เครือข่าย พงศ์พัฒน์ สาม อัครพงศ์ปรีชา เดินทางถึงบช.น.แล้ว นำตัวฝากขังพรุ่งนี้

เครือข่าย พงศ์พัฒน์ สาม อัครพงศ์ปรีชา เดินทางถึงบช.น.แล้ว นำตัวฝากขังพรุ่งนี้

จากกรณีพนักงานสอบสวนสน.พระโขนง ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาที่อยู่ในเครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผบช.ก. เพิ่มเติมอีก  5 ราย

โดยเป็นญาติของพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์

 ได้แก่ นายณัฐพล อัครพงศ์ปรีชา นายสิทธิศักดิ์ อัครพงศ์ปรีชา นายณรงค์ อัครพงศ์ปรีชา นายสุทธิศักดิ์ สุทธิจิตต์ และนายชากานต์ ภาคภูมิ ข้อหา ร่วมกันข่มขืนใจให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายหรือเสรีภาพ โดยมีอาวุธและกักขัง โดยร่วมกันตั้งแต่ 5 คน หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังหรือประการกระทำใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีในร่างกาย และให้ผู้อื่นนั้นกระทำการใด ให้แก่ผู้กระทำหรือบุคคลอื่น และร่วมลักทรัพย์ คดีดังกล่าวมีผู้เสียหายเป็นหญิงแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่สน.พระโขนง ว่ามีกลุ่มบุคคลที่แอบอ้างสถาบันฯ เครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ทวงหนี้หน่วงเหนี่ยวกักขังและกรรโชกทรัพย์มูลค่าทรัพย์สินจำนวน 20 ล้านบาท


ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 พฤศจิกายน

 มีรายงานว่า คดีดังกล่าวผู้เสียหายแจ้งความพนักงานสอบสวนสน.พระโขนง เมื่อเดือนมีนาคม 2557 หลังจากทำธุรกิจร่วมกันและมีการขัดผลประโยชน์ จากนั้นผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ร่วมกันอุ้มผู้เสียหายไปข่มขู่เอาทรัพย์สิน หลังจากศาลอนุมัติหมายจับแล้ว ชุดสืบสวนสอบสวนจับกุมนายสุทธิศักดิ์ สุทธิจิตต์ และนายชากานต์ ภาคภูมิ ผู้ต้องหา 2 ใน 5 ได้วันที่ 26 พฤศจิกายน จากนั้นควบคุมตัวไปสอบสวนที่สน.พระโขนง จากการสอบสวนทั้งคู่ให้การภาคเสธอ้างว่า เป็นการทวงหนี้สินกันไม่ได้อุ้มผู้เสียหายไปรีดทรัพย์สิน จากนั้นก็ใช้หลักทรัพย์ยื่นประกันโดยพนักงานสอบสวนอนุญาตให้ประกันตัวไป ต่อมามีเจ้าหน้าที่ทหารขอรับตัวไปควบคุมตามกฎอัยการศึก

เครือข่าย พงศ์พัฒน์ สาม อัครพงศ์ปรีชา เดินทางถึงบช.น.แล้ว นำตัวฝากขังพรุ่งนี้

ต่อมา เมื่อเวลา 18.30 น. ที่กองบัญชาการนครบาล (บช.น.)

พ.อ.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานกฎหมายส่วนรักษาความสงบ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ  พร้อมด้วยนำกำลังทหารติดชุดอาวุธ ควบคุมตัว นายสุทธิศักดิ์ สุทธิจิตต์ และ นายชากานต์ ภาคภูมิ ผู้ต้องหา 2 ใน 5 ราย ที่ก่อเหตุขู่กรรโชกทรัพย์พื้นที่สน.พระโขนง ส่งตัวให้ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พ.ต.อ.ฤทธิกร สายสนั่น ณ อยุธยา ผกก.สน.พระโขนง รับตัวผู้ต้องหาเพื่อทำการสอบปากคำเพิ่มเติม โดยให้ชุดสืบสวน สน.พระโขนง ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย แยกตัวสถานที่ ให้พนักงานสอบสวนบก.น.5 สอบปากคำ เพิ่มเติม โดยควบคุมตัวนายสุทธิศักดิ์สอบปากคำที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ส่วนนายชากานต์ ควบคุมตัวสอบปากคำเพิ่มเติมที่ห้องประชุมอำนวยการ กองบังคับการอำนวยการ บช.น. 

