วันนี้เตรียมเปิดตู้เซฟขนาดใหญ่ที่ยึดมาได้จากเครือข่ายของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) อีกจำนวน 3 ตู้ และในวันเดียวกันนี้ เวลา 13.30 น. เตรียมนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานกลางตำรวจ (พฐ.) เข้าตรวจสอบทรัพย์สินร้านขายของเก่า เครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ตรงข้ามกรมที่ดิน ถ.แจ้งวัฒนะ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี อีกครั้ง เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน หาความเชื่อมโยงของขบวนการอีกครั้ง เชื่อว่ายังมีทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดซุกซ่อนอยู่อีกเป็นจำนวนมาก
ส่วนความคืบหน้าการถอดยศ ของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กับพวกนั้น ยังอยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอน
ซึ่งต้องใช้เวลา เนื่องจากคดียังไม่สิ้นสุดและอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน แต่เบื้องต้น หลังจากที่มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนนั้นผู้ต้องหาก็ไม่สามารถดำเนินการใด ๆ หรือเข้ามายุ่งกับพยานหลักฐานได้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวด้วยว่า สำหรับการตรวจสอบรายชื่อบุคคลหรือหน่วยงานที่เรียกรับผลประโยชน์จากส่วยน้ำมันเถื่อนภาคใต้นั้น สำนวนการสอบสวนอยู่กับพนักงานสอบสวนซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบเช่นกัน พร้อมยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย