ผู้ค้าน้ำมันเถื่อน จ.นราธิวาส แฉขบวนการเก็บส่วยน้ำมันมีมากถึง 22 ชุด ด้านแม่ทัพภาค 4 ลั่นเป็นภัยต่อความมั่นคง เผยมีหลักฐานให้การสนับสนุนทางการเงินกับแนวร่วมที่ปฏิบัติการก่อความไม่สงบ
อวันที่ 2 ธ.ค. พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า
กอ.รมน.ภาค 4 มีหลักฐานทั้งบุคคลและพยานเอกสารที่ยืนยันว่า ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนในจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นภัยต่อความมั่นคง เพราะให้การสนับสนุนทางการเงินกับแนวร่วมที่ปฏิบัติการก่อความไม่สงบ และแม้ว่าขณะนี้ นายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือเสี่ยโจ้ จะอยู่ระหว่างการหลบหนี แต่ชุดปฏิบัติการภัยแทรกซ้อนของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยังคงติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ซื้อน้ำมันเถื่อนจากเสี่ยโจ้ ซึ่งเจ้าหน้าที่มีบัญชีรายชื่ออยู่ ทั้งที่อยู่ที่ จ.ปัตตานี นราธิวาส และที่สงขลา แต่ยอมรับว่าหลังจากที่มีข่าวเรื่องส่วยน้ำมันเถื่อน และมีการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ ทำให้ขบวนการนี้หยุดการเคลื่อนไหว ส่วนบัญชีรายชื่อของเจ้าหน้าที่รัฐที่ชุดป้องกันปราบปรามภัยแทรกซ้อนยึดได้จากบ้านเสี่ยโจ้ มีการส่งรายชื่อให้กับต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่เหล่านั้นไปก่อนหน้านี้นานแล้ว เพื่อให้แต่ละหน่วยงานดำเนินการหาข้อเท็จจริงและลงโทษกันเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายตำรวจระดับสูงที่รับส่วยน้ำมันเถื่อนในพื้นที่ภาคใต้มีมากกว่า 10 คน
โดยจะมี 3 นาย เป็นผู้คอยเก็บส่วยรายเดือนจากผู้ค้าเพื่อส่งให้ อย่างไรก็ตามผู้ค้าน้ำมันเถื่อนรายหนึ่งใน อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า หน่วยงานที่ทำหน้าที่เก็บส่วยไม่ได้มีเฉพาะตำรวจแต่มีมากถึง 22 ชุดด้วยกัน โดยบางหน่วยงานที่ไม่ค่อยมีใครกล่าวถึง และหน่วยงานราชการดังกล่าวจะมาเก็บส่วยน้ำมันเถื่อนถึงเดือนละ 3 ชุด คือ ชุดที่อ้างว่าเป็นของอำเภอ ของจังหวัด และของเขต
ในขณะที่เจ้าของปั้มน้ำมันในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา เปิดเผยว่า นอกจากบุคคลที่อ้างว่าเป็นตำรวจแล้วนั้น ยังมีผู้ที่อ้างว่ามาจากหน่วยงานอื่นระดับจังหวัดเข้ามารับส่วยน้ำมันเถื่อนด้วย หากไม่จ่ายก็จะไม่รับรองว่าเป็นน้ำมันที่ถูกต้องตามกฎหมาย.