จวก ตร.เร่งจับ สนธิ เอาใจนาย - แม้ว ผิดเต็มประตูกลับเงียบ

แฉ! ตท.10 เบื้องหลังสั่ง 9 ทหารแจ้งจับ สนธิ

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 2 เมษายน 2549 15:01 น.

ตท.10 เบื้องหลังสั่ง 9 ทหารเข้าแจ้งจับ สนธิ อ้างหมิ่นเบื้องสูง โดยหวังเอาใจทักษิณ ปูมบำเหน็จ ดัน พล.อ.พรชัย กรานเลิศ ขึ้นแท่น ผบ.ทบ.ขณะที่แกนนำ ตท.17-18 ยันไม่เกี่ยวกับรุ่น คนแจ้งหวังทำให้ นาย ขึ้นเป็นใหญ่

จากกรณีที่มีนายทหารรวม 9 นาย เดินทางเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กรณีที่ให้สัมภาษณ์หมิ่นสถาบัน และตีพิมพ์ทางหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ พล.ต.สุรสิทธิ์ ถาวร นายทหารที่เป็นแกนนำ จบการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 18 ปัจจุบันช่วยราชการสำนักงานของ พล.อ.พรชัย กรานเลิศ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก รวมทั้งยังสนิทสนมกับ พล.ต.พฤณฑ์ สุวรรณทัต ผบ.พล.1 รอ.เพราะเคยรับราชการใน กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์มาด้วยกัน นอกจากนั้น นายทหารที่ร่วมเดินทางไปในครั้งนั้น ยังมาจากเตรียมทหารรุ่น 1720 ที่ส่วนใหญ่อยู่ในสำนักงานของ พล.อ.พรชัย เพื่อนเตรียมทหารรุ่น 10 ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

ในขณะที่แหล่งข่าวจากเตรียมทหารรุ่น 18 ยืนยันว่า การดำเนินการของ พล.ต.สุรสิทธิ์ ไม่เกี่ยวกับเตรียมทหารรุ่น 18 แต่อย่างใด และแนวความคิดของทหารในรุ่นนี้ก็มีความหลากหลาย อย่าง พล.ต.สุรสิทธิ์ หรือ แดง ก็อยู่สำนักงานของ พล.อ.พรชัย ก็อาจจะมีแนวทางตามคนที่เขาอยู่ด้วย ที่ผ่านมา พล.ต.สุรสิทธิ์ จะอยู่กับ พล.อ.สมทัต อัตตะนันท์ อดีต ผบ.ทบ.เป็นลูกน้องที่กองทัพภาคที่ 1 มาตลอด อีกทั้งจะสนิทสนมกับ พล.ต.พฤณฑ์ เพราะอยู่ที่ ร.1 รอ. มาด้วยกัน

ทางด้าน พล.ต.ธารไชยยัณห์ ศรีสุวรรณ ประธานเตรียมทหารรุ่น 17 ยืนยันว่า เตรียมทหารรุ่น 17 ไม่มีมติให้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ดังนั้น อย่านำเรื่องรุ่นไปเกี่ยว เพราะเตรียมทหารรุ่น 17 ไม่เคยคุยกันเรื่องนี้ และไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะไปดำเนินการอะไร

ถ้ามีทหารจากเตรียมทหารรุ่น 17 ไปดำเนินการใดๆ ก็ถือเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่ใช่มติรุ่น พล.ต.ธารไชยยัณห์ กล่าวและว่า ที่เราไม่มีความเห็นหรือมีมติในเรื่องเหล่านี้ เพราะไม่ได้ฟังเนื้อความทั้งหมด อ่านและฟังปะติดปะต่อ จึงไม่ทราบข้อเท็จจริง อีกทั้งไม่ใช่หน้าที่ทหาร ถ้าไปเกี่ยว ก็ยิ่งยุ่งกันใหญ่ ทำให้แต่ละฝ่ายยิ่งเกิดอารมณ์และต้องการจะตอบโต้กัน

พล.ต.ธารไชยยัณห์ กล่าวว่า จุดยืนของทหารก็ต้องปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองตามที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด ต้องเชื่อฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชา อะไรที่จะพัฒนาไปสู่ความขัดแย้ง เราควรจะหลีกเลี่ยง

