ตร.เร่งสอบ-เก๋งตกห้าง แฉผู้ตายเคยบ่น เบรกไม่ค่อยดี!
ตร.ตรวจซากเก๋งที่ตกจากลานจอดรถสูง 7 ชั้น ห้างดังย่านบางกะปิ จนสาวเจ้าของรถดับคาซาก
พบระบบเบรกและคันเร่งยังเป็นปกติ ผอ.เขตบางกะปิสั่งเจ้าหน้าที่โยธาตรวจสอบแบบก่อสร้างห้างที่เกิดเหตุว่าถูก ต้องตามมาตรฐานหรือไม่ ด้านห้างดังยันมีประกันอุบัติเหตุครอบคลุมอยู่แล้ว แต่ต้องรอผลจากตำรวจ ก่อนหามาตรการเยียวยาผู้เสียชีวิต ญาติร่ำไห้รับศพ น้องสาวยังข้องใจถึงเหตุที่เกิดขึ้น ยันพี่สาวคุ้นเคยกับรถเป็นอย่างดี เพราะใช้คนเดียวมานานถึง 6 ปี
จากกรณีเหตุสลดน.ส.สุภา ภรณ์ เวียงนาค อายุ 35 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท หลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
ขับรถยนต์ฮอนด้า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ศง 5323 กรุงเทพมหานคร ชนท้ายรถคันอื่นหลายคัน ก่อนชนกำแพงปูนกั้นลานจอดห้างดังย่านบางกะปิ ร่วงลงมาจากชั้น 7 ดับสยองคาซาก เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา ด้านสามีเผยภรรยาใช้รถคันนี้ขับมาทำงาน 3 ปีแล้ว เพิ่งขับไปซ่อมเสร็จได้แค่วันเดียว ก็มาประสบเหตุ เบื้องต้นตำรวจคาดสาเหตุจากคันเร่งค้างหรือไม่ก็เบรกแตกตามข่าวที่เสนอไป แล้ว
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 26 พ.ย. ที่สน.ลาดพร้าว พ.ต.ท.สมยศ แอบเนียม สารวัตรงานช่างเครื่องยนต์และตรวจพิสูจน์ กก.5 บก.จร. ไปตรวจสอบซากรถยนต์คันที่เกิดเหตุ พร้อมรถคู่กรณีที่ถูกเฉี่ยวชนได้รับความเสียหายอีก 3 คัน โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที
ตร.เร่งสอบ-เก๋งตกห้าง แฉผู้ตายเคยบ่น เบรกไม่ค่อยดี!
พ.ต.ท.สมยศเผยว่า การตรวจในขณะที่รถจอดอยู่ พบว่าระบบเบรกเป็นปกติ น้ำมันเบรกอยู่ในปริมาณมาตรฐาน เบรกไม่ค้าง
ส่วนคันเร่งไม่ค้าง จึงคิดว่าก่อนเกิดเหตุทั้ง 2 ระบบยังคงใช้งานได้ตามปกติ แต่การตรวจสอบในวันนี้ รถไม่สามารถเคลื่อนตัวได้ จึงยังไม่สามารถตรวจสอบประสิทธิภาพของทั้ง 2 ระบบได้ ว่าขณะรถวิ่งทุกอย่างจะปกติหรือไม่ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องให้เจ้าหน้าที่จาก กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบการทำงานของเครื่องยนต์ทั้งหมดก่อน จึงจะสามารถสรุปสาเหตุที่แท้จริงได้
ส่วนที่ศาลาว่าการกทม. นายบรรจง เหลืองรัตนมาศ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตบางกะปิ กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า
จากการลงพื้นที่เบื้องต้นพบผนังกำแพงปูนกั้นลานจอด มีการผูกเหล็กและมีความหนาประมาณ 15 เซนติเมตร จึงให้เจ้าหน้าที่โยธาเขตจัดเก็บออกทันที เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน นอกจากนี้ยังให้ตรวจสอบว่าผนังและแบบการก่อสร้างอาคารอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่ามีความถูกต้องและได้มาตรฐานหรือไม่ คาดว่าจะใช้เวลาในการตรวจสอบ 1-2 วัน เบื้องต้นบริเวณลานจอดรถชั้นที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ซ่อมผนังเสร็จแล้ว แต่ขณะนี้ปูนยังไม่แห้ง จึงได้นำแผงเหล็กมากั้น และจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเฝ้าประจำไว้ ในส่วนที่เกิดอุบัติเหตุ และในส่วนอื่นเปิดใช้ตามปกติ
วันเดียวกัน รายงานข่าวจากบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้เรื่องถึงทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว
จึงต้องเป็นเรื่องของการดำเนินคดีของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในส่วนของเดอะมอลล์เองดำเนินการจัดการในส่วนของพื้นที่บนลานจอดรถที่เกิด อุบัติเหตุ โดยต้องปิดพื้นที่ดังกล่าวไว้ก่อน รอให้คดี ดำเนินการแล้วเสร็จ จึงจะปรับปรุงพื้นที่ใหม่ให้กลับมาเป็นปกติ ต้องยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ และรอทางกองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น โดยหากทราบแล้วจะเร่งหามาตรการช่วยเหลือและเยียวยาผู้เสียชีวิต เนื่องจากเดอะมอลล์มีประกันอุบัติเหตุที่ดูแลครอบคลุมอยู่แล้ว รวมถึงต้องหาทางป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุเช่นนี้เกิดขึ้นอีก
ด้าน พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ ผกก.สน.ลาดพร้าว เผยว่า การสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ รวมทั้งผู้เสียหายรายอื่นๆ แล้ว
ไม่พบความผิดปกติใด โดยญาติผู้ตายไม่ได้ติดใจสงสัยการฆ่าตัวตาย จึงตัดประเด็นนี้ทิ้ง แต่ยังต้องตรวจสอบความผิดปกติของรถ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบรถอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากพี่สาวของผู้ตายระบุว่า น้องสาวเคยเล่าให้ฟังว่า รถมีปัญหาที่ระบบเบรก
ส่วนที่สถาบันนิติเวช ร.พ.ตำรวจ ครอบครัวน.ส.สุภาภรณ์เดินทางมารับศพท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้า
โดย น.ส.แสงเดือน เวียงนาค น้องสาวผู้ตาย กล่าวว่า ยังคงติดใจในเรื่องการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ เนื่องจากรถคันดังกล่าวไม่ได้ซ่อมระบบเบรก หรือเครื่องยนต์แต่อย่างใด เป็นเพียงการนำไปเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเท่านั้น นอกจากนั้นรถคันที่เกิดเหตุผู้ตายใช้เป็นประจำมานานถึง 6 ปีแล้ว ขณะ ที่นางสุพิน เวียงนาค มารดาผู้ตาย กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตอนนี้ต้องใช้เวลาทำใจ เนื่องจากสูญเสียลูกสาวไปอย่างกะทันหัน โดยลูกสาวเป็นคนรักครอบครัว และแสดงความห่วงใยตลอดเวลา และที่ผ่านมาไม่มีลางบอกเหตุว่าจะเกิดเรื่องขึ้น ส่วนศพจะนำไปบำเพ็ญกุศลที่ศาลา 1 วัดบำเพ็ญใต้ ย่านมีนบุรี ก่อนจะฌาปนกิจศพในวันที่ 29 พ.ย.นี้
วันเดียวกัน นายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ สื่อสารมวลชนด้านยานยนต์ชื่อดัง และผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ วิเคราะห์ถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า
สาเหตุส่วนใหญ่ของรถที่เกิดอุบัติเหตุในลานจอดรถ ไม่ว่าในกรณีนี้หรือกรณีไหนที่ตกจากลานจอดรถน่าจะเกิดจากความบกพร่องของคน ขับ เพราะคนส่วนใหญ่เวลาขับรถในอาคารจอดรถมักจะไม่มีสมาธิ และอาคารจอดรถจากสถิติจริงๆ เป็นที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด เพราะคนที่ขับเข้าไปมัวแต่มองหาช่องว่างที่จะจอด แต่ลักษณะของอาคารจอดรถในปัจจุบันไม่ได้พัฒนาควบคู่ไปกับรถ จะเห็นได้ว่าตึกหรืออาคารบางแห่งจอดรถได้ยากมาก
นายพัฒน เดชกล่าวว่า จะเห็นได้ว่าเกิดอุบัติเหตุบ่อยที่สุดคือช่วงที่เป็นทางลง เพราะคนที่ใช้รถทั่วไป
โดยเฉพาะผู้หญิงจะมีสัมภาระมาก บางคนสวมรองเท้าส้นสูง เมื่อจะขับรถก็ถอดวางไว้ สวมรองเท้าแตะขับรถแทน พอรถไหลรองเท้าส้นสูงก็เข้าไปขวางแป้นเบรก เหยียบเบรกไม่ได้ หรือกระเป๋าถือวางไว้ตรงคอนโซล เมื่อกระเป๋าหล่นมาแล้วก้มไปเก็บ ทำให้สมาธิเสีย หรือเท้าเกิดไปเหยียบคันเร่งจึงทำให้อาจเกิดอุบัติเหตุได้
นาย พัฒนเดชกล่าวอีกว่า เครื่องยนต์สมัยนี้มีกล่องควบคุมเป็นอิเล็กทรอนิกส์ โอกาสคันเร่งค้างแทบจะเป็นศูนย์
ในทางช่างจะถือว่าเป็นศูนย์ก็ว่าได้ โอกาสขัดข้องทางเบรก หรือโอกาสที่อยู่ๆ จะเร่งเครื่องขึ้นเองในแง่ทางเทคนิคแทบจะไม่น่าจะเป็นไปได้ อาจจะเกิดจากสมาธิหรือเกิดจากการตกใจ โดยส่วนตัวแล้วเวลาไปอบรมที่ไหน จะบอกเสมอว่าทันทีที่คนขับตกใจให้เอาเท้าออกจากคันเร่งไว้ก่อน อย่าเพิ่งไปคิดว่าจะเหยียบเบรกอย่างเดียว ให้ถอนเท้าออกจากคันเร่งก่อนสัก 1 วินาที จะรู้ว่าควรจะเหยียบเบรกหรือไม่
แต่บางครั้งคนขับ อาจตกใจแล้วเหยียบเบรกไปเลย ซึ่งจะเห็นว่าบางคนจะตกใจ เมื่อเห็นทางโค้งอาจจะขับตรงไปก็เป็นได้ หรือบางคนเหยียบเบรกแล้วรถอาจจะพลิกหลายตลบ มันอยู่ที่สัญชาตญาณหรือการตกใจของแต่ละคน และในขณะนั้นคนขับทำอะไร ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับรถสามารถพิสูจน์ทราบได้ง่าย