หลายนาย และจุดเกิดเหตุเป็นเชิงสะพาน ทำให้รถจยย.ของผู้บาดเจ็บ เสียหลักล้มลงศีรษะกระแทกพื้น ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ทางเจ้าหน้าตำรวจ รวมทั้งเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรม จ.ภูเก็ต ก็ช่วยกันนำตัวส่งรพ.วิชระภูเก็ต ตำรวจนายที่อยู่ใกล้กับคนบาดเจ็บที่สุด ก็ยืนยันว่าไม่ได้ใช้ไม้หน้า 3 ตีแต่อย่างใด

 พ.ต.อ.เสริมพันธุ์ กล่าวต่ออีกว่า อยากให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำตามหน้าที่ด้วย
 
เนื่องจากการตั้งด่านในคืนเกิดเหตุนั้น ถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นคำสั่งมาจากผู้บังคับบัญชาให้เข้มงวดกวดขัน เพื่อป้องปรามเหตุอาชญากรรมในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ในกรณีนี้หากผู้บาดเจ็บไม่หลบหนีการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็คงจะไม่เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น 

 จากการที่ตนลงไปดูอาการของผู้บาดเจ็บนั้น พบกะโหลกศีรษะแตก

ซึ่งแผลเกิดขึ้นที่บริเวณด้านหลังของศีรษะ แต่บาดแผลเกิดจากการล้มเอง ไม่ใช่บาดแผลจากการตีด้วยไม้แต่อย่างใด  อย่างไรก็ตาม จะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย โดยต้องรอให้ผู้บาดเจ็บอาการดีขึ้นก่อน ขณะนี้อยู่ระหว่างการพักฟื้น จากนั้นจะมีการสอบสวนหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ญาติของผู้บาดเจ็บเอง ก็ไม่ได้ติดใจเอาความหรือจะมาแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด