พ่อ-แม่โร่แจ้งเอาผิดรพ.ชื่อดังกทม.รักษาลูกตาย

พ่อ-แม่ใจสลาย แจ้งความเอาผิดรพ.หลังแจ้งเหตุการตายของลูกสาวเด็กทารกไม่ชัดเจน ชี้รพ.ยันรักษาลูกปลอดภัย พอจ่ายเงินให้ครึ่งล้าน ลูกกลับมาตายอย่างปริศนา

เมื่อวันที่ 25 พ.ย. น.ส.อุไรวรรณ เนตรวงษ์ อายุ 34 ปี พร้อมนายเวิน ฮานน์ แย๊บ อายุ 39 ปี สามีสัญชาติมาเลเซีย

ตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาด(ประจำประเทศไทย) บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับ ร.ต.ท.พิเชษฐ แสงหาชัย พงส.สน.หัวหมาก หลังจาก ด.ญ.อารยา มินน์ แย๊บ ลูกสาวอายุ 4 วันเสียชีวิตเนื่องจากคลอดลูกที่ รพ.แห่งหนึ่ง เหตุเกิดเมื่อเวลา 00.30น. วันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา โดย น.ส.อุไรวรรณ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ฝากครรภ์กับ รพ.แห่งหนึ่งใน กทม. เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทั้งตนและลูกมีสุขภาพดี จนกระทั่งวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา คุณหมอได้ตรวจแล้วพบว่า ท้องแข็งมีโอกาสคลอดก่อนกำหนด จึงแนะนำให้เลือกวันคลอดใหม่ จากนั้นตนกลับมาที่บ้านโดยที่ไม่มีอาการผิดปกติ จนวันที่ 14 พ.ย. เวลา 14.30 น. ตนได้ไปโรงพยาบาลตามนัด เพื่อทำการผ่าคลอด ตอนนั้นอายุครรภ์ 37 สัปดาห์กับอีก 3 วัน

หลังจากการผ่าตัด ทีมแพทย์ได้แจ้งกับสามีตน พร้อมแจ้งว่าลูกสาวมีอาการผิดปกติ

ภาวะหายใจเต้นเร็วในทารกแรกเกิดต้องใช้ออกซิเจนในการช่วยหายใจและเร่งรักษาโดยด่วน จากนั้นได้ใช้เครื่องช่วยหายใจความถี่สูง และให้ยาในการรักษาแต่ไม่ได้อธิบายว่า ต้องใช้ยาอะไร เนื่องจากสามีเป็นชาวต่างชาติจึงไม่ค่อยเข้าใจมากนัก ซึ่งตอนนั้นตนอยู่ระหว่างการพักฟื้น ต่อมาวันที่ 15 พ.ย. ประมาณ 20.00 น. หมอได้แจ้งว่า ความดันเลือดของลูกต่ำต้องใช้แก๊สไนตริกออกไซด์เพื่อให้เลือด วันต่อมาที่ 16 พ.ย. ชี้แจงว่าอาการของลูกเริ่มทรงตัว และดีขึ้นตามลำดับ แต่ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ ซึ่งหมอบอกว่าอาการไม่ร้ายแรงมากไม่ต้องเป็นห่วง พร้อมแจ้งว่าลูกอาจจะต้องอยู่โรงพยาบาลหลายวัน ให้ตนกลับไปพักฟื้นที่บ้านต่อ ตนวางใจว่าลูกไม่น่าจะเป็นอะไรแล้ว จึงเดินทางกลับบ้านพัก

น.ส.อุไรวรรณ กล่าวต่ออีกว่า พอมาถึงเมื่อวันที่ 17 พ.ย.

ตนและสามีได้ไปเยี่ยมลูกสาวอีกครั้งพบว่าอาการดีขึ้นกว่าเดิมพร้อมจ่ายเงิน ค่ารักษารวมพร้อมคอร์สฝากครรภ์ประมาณ 640,000 บาท โดยจ่ายเงินไปประมาณ 500,000 บาท ตกลงว่าที่เหลือจะจ่ายตอนลูกออกจากโรงพยาบาล เพราะลูกยังรักษาตัวอยู่จึงเดินทางกลับบ้านพัก กระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. ทางโรงพยาบาลโทรฯมาแจ้งว่าหัวใจของลูกหยุดเต้น เลือดออกเต็มปอดต้องปั๊มหัวใจ ตนและสามีรีบไปโรงพยาบาล เมื่อไปถึงพบว่ามีเลือดออกจากปากลูกเป็นจำนวนมาก บริเวณหน้าอกมีรอยฟกช้ำสีเขียว ทีมแพทย์ได้พยายามช่วยกันรักษา แต่ไม่สำเร็จ ลูกตนจึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตนและสามีเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะก่อนหน้านี้หมอบอกว่าลูกปลอดภัยแล้ว ไม่คิดว่าลูกน่าจะเสียชีวิตได้

"สามีและดิฉัน ได้ไปพูดคุยกับทางโรงพยาบาลเพื่อทราบถึงสาเหตุการเสียชีวิต โดยแพทย์ได้นำในใบมรณะบัตรมาให้ก่อนระบุว่า น้องเสียชีวิตจากภาวะความดันเลือดในปอดสูงในทารกแรกเกิด แต่ไม่ได้อธิบายว่าทำไมถึงเลือดออกจากปอดได้ ดิฉันจึงเข้าแจ้งความเอาผิดกับทางโรงพยาบาล เพราะคิดว่าเรื่องนี้ ถือว่าเป็นความผิดของโรงพยาบาลที่ไม่สามารถให้คำตอบได้ และจะนำศพลูกสาวไปชันสูตรการเสียชีวิตที่ รพ.ตำรวจอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุให้ได้ ซึ่งถ้าหากเกิดจากความผิดพลาดของทางโรงพยาบาลก็ต้องมีการรับผิดชอบ ไม่ใช่มาบอกว่าจะลดค่ารักษาให้ 20 เปอร์เซ็นต์ เพราะถ้าค่าใช่จ่ายเป็นล้านก็ยินดีจ่ายให้ได้ ถ้ามันจะทำให้ชีวิตลูกสาว คืนกลับมา"

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ลงบันทึกประจำวันเอาไว้ พร้อมรอผลชันสูตรจาก รพ.ตำรวจว่า เสียชีวิตด้วยเหตุใด ก่อนจะเรียกแพทย์ที่รักษามาสอบปากคำ หากพบว่าต้นเหตุจากการเสียชีวิตเกิดจากความผิดพลาดหรือความประมาทของทีมแพทย์ก็จะดำเนินคดีในข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้ถึงแก่ความตายต่อไป.