จากนั้น เมื่อเวลา 21.10 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ตำรวจหน่วยอรินทราช 26 จำนวน 10 นาย ติดอาวุธควบคุมตัวผู้ต้องหาอีก 3 ราย มาแจ้งข้อกล่างหาและสอบปากคำเพิ่มเติมคือ นายณัฐพล อัครพงศ์ปรีชา นายสิทธิศักดิ์ อัครพงศ์ปรีชา นายณรงค์ อัครพงศ์ปรีชา ผู้ต้องหาก่อเหตุขู่กรรโชกทรัพย์พื้นที่สน.พระโขนง โดยรับผู้ต้องหาทั้ง 3 คนมาจากกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์

โดยมี พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. และตำรวจสน.พระโขนง
 
เป็นผู้แสดงหมายจับให้ผู้ต้องหา 3 คน รับทราบข้อกล่าวหา ก่อนให้ชุดสืบสวน สน.พระโขนง ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย แยกตัวสถานที่ ให้พนักงานสอบสวนบก.น.5 สอบปากคำเพิ่มเติม โดยควบคุมตัวนายนายณัฐพล สอบปากคำที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 นายสิทธิศักดิ์ ไปสอบปากคำที่ห้องประชุมปารุสก์ 1 ส่วนนายชากานต์ ควบคุมตัวสอบปากคำเพิ่มเติมที่ห้องประชุมอำนวยการ กองบังคับการอำนวยการนครบาล 5 โดยจะควบคุมผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ฝากขังที่ศาลอาญาในวันที่ 28 พฤศจิกายน

ด้าน พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า การควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด 5 คน

เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด 5 ข้อ ได้แก่ ข้อหา ร่วมกันข่มขืนใจให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายหรือเสรีภาพ โดยมีอาวุธและกักขัง โดยร่วมกันตั้งแต่ 5 คน หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังหรือประการกระทำใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีในร่างกาย และให้ผู้อื่นนั้นกระทำการใด ให้แก่ผู้กระทำหรือบุคคลอื่น และร่วมลักทรัพย์ โดยแจ้งข้อหาม.112 หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ภายหลังจากที่ได้มอบอำนาจมาให้ดำเนินคดี

พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวอีกว่า กรณีที่มีผู้เสียหายแจ้งความเพิ่มเติมขู่กรรโชกทรัพย์ที่สน.วัดพระยาไกร นอกจากสน.พระโขนงนั้น

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนสน.วัดพระยาไกร ได้รวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม และจะดำเนินการออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องอีก 2-3 ราย โดยทั้งหมดเป็นพลเรือน มีพฤติกรรมที่เข้าข่ายก่อเหตุร่วมกัน ส่วนจะโยงไปถึงพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผบช.ก.หรือไม่ จะต้องตรวจสอบข้อมูลว่ามีความเชื่อมโยงอย่างไร ซึ่งจะทำการสอบปากคำผู้เสียหาย ส่วนกรณีการตรวจสอบว่ามีตำรวจที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการน้ำมันเถื่อนนั้น อาจจะมีตำรวจหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องอีก แต่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบยังไม่ได้มีการออกหมายจับเพิ่มเติมแต่อย่างใด ทั้งนี้จะเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวเพื่อขจัดเรื่องดังกล่าวให้หมดไป

เครือข่าย พงศ์พัฒน์ สาม อัครพงศ์ปรีชา เดินทางถึงบช.น.แล้ว นำตัวฝากขังพรุ่งนี้


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์