จากกรณีพนักงานสอบสวนสน.พระโขนง ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาที่อยู่ในเครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผบช.ก. เพิ่มเติมอีก 5 ราย
โดยเป็นญาติของพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์
ได้แก่ นายณัฐพล อัครพงศ์ปรีชา นายสิทธิศักดิ์ อัครพงศ์ปรีชา นายณรงค์ อัครพงศ์ปรีชา นายสุทธิศักดิ์ สุทธิจิตต์ และนายชากานต์ ภาคภูมิ ข้อหา ร่วมกันข่มขืนใจให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายหรือเสรีภาพ โดยมีอาวุธและกักขัง โดยร่วมกันตั้งแต่ 5 คน หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังหรือประการกระทำใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีในร่างกาย และให้ผู้อื่นนั้นกระทำการใด ให้แก่ผู้กระทำหรือบุคคลอื่น และร่วมลักทรัพย์ คดีดังกล่าวมีผู้เสียหายเป็นหญิงแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่สน.พระโขนง ว่ามีกลุ่มบุคคลที่แอบอ้างสถาบันฯ เครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ทวงหนี้หน่วงเหนี่ยวกักขังและกรรโชกทรัพย์มูลค่าทรัพย์สินจำนวน 20 ล้านบาท
มีรายงานว่า คดีดังกล่าวผู้เสียหายแจ้งความพนักงานสอบสวนสน.พระโขนง เมื่อเดือนมีนาคม 2557 หลังจากทำธุรกิจร่วมกันและมีการขัดผลประโยชน์ จากนั้นผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ร่วมกันอุ้มผู้เสียหายไปข่มขู่เอาทรัพย์สิน หลังจากศาลอนุมัติหมายจับแล้ว ชุดสืบสวนสอบสวนจับกุมนายสุทธิศักดิ์ สุทธิจิตต์ และนายชากานต์ ภาคภูมิ ผู้ต้องหา 2 ใน 5 ได้วันที่ 26 พฤศจิกายน จากนั้นควบคุมตัวไปสอบสวนที่สน.พระโขนง จากการสอบสวนทั้งคู่ให้การภาคเสธอ้างว่า เป็นการทวงหนี้สินกันไม่ได้อุ้มผู้เสียหายไปรีดทรัพย์สิน จากนั้นก็ใช้หลักทรัพย์ยื่นประกันโดยพนักงานสอบสวนอนุญาตให้ประกันตัวไป ต่อมามีเจ้าหน้าที่ทหารขอรับตัวไปควบคุมตามกฎอัยการศึก