อย่างไรก็ตาม สำหรับนายทหารหน้าห้อง ของ พล.อ.พรชัย ที่เดินทางไปในครั้งนี้ นอกจาก พล.ต.สุรสิทธิ์ แล้ว ยังมี พ.อ.ศักดา แสงสนิท เดินทางไปด้วยและถือเป็นแกนนำคนหนึ่ง ที่ออกมาเคลื่อนไหว ประกอบกับ ก่อนหน้านี้ นายทหารหน้าห้อง ของ พล.อ.พรชัย เคยพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวิตร ยังเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป พล.อ.พรชัย กรานเลิศ ผช.ผบ.ทบ.จะได้ขึ้นแท่น ผบ.ทบ.คนต่อไป หลังจาก พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.คนปัจจุบัน ได้สร้างความผิดหวังให้กับ ผู้นำประเทศ กรณีเกิดปรากฏการณ์ สนธิ พบ สนธิ โดยที่ยังเป็นเรื่องคาใจของ รุ่น ตท.10 ที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ ที่ ผบ.ทบ.ถูกผู้นำม็อบล้อมกรอบอย่างหมดลายชายชาติทหาร

นอกจากนั้น ก่อนหน้านี้ พล.อ.พรชัย กรานเลิศ ผช.ผบ.ทบ.ในฐานะแกนนำรุ่น ตท.10 เพื่อนร่วมรุ่นทักษิณ ได้ออกมาเคลื่อนไหว เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยมีการรวมพลเพื่อนร่วมรุ่น ตท.10 ที่กองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน (พล.ปตอ.) ประกอบด้วย พล.ต.พฤณฑ์ สุวรรณทัต ผบ.พล.1 รอ., พล.ต.ศานิต พรหมาศ ผบ.พล.ม.2 , พล.ต.เรืองศักดิ์ ทองดี ผบ.พล.ปตอ.เป็นเจ้าของสถานที่ พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต หน.ฝสธ.รมว.กห. พล.ท.จิรสิทธิ์ เกษะโกมล แม่ทัพน้อยที่ 1 รอ
พล.ต.ทวนชัย พันธ์เพิ่มศิริ รอง จก.ทหารช่าง พล.ต.กิตติทัศน์ บำเหน็จพันธ์ จก.สวัสดิการทหารบก พล.ร.ท.วัลลภ เกิดผล รอง เสธ.ทร. พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต เสธ.ทอ. พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ พล.ต.ท.วงกต มณีรินทร์ ผช.ผบ.ตร.รวมทั้งนายทหารระดับแกนนำจากทุกเหล่าทัพอีกหลายคนเข้าร่วมประชุม

โดยการหารือวันนั้น เป็นการคุยถึงท่าทีของรุ่น รวมถึงสถานการณ์บ้านเมืองที่ขณะนี้ดูเหมือนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะเพื่อนร่วมรุ่น ถูกกระแสต่อต้านโจมตีอย่างหนัก จนล่าสุด นายทหารหน้าห้อง รวม 9 นาย ตบเท้าเข้าร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับนายสนธิ ดังกล่าว

จวก ตร.เร่งจับ สนธิ เอาใจนาย - แม้ว ผิดเต็มประตูกลับเงียบ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 2 เมษายน 2549 15:10 น.

ทีมกฎหมายประชาธิปัตย์ ชี้ ตร.ต้องตั้งคณะกรรมการสอบ สนธิก่อนออกหมายเรียก กรณีโดนกล่าวหาหมิ่นเบื้องสูง เชื่อเร่งออกหมายจับแค่หวังเอาใจนาย ขณะที่ พีระพันธ์ แปลกใจ ทหาร-ตร.เต้นคดีหมิ่นฯ แต่กรณี แม้ว ผิดเต็มๆ กลับเงียบเป็นเป่าสาก

นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมดำเนินการจับกุมตัวนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า ตามขั้นตอนปกติต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนว่าข้อกล่าวหามีมูลความผิดหรือไม่ หากมีมูลก็ต้องออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหามาให้การ หากไม่มาถึงจะออกหมายจับโดยต้องขออนุญาตศาลด้วย

เรื่องนี้จะอ้างว่าเป็นเรื่องใหญ่กลัวผู้ถูกกล่าวหาหลบหนีไม่ได้ ทุกอย่างต้องทำตามขั้นตอนและเท่าเทียมกันทุกคน ที่สำคัญเขามีธุรกิจมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่งสามารถหาตัวได้อยู่แล้ว ข้ออ้างนี้ฟังไม่ขึ้น ผมเชื่อว่าเรื่องนี้ต้องมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องแน่นอน ทำเพื่อหวังเอาใจนาย

ด้าน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ประชาชนต้องได้รับความเสมอภาคทุกคน แต่กรณีของนายสนธิเมื่อเทียบกับกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่แสดงความไม่เหมาะสมและดูเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่ชัดเจนมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการเอาธงทรงพระเจริญไปโบกต้อนรับตอนไปปราศรัยหาเสียง หรือการบอกให้ในหลวงทรงกระซิบ ดังนั้น หากจะจับกุมนายสนธิในข้อหานี้ก็ต้องจับกุม พ.ต.ท.ทักษิณด้วย

ความจริงข้อหานี้ทางตำรวจสามารถดำเนินการได้เองโดยไม่ต้องให้ใครมาแจ้งความ เพราะถือเป็นข้อหาฉกรรจ์และเป็นเรื่องความรู้สึกของประชาชน ทำให้ตั้งข้อสังเกตได้ว่ากรณีของนายกฯ ที่หนักกว่าทำไมทางนายทหาร ตำรวจไม่รู้สึก ทั้งที่พูดออกมาชัดเจนขนาดนั้นก็ยังนิ่งเฉยเหมือนไม่ได้ยิน แต่พอคุณสนธิที่มีความเห็นตรงกันข้ามกับนายกฯ ออกมาพูดทั้งที่ไม่ชัดเจนเท่าก็กลับมีท่าทีขึงขังจะจัดการทันที สิ่งนี้สร้างความรู้สึกให้กับประชาชนพอสมควร ว่าทำไมถึงมีสองมาตรฐาน ทำให้อดมองไม่ได้ว่ามีคำสั่งจากฝ่ายการเมืองมาเกี่ยวข้องหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าว

โฆษก ตร.ยัน สนธิ ยังไม่ใช่ผู้ต้องหาไปไหนมาไหนได้

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 2 เมษายน 2549 16:43 น.

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปฏิเสธข่าว ตำรวจเตรียมจับ สนธิ พร้อมยืนยัน สนธิ ยังไม่ใช่ผู้ต้องหา สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ แนะผู้ที่เห็นว่า สนธิ หมิ่นฯควรตั้งทนายฟ้องร้องเอาเอง อย่าใช้ตำรวจเป็นเครื่องมือ ให้สังคมด่าตำรวจอีกเลย

วันนี้ (2 เม.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน พล.ต.ท.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดแถลงข่าวกรณีความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคดีที่มีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ว่า ล่าสุด จนถึงขณะนี้ คดีดังกล่าวมีผู้เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีทั่วประเทศรวม 37 ราย โดยมี พล.ต.ท.ชลอ ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน และขณะนี้ พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ให้ครบถ้วน และยังไม่มีการออกหมายเรียก หรือหมายจับแต่อย่างใด โดยที่ นายสนธิ ก็ยังไม่ได้เป็นผู้ต้องหา สามารถที่จะเดินทางเข้า-ออก นอกประเทศได้อย่างถูกต้อง

พล.ต.ท.อชิรวิทย์ กล่าวในนามของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขอปฎิเสธข่าวที่ สตช.จะมีการจับกุม นายสนธิ ว่าเรื่องดังกล่าว ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และเรื่องนี้ ถือเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เพราะฉนั้น พนักงานสอบสวนจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ดีที่สุด นอกจากนั้น การรวบรวมหลักฐานของตำรวจก็ยังต้องทำความเห็นเสนอไปยังศาล เพื่อขออนุมัติออกหมายจับ โดยตำรวจจะออกหมายจับโดยพลการไม่ได้ เพราะฉนั้น การจะออกหมายจับได้หรือไม่ได้ ต้องดูที่พยานหลักฐาน ขณะนี้มีการพิจารณา กันอย่างรอบคอบ โดยนำคำพิพากษาของศาลฎีกา 2 คดีมาเทียบเคียงกัน พร้อมกับได้ระดมนักกฎหมาย และชุดชอบสวนมือดี มาร่วมกันพิจารณาอย่างรอบคอบ

โฆษก สตช.กล่าวว่า ขณะนี้ มีการเสนอให้นำอัยการเข้ามาร่วมพิจารณา ในคดีนี้ด้วย เพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่าย ซึ่งเชื่อว่า หัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนคงจะดำเนินการตามที่เสนอ เพื่อไม่ให้เป็นข้อครหาว่า ตำรวจทำการสอบสวนฝ่ายเดียว ฉนั้นคดีนี้ ขอเวลาให้พนักงานสอบสวนทำงานอย่างอิสระ ขออย่าได้ตำนิตำรวจว่า ตำรวจจะตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายใด

พล.ต.ท.อชิรวิทย์ ยังได้ชี้แจง กรณีที่มีการกล่าวหา ตำรวจว่า ดำเนินการกับฝ่ายหนึ่งแล้ว ไม่ดำเนินการกับอีกฝ่ายนั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยได้ยกเหตุการณ์ที่ผ่านมา 4 เหตุการณ์ 1. เมื่อวันที่ 30 มี.ค.กลุ่มพันธมิตรล้อม กกต.ที่อาคารศรีจุลทรัพย์ ท้องที่ สน.ปทุมวัน ขณะนี้ จากการตรวจสอบไปที่ สน.ปทุมวัน ได้แจ้งความไว้ 1 ราย โดยอยู่ระหว่างรอสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐาน ที่ผู้แจ้งจะเป็นคนเสนอมา 2.กลุ่มคาราวานคนจน ล้อมตึกคมชัดลึก ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มีผู้ไปแจ้งความที่ สน.บางนา ว่าไม่สามารถเข้าไปในอาคารได้ เนื่องจากต้องเข้าไปเรียนภาษาอังกฤษ ขณะนี้ ก็อยู่ระหว่างการดำเนินการสอบสวน 3. ที่จังหวัดเชียงใหม่ กรณีกลุ่มม็อบสนับสนุน นายกรัฐมนตรี ล้อมเวที ปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับแจ้งจาก สภ.อ.ภูพิงค์ จังหวัดเชียบใหม่ ว่ายังไม่มีผู้แจ้งความ จึงขอเรียนว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ ไปแจ้งความ ก็พร้อมที่จะดำเนินคดีให้ เพราะขณะนี้ ได้เก็บหลักฐานไว้เป็นจำนวนมาก รวมทั้งเหตุการณ์ในวันนั้น ตำรวจก็พยายามดูแลความปลอดภัยให้อย่างดีที่สุด และ 4. กรณีสตรีขับรถฝ่ากลุ่มพันธมิตร บริเวณหน้าสยามพารากอน โดยต่างฝ่ายแจ้งความ ที่ สน.ปทุมวัน ซึ่งจากการไกล่เกลี่ยทั้ง 2 ฝ่าย ก็ยอมยุติเรื่อง

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.อชิรวิทย์ ย้ำว่า เหตุที่ยกตัวอย่าง 4 เหตุการณ์ข้างต้น เพื่อให้เห็นว่า คดีที่เกิดขึ้นไม่มีการทำร้ายกันถึงขั้นบาดเจ็บ แต่เชือดเฉือนกันด้วยวาจาคำพูด กระทบกระทั่งกันทางอารมณ์ จึงขอให้โปรดพิจารณา ให้ทุกฝ่าย น่าจะมีการให้อภัยกัน เพราะคนไทย สามารถให้อภัยกันได้ ปรองดองกันได้ ตำรวจขณะนี้ ตกอยู่ในสภาพลำบากใจที่สุด มีการพูดจาผ่านสื่อต่างๆว่า จะมีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับฝ่ายตรงข้ามหรือไม่ ดังนั้น จึงอยากจะเรียกร้องให้ ผู้ที่เห็นว่ามีการทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น บทเวทีปราศรัยต่างๆเพื่อไม่ให้ตำรวจตกเป็นผู้ต้องหาของสังคม โปรดแต่งทนายความฟ้องต่อศาลเอาเอง โดยไม่ต้องแจ้งความให้ตำรวจ รับภาระ และถูกกล่าวหาว่า เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด

"ตำรวจอยู่ในภาวะที่กลื่นไม่เข้า คายไม่ออก หัวเราะไม่ได้ ร้องไห้ไม่ได้ เพราะทุกคนใช้ตำรวจ เป็นเครื่องระบายอารมณ์ เราพยายาม จะให้สันติสุข คืนมาสู่ระบอบประชาธิปไตย ตอนนี้เรียกร้องให้อภัยกันเป็นหลัก ปัญหาบ้านเมืองก็คลี่คลายได้ ขณะที่สื่อหากนำเอาความรุนแรงมาเผยแพร่ ก็จะทำให้เกิดปัญหาซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ขณะนี้ บ้านเราต้องการความสามัคคีธรรม ไม่ต้องการความขัดแย้ง"พล.ต.ท.อชิรวิทย์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการประสานไปยัง สำนักงานอัยการ เพื่อร่วมสอบสวนคดีของนายสนธิ วันใด พล.ต.ท.อชิรวิทย์ กล่าวว่าอย่างช้าไม่น่าจะเกินเที่ยงวันพรุ่งนี้ พร้อมกับยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรม และต้องใช้ความรอบคอบในการพิจารณา ให้มากที่สุด

ต่อข้อถามว่า พล.ต.ท.ชลอ ชูวงศ์ หัวหน้าชุดพนักงานสืบสวนสอบสวน เป็นเพื่อนกับนายกรัฐมนตรี นายสนธิ อาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในการสอบสวน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเปลี่ยนหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนได้หรือไม่ โฆษก สตช.กล่าวว่า หากนายสนธิ เห็นว่า อาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็สามารถยื่นคำร้องเข้ามาได้ พร้อมกับยืนยันอีกครั้งว่า นายสนธิ ยังไม่ได้ตกเป็นผู้ต้องหา ในชั้นนี้ เป็นการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้นเท่านั้น

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์